# |
ปัญหา/อุปสรรค/ข้อคิดเห็นในปีที่ผ่านมา |
แนวทางการปรับปรุง/ พัฒนา |
โครงการ/ กิจกรรมที่รองรับ |
ผู้รับผิดชอบ |
1) |
หลักสูตรมีระบบ กลไก และการดำเนินงาน ที่หลากหลายในการจัดการเพื่อการรับสมัครนักศึกษาให้มีจำนวนไม่น้อยกว่าที่กำหนดในแผนการรับนักศึกษา ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ในหลากหลายช่องทาง การให้ข้อมูลของการเรียนการสอนในระดับปริญญาเอกในระหว่างการสอบสัมภาษณ์ เป็นต้น ซึ่งส่งผลทำให้จำนวนนักศึกษาเข้าใหม่มีจำนวนที่มากกว่าจำนวนที่กำหนดในแผน เป็นระยะเวลามากกว่า 3 ปีต่อเนื่อง |
เนื่องจากหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิตมีจุดแข็งในการรับสมัครนักศึกษาเกินเป้าหมายต่อเนื่องมากกว่า 3 ปี ในปีการศึกษา 2567 จะมุ่งเน้นไปที่ "การ เสริมความเข้มแข็งของระบบรับสมัครให้มีคุณภาพมากขึ้น" แทนที่จะเป็นเพียงแค่เพิ่มจำนวนผู้สมัคร เช่น การคัดเลือกนักศึกษาที่เหมาะสมที่สุดกับหลักสูตร และการพัฒนากระบวนการคัดกรองที่ช่วยให้ได้กลุ่มนักศึกษาที่มีคุณภาพสูงขึ้น สำหรับแนวทางการพัฒนามีดังนี้
1.พัฒนาคอนเทนต์การตลาดที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เช่น คลิปวิดีโอแนะนำหลักสูตรที่มีศิษย์เก่า/คณาจารย์/นักศึกษาปัจจุบันแชร์ประสบการณ์
2.พัฒนากระบวนการคัดกรองและสัมภาษณ์ให้มีคุณภาพสูงขึ้น ด้วยการเพิ่มเกณฑ์การประเมินที่เน้น ศักยภาพการวิจัย ความพร้อมทางวิชาการ และความสามารถในการเรียนรู้ด้วยตนเอง
3.เสริมสร้างระบบการสนับสนุนนักศึกษาให้เกิดความผูกพันและลดอัตราการลาออก ด้วยการพัฒนาระบบ Mentorship Program ที่ให้อาจารย์และศิษย์เก่าช่วยแนะแนวทางการเรียนและการทำวิจัย |
1.โครงการ “Doctoral Connect” คือการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เชื่อมโยงนักศึกษาปัจจุบัน ศิษย์เก่า และผู้สมัครที่สนใจหลักสูตร เพื่อให้คำแนะนำและแชร์ประสบการณ์
2.โครงการ “Doctoral Ambassadors” คือโครงการคัดเลือกนักศึกษาปัจจุบันและศิษย์เก่าที่ประสบความสำเร็จมาเป็น Brand Ambassadors ช่วยโปรโมทหลักสูตรผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย งานประชุมวิชาการ |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
2) |
หลักสูตรให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมนักศึกษาเข้าใหม่ ซึ่งมาจากหลากหลายสาขาวิชาในหมวดวิชาปรับพื้นฐานที่กำหนดไว้ในภาค S และการให้ความสำคัญในการปรับความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ด้วยกระบวนการที่ส่งผลให้่นักศึกษาเข้าใหม่มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของสป.อว.และมหาวิทยาลัยรังสิต
แนวทางเสริม: ให้จัดทำตารางสรุปให้เห็นแนวโน้มของระดับความรู้ความสามารถการใช้ภาษาอังกฤษของนักศึกษาเข้าใหม่ |
จัดทำ English Language Support Center ที่ให้คำแนะนำรายบุคคลสำหรับนักศึกษาที่ต้องการเสริมทักษะเฉพาะด้าน (เช่น Academic Writing, Speaking for Research Presentation) |
โครงการ “My English Progress”
วัตถุประสงค์ คือเพื่อติดตามและพัฒนาระดับภาษาอังกฤษของนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง
กิจกรรม มี 3 ประการคือ
1.ทำรายงาน แนวโน้มของระดับภาษาอังกฤษ ของนักศึกษาและวิเคราะห์จุดอ่อน/จุดแข็งในแต่ละกลุ่ม
2.พัฒนา Personalized Learning Plan (PLP) สำหรับนักศึกษาที่ต้องการเสริมจุดอ่อน
3.ใช้ AI-based Learning Analytics ในการแนะนำคอร์สเสริมภาษาอังกฤษที่เหมาะสม |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
3) |
