การรายงานแผนการปรับปรุงการดำเนินงาน [Improvement Plan] ของปีการศึกษา 2567
ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ปีการศึกษา 2566
และตามปัญหา/อุปสรรคต่างๆ ในปีการศึกษาที่ผ่านมา
คณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา
หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาชรัณสุขศาสตร์

จุดแข็งและแนวทางเสริมจุดแข็ง

# ปัญหา/อุปสรรค/ข้อคิดเห็นในปีที่ผ่านมา แนวทางการปรับปรุง/ พัฒนา โครงการ/ กิจกรรมที่รองรับ ผู้รับผิดชอบ
1) หลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่ใหม่มาก ยังไม่มีคู่แข่งและสามารถที่จะโตได้ ถ้าหลักสูตรมีการวางแผนที่ดี หลักสูตรมีเป้าหมายผลิตผู้จัดการสุขภาวะผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นความต้องการของสังคมในปัจจุบันและอนาคต สถาบันที่เปิดสอนมีน้อยมาก และใช้ชื่อหลักสูตรที่แตกต่างกัน นักเรียนและผู้ปกครองไม่ค่อยรู้จัก ควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น การส่งเอกสารประชาสัมพันธ์หลักสูตรไปยังครูแนะแนวของโรงเรียนต่าง ๆ กิจกรรม open house หรือออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความตะหนักต่อผู้สูงอายุ เพื่อให้หลักสูตรมีความน่าสนใจ เป็นต้น หลักสูตรชรัณสุขศาสตร์เป็นหลักสูตรใหม่ การดำเนินการที่ผ่านมาในระดับมหาวิทยาลัยและคณะฯได้มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามจำนวนนักศึกษายังไม่ถึงเป้าหมาย กรรมการหลักสูตรชรัณสุขศาสตร์จึงได้มีการทบทวนผลการทำงานพบว่าในปัจจุบันกลุ่มนักเรียน ใช้ช่องทาง social network โดยเฉพาะ TikTok จำนวนมาก รวมทั้งผู้สมัครให้ข้อมูลตรงกันว่าได้รับข้อมูลเรื่องหลักสูตรผ่านทาง page ของมหาวิทยาลัยและคณะฯ อย่างไรก็ตามการประชาสัมพันธ์ใน social network ยังขาด content ใหม่ๆ ดังนั้นจึงมีแนวทางการปรับปรุงดังนี้ 1)การประชาสัมพันธ์หลักสูตรผ่าน TikTokและ Facebook ของคณะฯ โดยใช้สื่อประชาสัมพันธ์ที่เป็นรูปภาพบรรยากาศการเรียนการสอน หรือ Clip VDO สั้นๆ 2) ทำ Clip VDO แนะนำอาชีพภายหลังสำเร็จการศึกษา 1) ทำcontent ใน Facebook 1 Post / สัปดาห์ 2) ทำ clip VDO เรื่องอาชีพหลังสำเร็จการศึกษา อ.ดร.ช่อผกา ดำรงไทย
2) หลักสูตรนี้ตอบสนองกับโครงสร้างสังคมไทยในปัจจุบันและอนาคต คือ สังคมผู้สูงวัย การพัฒนาเนื้อหาของรายวิชาให้ตรงกับความต้องการทั้งระดับภาคประชาชน ภาคสังคม ได้อย่างเฉพาะเจาจงมากขึ้น โครงการพัฒนา ปรับปรุงหลักสูตร ชรัณสุขศาสตร์ อ.ดร.กัลยา ก้องวัฒนากุล
3) อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคนมีคุณวุฒิสูง มีผลงานวิชาการ บางท่านมีผลงานเผยแพร่ในระดับนานาชาติ อาจารย์ควรพัฒนาผลงานทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง และมีแผนพัฒนาตนเองสู่ตำแหน่งทางวิชาการ คณะฯการวางแผนเพิ่มจำนวนผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ โดยมีกลยุทธ์ดังนี้ 1. จัดอบรมเรื่องการเขียนผลงานวิจัยเพื่อตีพิมพ์ โดยกำหนดให้อาจารย์ทุกคนทำแผนพัฒนารายบุคคลในด้านงานวิชาการ และผลงานวิจัย และมีการติดตาม 2. กำหนดให้อาจารย์ทำแผนพัฒนารายบุคคลและมีการติดตามแผนอย่างต่อเนื่อง 1. จัดอบรมเรื่องการเขียนผลงานวิจัยเพื่อการตีพิมพ์ จำนวน 1 ครั้ง 2. อาจารย์ทุกคนเขียนแผนพัฒนารายบุคคล อ.ดร.โชติกา ลักษณะพุกก์ รองคณดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาความรุ้