หลักสูตรให้ความสำคัญในการจัดระบบ กลไก และการประเมินเพื่อปรับการดำเนินงานในการควบคุมดูแลให้คำปรึกษาดุษฎีนิพนธ์แก่นักศึกษา ด้วยหลากหลายวิธี ทำให้ส่งผลให้นักศึกษารหัส 63 จำนวน 1 คนสำเร็จการศึกษาภายใน 3 ปีครึ่งและนักศึกษารหัส 64 สำเร็จการศึกษาภายใน 3ปี
แนวทางเสริม: ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรควรมีการทำตารางเวลาสำหรับการจัดทำงานวิจัยเพื่อการสำเร็จการศึกษาภายในระยะเวลาที่กำหนดของนักศึกษารหัส 65 |
1.จัดทำตารางเวลา (Timeline) การทำดุษฎีนิพนธ์ให้เป็นมาตรฐาน
1.1 พัฒนาตาราง Roadmap การทำดุษฎีนิพนธ์ ตั้งแต่ปีแรกจนจบการศึกษา เพื่อให้นักศึกษารหัส 65 และรุ่นถัดไปมีแนวทางที่ชัดเจน
1.2 กำหนด Milestones สำคัญ เช่น การสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Exam), การสอบเค้าโครงวิจัย (Proposal Defense), การเก็บข้อมูลภาคสนาม และการสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ (Final Defense)
2. เสริมกลไกการให้คำปรึกษาที่เข้มข้นขึ้น
2.1 จัดให้มี Progress Review Meeting ทุก 3-6 เดือน โดยมีอาจารย์ที่ปรึกษาและคณะกรรมการหลักสูตรร่วมกันตรวจสอบความคืบหน้าของแต่ละคน
2.2 ใช้ระบบ Peer Review หรือ Writing Workshop ให้เพื่อนร่วมรุ่นช่วยให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเนื้อหาของงานวิจัย
|
โครงการ “PhD Research Roadmap & Progress Review”
วัตถุประสงค์
1.กำหนด เส้นทางการทำวิจัย (Research Roadmap) สำหรับนักศึกษาปริญญาเอกให้มีแนวทางการทำดุษฎีนิพนธ์ที่ชัดเจน
2.ติดตามความก้าวหน้าของนักศึกษาอย่างเป็นระบบ และช่วยให้นักศึกษาสามารถจบการศึกษาได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด
3.สร้างระบบสนับสนุนให้ที่ปรึกษาและนักศึกษาสามารถสื่อสารและแก้ไขปัญหาในกระบวนการวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
4) |
หลักสูตรมีหลากหลายกิจกรรมในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในทักษะสำหรับการวิจัยและการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะการที่ได้รับความร่วมมือจากบุคลากรที่มีชื่อเสียงให้ความรู้และประสบการณ์แก่นักศึกษา ซึ่งส่งผลให้นักศึกษามีศักยภาพมากขึ้นในการทำวิจัยและการมีบทความวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในระดับนานาชาติ และงานวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ได้แก่ การศึกษาดูงานนอกสถานที่ ของรายวิชา CSI 717 เป็นต้น |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรเพื่อเสริมศักยภาพนักศึกษา มีดังนี้
1.เพิ่มการบูรณาการการเรียนรู้ผ่านโครงการวิจัยจริง
1.1 ให้โอกาสนักศึกษาทำวิจัยร่วมกับอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก
1.2 ส่งเสริมการนำเสนอผลงานวิจัยผ่านเวทีนานาชาติและการประชุมวิชาการ
1.3 สนับสนุนการพัฒนาทักษะด้านการเผยแพร่วิจัย เช่น การเขียนบทความระดับนานาชาติ
2.ออกแบบกิจกรรมการพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับศตวรรษที่ 21
2.1 เสริมทักษะด้าน AI และ Data Science สำหรับงานวิจัย
2.2 ส่งเสริม Critical Thinking และ Problem-Solving Skills
2.3 ฝึกทักษะการนำเสนอแบบมืออาชีพ ทั้งในรูปแบบ Academic Presentation และ Public Speaking |
โครงการ Community-Based Research & Innovation Hub
1. เป็นพื้นที่ทดลองทางสังคมที่ให้นักศึกษานำเสนอแนวคิดและทำวิจัยร่วมกับชุมชน โดยเน้นแนวคิด "วิจัยเพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม"
2.พัฒนาความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาสังคม
3.ส่งเสริมโครงการ Co-Research ที่ให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทในกระบวนการวิจัย
4.จัดกิจกรรมที่สร้างเครือข่ายและโอกาสในการทำงาน เช่น Social Innovation Lab, Policy Research Incubator |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
5) |
อาจารย์ประจำหลักสูตรมีศักยภาพทั้งด้านวิชาการและชื่อเสียงมีความโดดเด่นเป็นประจักษ์ได้รับการยอมรับในสังคม หลักสูตรส่งเสริมและสนับสุนให้อาจารย์พัฒนาตนเองได้รอบด้านทั้งมิติของงานวิชาการในระดับชาติและนานาชาติ และงานพัฒนานวัตกรรมทางสังคมให้แก่ประเทศชาติ |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรเพื่อส่งเสริมศักยภาพของอาจารย์ โดยเสริมสร้างความเชี่ยวชาญในศาสตร์ใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอนาคต โดยการอบรมด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย เช่น AI, Data Science for Social Innovation |
โครงการ Public Intellectual & Policy Advocacy Program
1.อบรมและส่งเสริมให้อาจารย์มีบทบาทเป็นผู้นำทางความคิดในระดับสาธารณะ และผลักดันให้มีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายสังคม
2.โครงการพัฒนาอาจารย์ให้เป็นผู้นำทางวิชาการและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม โดยมุ่งเน้นการสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่สามารถแก้ปัญหาสังคมได้จริง |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
6) |
หลักสูตรมีระบบและกลไก รวมถึงกระบวนการที่ดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มจากการพิจารณาผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นในการบริหารและพัฒนาอาจารย์ เพื่อดำเนินการปรับปรุงในหลายเรื่องของการบริหารและพัฒนาอาจารย์ ซึ่งประกอบด้วย
- คุณสมบัติของอาจารย์ผู้รับผิดชอบและอาจารย์ประจำหลักสูตร รวมถึงอาจารย์สอน อาจารย์ที่ปรึกษาและกรรมการสอบงานดุษฎีนิพนธ์ของนักศึกษา ให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา
- การจัดภาระงานของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ให้สอดคล้องตามภาระงานที่มหาวิทยาลัยกำหนด และจัดเตรียมสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ให้แก่อาจารย์
- การพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ผู้รับผิดชอบ ในสมรรถนะที่เกี่ยวข้องการเรียนการสอน การทำวิจัย และการใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 ซึ่งส่งผลให้อาจารย์มีผลงำนวิจัยอย่ำงต่อเนื่องที่มีคุณภาพสูงขึ้น ดังจะเห็นได้ว่าอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ได้รับแต่งตั้งตำแหน่งวิชาการเพิ่มขึ้น 2 ท่าน และการได้รับทุนวิจัย มูลค่าถึง 2 ล้านกว่าบาท รวมถึงมีผลงานตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาระบบบริหารและพัฒนาอาจารย์ในหลักสูตร
1.ยกระดับมาตรฐานและการบริหารจัดการอาจารย์ในหลักสูตร โดยการสนับสนุนให้อาจารย์พัฒนาตำแหน่งทางวิชาการผ่านแผนพัฒนาเส้นทางอาชีพ (Career Development Plan)
2.เพิ่มโอกาสและการสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรม สนับสนุนการสร้างความร่วมมือกับองค์กรภายนอกเพื่อขอทุนวิจัยและสร้างโครงการที่มีผลกระทบต่อสังคม และส่งเสริมการวิจัยแบบสหวิทยาการและนวัตกรรมทางสังคม
3.เสริมสร้างขีดความสามารถของอาจารย์ด้านการใช้ชีวิตในศตวรรษที่ 21 โดยการ สนับสนุนการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล เทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) |