จุดที่ควรพัฒนาและข้อเสนอแนะในการปรับปรุง

# ปัญหา/อุปสรรค/ข้อคิดเห็นในปีที่ผ่านมา แนวทางการปรับปรุง/ พัฒนา โครงการ/ กิจกรรมที่รองรับ ผู้รับผิดชอบ
1) อาจารย์ผู้รับผิดขอบหลักสูตรยังไม่มีตำแหน่งวิชาการ ดังนั้นหลักสูตรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการส่งเสริมให้อาจารย์ผู้รับผิดขอบหลักสูตรทำวิจัย เพื่อที่จะสามารถขอตำแหน่งทางวิชาการได้ เพื่อเพิ่มจำนวนร้อยละของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ หลักสูตรจะมีลำดับขั้นตอนการพัฒนาโดยใหกำหนดให้อาจารย์ในหลักสูตรทุกคนเขียนแผนพัฒนาตนเองที่ต้องมีเรื่องการเตรียมตัวเข้าสู่ตำแหน่งวิชาการ และมีการติดตามในทุกภาคการศึกษา • การจัดทำแผนพัฒนาตนเอง • การบรรจุสาระการทำผลงานวิจัยในการประชุมหลักสูตร หัวหน้าหลักสูตร
2) ควรต้องเน้นการพัฒนางานวิจัยให้มากขึ้น โดยอาจจะเน้นปัญหาของชุมชนมากำหนดหัวข้องานวิจัย ซึ่งจะทำให้ผลงานที่ได้ไปสนับสนุนในหลายตัวบ่งชี้ และยังนำไปสู่การขอตำแหน่งทางวิชาการ ซึ่งผลงานวิชาการของอาจารย์ผู้รับผิดขอบหลักสูตรยังมีน้อย ดังนั้น หลักสูตรจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการสนับสนุนให้อาจารย์ผู้รับผิดขอบหลักสูตรทำวิจัย แนวทางเสริม> โดยให้ทุกท่านเสนอแผนการขอตำแหน่งทางวิชาการ โดยกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม มีการกำกับติดตามเป็นระยะ ๆ อย่างใกล้ชิด ประเมินการบรรลุเป้าหมายและปัญหาอุปสรรค เพื่อกระตุ้นเตือนและให้การช่วยเหลือสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมาย คณะฯการวางแผนเพิ่มจำนวนผลงานวิจัยที่ตีพิมพ์ โดยมีกลยุทธ์ดังนี้ 1. จัดอบรมเรื่องการเขียนผลงานวิจัยเพื่อตีพิมพ์ โดยกำหนดให้อาจารย์ทุกคนทำแผนพัฒนารายบุคคลในด้านงานวิชาการ และผลงานวิจัย และมีการติดตาม 2. กำหนดให้อาจารย์ทำแผนพัฒนารายบุคคลและมีการติดตามแผนอย่างต่อเนื่อง 1. จัดอบรมเรื่องการเขียนผลงานวิจัยเพื่อการตีพิมพ์ จำนวน 1 ครั้ง 2. อาจารย์ทุกคนเขียนแผนพัฒนารายบุคคล อ.ดร.โชติกา ลักษณะพุกก์ รองคณดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาความรุ้
3) จำนวนนักศึกษายังน้อย ยังไม่เข้าเป้าหมายตามจำนวนที่หลักสูตรกำหนด - แนวทางเสริม> เพิ่มจำนวนนักศึกษาแรกเข้า โดยอาจพิจารณาคุณสมบัติผู้สมัครให้กว้างขึ้น เช่น รับนักเรียนจบสายศิลป์ หรือเทียบเท่า ม.ปลาย และอาจจัดให้นักศึกษาเรียนเสริม - กระบวนการคัดเลือกอาจกระชับเชิงรุก มีการโทรหาผู้สมัครทุกคนเพื่อนัดหมายสัมภาษณ์ หรือสัมภาษณ์ในวันที่นักเรียนมาสมัคร และเปิดรับสมัครและสัมภาษณ์ทุกวัน - วิเคราะห์เหตุที่ผู้สมัครไม่ได้มารับการสัมภาษณ์ - ฯลฯ ในปัจจุบันคุณสมบัติของผู้เข้าเรียน เป็นนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือเทียบเท่า และมีการสอบสัมภาษณ์นักศึกษาเป็นรอบ เพื่อให้เป็นการรับนักศึกษาเชิงรุก จึงปรับปรุงแผนการสัมภาษณ์ไม่เกิน 2 สัปดาห์ หลังจากการสมัครเข้ามา 1. ผู้รับผิดชอบงานการรับนักศึกษาใหม่เข้าระบบเพื่อตรวจสอบรายชื่อผู้สมัครทุกสัปดาห์ 2. จัดสัมภาษณ์ภายใน 1 สัปดาห์หลังจากการสมัครและแจ้งผลทันที อ.สุวัฒนา ทองเอีย
4) หลักสูตรจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ ให้คนทั่วไปรู้ว่าหลักสูตรนี้คืออะไร เรียนอะไร และสำคัญอย่างไร เพิ่มกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนเข้าถึง และเห็นภาพบรรยากาศ การเรียนการสอน การเผยแพร่ภาพบรรยากากาศการเรียน ในช่องทางสื่อออนไลน์ ได้แก่ Facebook, TikTok เป็นต้น อ.ดร.ช่อผกา ดำรงไทย
5) การพัฒนานักศึกษา ควรสอดแทรกการพัฒนาด้านต่าง ๆ ให้ครอบคลุมโดยผ่านกิจกรรมการเรียนการสอนและการทำกิจกรรมต่าง ๆ มีการติดตามวัดผลลัพธ์การพัฒนานักศึกษาด้านต่าง ๆ เป็นระยะ เพื่อประมินผลและปรับปรุงการดำเนินการให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น จัดกิจกรรมนอกหลักสูตรโดยบูรณาการความรู้ โดยให้นักศึกษาได้ให้บริการวิชาการแก่กลุ่มผู้สูงอายุ กิจกรรมบูรณาการการเรียนการสอนกับบริการวิชาการ โดยให้นักศึกษาตรวจร่างกายแก่ผู้สูงอายุในชุมชน อ.สุวัฒนา ทองเอีย
6) ในตัวบ่งชี้เชิงคุณภาพควรต้องปรับการนำเสนอ เพื่อให้เป็นรูปแบบ PDCA ปรับปรุงรูปแบบการเขียนรายงานประจำปีให้เป็น PDCA ประชุม เข้าร่วมการอบรมการเขียนรายงานประจำปีในรูปแบบ PDCA อ.ดร.กัลยา ก้องวัฒนากุล