1.โครงการ AI & Digital Transformation for Educators
เป็นโครงการอบรมอาจารย์เกี่ยวกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีดิจิทัล และแพลตฟอร์มการสอนออนไลน์ เพื่อยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน
2.Social Innovation Incubator for Faculty
เป็นโครงการบ่มเพาะงานวิจัยที่สามารถพัฒนาเป็นนวัตกรรมทางสังคม โดยให้อาจารย์ร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกและชุมชน |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
7) |
หลักสูตรมีความชัดเจนเป็นรูปธรรมในระบบ กลไก และกระบวนการในการประเมินและการนำผลประเมินมาปรับปรุงสาระรายวิชาในหลักสูตรที่ใช้สอนในปีการศึกษา 2566 จำนวน 6 รายวิชา ให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและสังคมด้วยความทันสมัยต่อเหตุการณ์ในปัจจุบัน โดยใช้แนวคิดจาก 4 ด้านมาเป็นกรอบในการออกแบบรายวิชา ซึ่งประกอบด้วย ด้านผลลัพธผู้เรียนตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ด้านแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2565 – 2569) ด้านปรัชญาของมหาวิทยาลัยรังสิต และด้านปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบทปัจจุบัน
1.พัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรตามแนวโน้มโลกและความต้องการของสังคม
1.1 ปรับปรุงสาระของ 6 รายวิชาให้สอดคล้องกับแนวโน้มเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงความท้าทายในศตวรรษที่ 21
1.2 เพิ่มหัวข้อในรายวิชาเกี่ยวกับนวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัล และแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับ Sustainable Development Goals (SDGs)
1.3 ใช้การเรียนรู้แบบ Problem-Based Learning (PBL) และ Case-Based Learning (CBL) เพื่อเสริมสร้างทักษะเชิงปฏิบัติ
2.บูรณาการแนวคิดจาก 4 ด้านให้เป็นองค์รวมในการออกแบบรายวิชา โดย
2.1 พัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ทักษะดิจิทัล และทักษะการแก้ปัญหาซับซ้อน
2.2 ส่งเสริมการเรียนรู้แบบข้ามศาสตร์ (Interdisciplinary Learning) และการสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม
2.3 ปรับปรุงรายวิชาให้เน้นความเป็นมืออาชีพและความเป็นผู้นำทางวิชาการและสังคม |
โครงการ Interdisciplinary Learning Hub
เป็นโครงการที่เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการเรียนข้ามศาสตร์ โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขามาสอนร่วมกับอาจารย์
และจัดทำโครงการร่วมกับภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้หลักสูตรตอบโจทย์ภาคธุรกิจและภาครัฐมากขึ้น |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
8) |
หลักสูตรมีความชัดเจนในการวางระบบ กลไก และกระบวนการทั้งในเรื่องการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งเน้นการสอนเชิงทฤษฎีและประยุกต์ใช้ โดยพิจารณาอาจารย์ผู้สอนจากความเชี่ยวชาญและการจัดให้มีการอภิปรายร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก รวมทั้งยังมีกระบวนการเป็นขั้นตอนของการทำงานวิจัยของนักศึกษาที่ได้รับการจัดการตั้งแต่การกำหนดประเด็นในการทำวิจัย การแต่งตั้งอาจารย์ที่ปรึกษาและกรรมการสอบดุษฎีนิพนธ์ และการให้ความช่วยเหลือในการดูแลและติดตามความก้าวหน้าของการทำงานวิจัยของนักศึกษา ทำให้พบแนวโน้มที่เป็นความสำเร็จเป็นรูปธรรมในการทำวิจัยและการสำเร็จการศึกษาในระยะเวลาของหลักสูตรที่ดีขึ้นและผู้สำเร็จการศึกษามีผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารทั้งระดับชาติและระดับนานาชาติ ทั้งนี้การดำเนินงานของหลักสูตรได้รับการพิจารณาผ่านคณะกรรมการบริหารหลักสูตร |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรเพื่อเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอนและการวิจัย
1.ปรับปรุงกระบวนการบริหารจัดการงานวิจัยของนักศึกษา
1.1 พัฒนา ระบบติดตามความก้าวหน้าของงานวิจัย (Research Progress Monitoring System)
1.2 จัดทำ แผนที่การพัฒนาทักษะนักวิจัย (Research Skills Roadmap) เพื่อช่วยให้นักศึกษาวางแผนการเรียนรู้และการทำวิจัยได้ดีขึ้น
1.3 เพิ่มการฝึกอบรมด้านการเขียนบทความวิจัยให้ได้มาตรฐานการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ
|
1.โครงการ Thesis Bootcamp & Publication Workshop
เป็น โครงการเร่งรัดการทำวิจัยและการเขียนวิทยานิพนธ์ รวมถึงการอบรมการส่งบทความวิจัยไปตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ
2. โครงการ AI & Data Science for Academic Research
เป็นการฝึกอบรมการใช้ AI และ Big Data ในการวิจัย เพื่อให้นักศึกษาและอาจารย์สามารถใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการวิเคราะห์ข้อมูล |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
9) |
หลักสูตรได้ดำนินการประเมินผลการเรียนรู้ตำมกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) มีการตรวจสอบและการทวนสอบเพื่อประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษาและประเมินหลักสูตร (RQF.5 RQF.6 และ RQF.7) และการประเมินดุษฎีนิพนธ์ในระดับบัณฑิตศึกษาที่มีเป้าหมายและระบบกลไกที่กำหนด และมีการปรับปรุงต่อเนื่องจากปีการศึกษาก่อน โดยนำผลการประเมินมาปรับปรุงเพื่อพัฒนาคุณภาพของนักศึกษาให้บรรลุวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
|
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาระบบการประเมินผลการเรียนรู้และการพัฒนา
1.พัฒนากระบวนการทวนสอบและตรวจสอบคุณภาพหลักสูตรให้เข้มข้นขึ้น โดยใช้ External Examiner & Peer Review System เพื่อให้มีการตรวจสอบมาตรฐานหลักสูตรจากผู้เชี่ยวชาญภายนอก
2.สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่เน้นการพัฒนาต่อเนื่อง (Continuous Improvement) โดยจัด Self-Reflection & Feedback System เพื่อให้นักศึกษาและอาจารย์สามารถประเมินตนเองและพัฒนาต่อเนื่อง |
โครงการ Student Learning Reflection & Feedback System
เป็นการจัดเวทีให้นักศึกษาและอาจารย์สะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้และหลักสูตร |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
10) |
หลักสูตรมีระบบและกลไก ในการดำเนินการให้อาจารย์ประจำหลักสูตรได้มีส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็นต่อการจัดสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการทำวิจัยในยุคดิจิทัล รวมทั้งได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้สำหรับอาจารย์และนักศึกษา |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาระบบการสนับสนุนการเรียนรู้และการวิจัยในยุคดิจิทัล
1.ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของอาจารย์และนักศึกษาในการออกแบบสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ โดยจัดให้มี Faculty-Student Learning & Research Forum เพื่อเปิดโอกาสให้เสนอแนะและพัฒนาสิ่งสนับสนุนที่ตอบโจทย์การเรียนการสอน
2.บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยพัฒนาความร่วมมือกับห้องสมุดมหาวิทยาลัย ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศ และองค์กรด้านเทคโนโลยี เพื่อขยายทรัพยากรการเรียนรู้
3.ส่งเสริมการใช้ AI และเครื่องมือดิจิทัลในการสอนและวิจัย โดยมีรายละเอียดคือ
3.1 จัดอบรมการใช้ AI, Machine Learning และ Big Data ในการเรียนการสอนและงานวิจัย
3.2 ส่งเสริมการใช้ AI-Based Research Assistant เช่น ChatGPT, EndNote, Zotero เพื่อช่วยในการสืบค้นและจัดการข้อมูลวิชาการ |
โครงการ Digital Tools for Research & Learning Workshop
เป็นโครงการอบรมอาจารย์และนักศึกษาเกี่ยวกับการใช้ AI, Data Analytics และแพลตฟอร์มวิชาการดิจิทัล |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
# |
ปัญหา/อุปสรรค/ข้อคิดเห็นในปีที่ผ่านมา |
แนวทางการปรับปรุง/ พัฒนา |
โครงการ/ กิจกรรมที่รองรับ |
ผู้รับผิดชอบ |
1) |
หลักสูตรควรนำส่งรายงาน RQF.7 และ Upload รายการหลักฐาน ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ในแนวปฏิบัติสำหรับการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตร ประจำปีการศึกษา 2566 |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาระบบการจัดทำรายงาน RQF.7 และการอัปโหลดหลักฐานการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน
1.เตรียมข้อมูลการทำ QA ไว้ให้พร้อม ล่วงหน้า ก่อนตรวจ 2 เดือน
2.พัฒนาระบบบริหารจัดการเอกสารและติดตามการดำเนินงานให้เป็นระบบดิจิทัล ใช้ AI & Automation เพื่อลดภาระงานเอกสาร เช่น ระบบแจ้งเตือนวันครบกำหนด (Deadline Notification System)
3.กำหนด Responsible Person & Task Assignment อย่างชัดเจน เพื่อให้ทุกคนในทีมทราบหน้าที่ของตนเองและลดความล่าช้า |
โครงการ RQF Digital Management System
1.เป็นฌครงการพัฒนาระบบดิจิทัลสำหรับการจัดเก็บและติดตามเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ RQF.7
2.วิธีการคือใช้ AI แจ้งเตือนวันครบกำหนดและช่วยแนะนำแนวทางการจัดทำเอกสาร |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
2) |
หลักสูตรควรให้ความสำคัญการตีพิมพ์ผลงานวิจัยของนักศึกษาในวารสารระดับนานาชาติ โดยการเพิ่มจำนวนของการตีพิมพ์ดังกล่าว
อุปสรรคและปัญหาของหลักสูตรคือ การสนับสนุนการตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติสำหรับนักศึกษา เนื่องจากค่าธรรมเนียมตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารนานาชาติมีราคาสูง และนักศึกษาส่วนใหญ่ไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายนี้ได้ หลักสูตรมีแนวทางการพัฒนากลไกสนับสนุนทั้งทางการเงินและวิชาการ เพื่อให้การตีพิมพ์เป็นไปได้ง่ายขึ้นและมีคุณภาพสูงขึ้น ดังนี้
โครงการความร่วมมือกับวารสาร Open Access ที่ไม่มีค่าธรรมเนียม (Open Access Partnership Program)
เป้าหมาย ให้นักศึกษาได้ตีพิมพ์ในวารสารที่มีมาตรฐานโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมสูง
1.เพิ่มทางเลือกของวารสารที่สามารถตีพิมพ์ได้
2.ร่วมมือกับวารสาร Open Access ที่ไม่มีค่า APC (Article Processing Charge) หรือมีส่วนลดพิเศษสำหรับนักศึกษา
สร้างเครือข่ายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีวารสารวิจัยแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย |
ให้ advisor สนับสนุน ให้ นศ ส่งผลงานไป ระดับนานาชาติ
แนวทางการปรับปรุงพัฒนาโดยสนับสนุนการตีพิมพ์ร่วมกับอาจารย์ที่มีทุนวิจัย
1.จัดระบบ Research Matching ให้นักศึกษาได้เข้าร่วมโครงการวิจัยของอาจารย์ที่ได้รับทุน
2.สนับสนุนให้มี การตีพิมพ์แบบ Co-Author กับอาจารย์หรือทีมวิจัย |
โครงการ “ตีพิมพ์แล้วได้เงินคืน” (Reimbursement for High-Impact Publications)
เพื่อจูงใจให้นักศึกษาตีพิมพ์ในวารสารที่มีคุณภาพสูง โดยให้รางวัลหรือคืนเงินค่าตีพิมพ์บางส่วน
โดยมีแนวทางดำเนินการคือ หากนักศึกษาสามารถตีพิมพ์ในวารสารที่อยู่ใน Q1 หรือ Q2 ของ Scopus หรือ Web of Science ได้ จะได้รับเงินคืนค่าตีพิมพ์ (เงินดังกล่าวจะทำข้อตกลงกับที่ปรึกษางานวิจัย) |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
3) |
หลักสูตรควรมีความชัดเจนในการแสดงแนวโน้มของความสำเร็จของกระบวนการปรับปรุงสาระรายวิชาที่เป็นไปตามมาตรฐานคุณวุฒิการศึกษา และวัตถุประสงค์ของหลักสูตรในแต่ละปีการศึกษา |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการปรับปรุงสาระรายวิชาให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณวุฒิการศึกษาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
1.จัดทำ Learning Outcome Mapping เพื่อตรวจสอบว่าสาระรายวิชาและผลการเรียนรู้สอดคล้องกับ มาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF) และวัตถุประสงค์ของหลักสูตร
2.บูรณาการการใช้ AI และ Learning Analytics เพื่อตรวจสอบว่าสาระการสอนยังคงทันสมัยและตอบโจทย์แนวโน้มวิชาการ |
1.โครงการ AI-Powered Learning & Curriculum Adjustment Tool
โดยวิธีการคือใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลแนวโน้มวิชาการและความต้องการของตลาด เพื่อช่วยออกแบบการปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัย
2.โครงการ Future Skills & Interdisciplinary Course Design Workshop
เป็นโครงการจัดอบรมให้คณาจารย์เรียนรู้แนวคิดใหม่ ๆ ในการออกแบบรายวิชาให้ตอบโจทย์ทักษะอนาคตและการเรียนรู้แบบข้ามศาสตร์ |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
4) |
หลักสูตรควรมีความชัดเจนในการแสดงให้เห็นแนวโน้มของความพึงพอใจในสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งเอื้อประโยชน์สำหรับการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล ของอาจารย์และนักศึกษาในช่วง 3 ปีต่อเนื่อง |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการประเมินความพึงพอใจต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งเอื้อประโยชน์ในยุคดิจิทัล
1.พัฒนาระบบติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มความพึงพอใจของอาจารย์และนักศึกษาแบบต่อเนื่อง โดยเก็บข้อมูลความพึงพอใจผ่าน AI-Powered Surveys & Sentiment Analysis เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกจากอาจารย์และนักศึกษา
2.ปรับปรุงสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ให้ทันสมัยและตรงกับความต้องการ โดยจัดให้มี Technology Support & Training Program เพื่อช่วยอาจารย์และนักศึกษาใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.สร้างระบบประเมินผลและปรับปรุงต่อเนื่อง โดยตั้ง Committee for Digital Learning Enhancement ที่ทำหน้าที่ติดตามและปรับปรุงคุณภาพของสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ |
โครงการ Personalized Learning & Digital Support Program
เป็นโครงการที่จัดทำระบบช่วยเหลือด้านเทคโนโลยีเฉพาะบุคคลให้นักศึกษาและอาจารย์ |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
5) |
หลักสูตรควรเพิ่มการจัดทำแผนในการกำกับติดตามการดำเนินงานดุษฎีนิพนธ์ของนักศึกษาในปัจจัยที่ควบคุมได้ให้สามารถนำเสนอและสำเร็จการศึกษาได้ทันตามกรอบเวลาที่เหมาะสมมากขึ้น |
แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการกำกับติดตามการดำเนินงานดุษฎีนิพนธ์ให้สำเร็จตามกรอบเวลาที่เหมาะสม
1.พัฒนาระบบติดตามความก้าวหน้าของดุษฎีนิพนธ์แบบเป็นระบบ
1.1 กำหนด Milestone & Timeline ที่ชัดเจน เช่น กำหนดส่งโครงร่าง การเก็บข้อมูล และการเขียนบทความวิจัย
2.1 ใช้ AI-Based Notification & Reminder System เพื่อแจ้งเตือนวันครบกำหนดของแต่ละขั้นตอน
2.ปรับปรุงกลไกการให้คำปรึกษาและสนับสนุนการทำดุษฎีนิพนธ์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
กำหนด Structured Advisory Meetings โดยบังคับให้นักศึกษาพบอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นประจำทุกเดือน |
โครงการ AI-Based Research Progress Monitoring System
เป็นโครงการที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนเกี่ยวกับความก้าวหน้าของงานวิจัย |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
6) |
หลักสูตรควรให้มีความชัดเจนในแผนการพัฒนาให้นักศึกษามีความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ที่มีศักยภาพในการสร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติได้ |
แนวทางการพัฒนาเสริมศักยภาพภาษาอังกฤษของนักศึกษา
เนื่องจาก สถาบันภาษาอังกฤษ (RELI) ของมหาวิทยาลัยรังสิต มีการดำเนินงานด้านการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษและการจัดสอบอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว หลักสูตรฯ จึงวางแนวทางที่เน้นการ บูรณาการทักษะภาษาอังกฤษเข้ากับการเรียนรู้และการวิจัย แทนที่จะเพิ่มภาระทางวิชาการโดยตรง โดยมีแนวทางดังนี้
1.บูรณาการภาษาอังกฤษเข้ากับกระบวนการเรียนรู้ของหลักสูตร โดยการส่งเสริมการใช้ วารสาร บทความ และแหล่งข้อมูลวิชาการภาษาอังกฤษ เป็นแหล่งอ้างอิงหลักในงานวิจัย
2.สนับสนุนการเข้าร่วม Online Conferences หรือ International Webinars ที่ใช้ภาษาอังกฤษ |
โครงการ English Abstract & Research Summary Repository
โดยให้นักศึกษาฝึกเขียนบทคัดย่อภาษาอังกฤษ ดดยการใช้ AI และนำไปรวบรวมเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับรุ่นต่อไปผ่านเวปเพจของหลักสูตร ทั้งนี้ AI สามารถให้การสนับสนุนได้ 5 เรื่องดังนี้
1) การช่วยตรวจสอบและปรับปรุงบทคัดย่อภาษาอังกฤษ (AI-Powered Editing & Proofreading)
2) การแปลและพัฒนา Abstract จากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ (AI-Based Translation & Summarization)
3) การสร้างฐานข้อมูลบทคัดย่อออนไลน์ (Abstract & Research Summary Repository Platform)
4) การช่วยฝึกฝนการนำเสนอ (AI Speech Coach for Research Presentations)
5) การช่วยตรวจสอบความเป็นต้นฉบับ (AI Plagiarism & Citation Checker) |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
7) |
หลักสูตรควรเพิ่มความชัดเจนในการรายงานแสดงแนวโน้มของความมีคุณภาพของผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ของปีที่ผ่านมาและปีปัจจุบัน รวมถึงความชัดเจนในผลที่เกิดขึ้นจากการทวนสอบเมื่อเทียบกับความคาดหวังที่หลักสูตรกำหนด |
แนวทางการพัฒนาและปรับปรุงการรายงานแนวโน้มคุณภาพผลลัพธ์การเรียนรู้และการทวนสอบ
1.เชื่อมโยงผลการทวนสอบกับความคาดหวังของหลักสูตร
1. โดยมีวิธีการคือ พัฒนา Benchmarking Framework ที่ใช้วัดความสอดคล้องของผลลัพธ์การเรียนรู้กับมาตรฐานที่หลักสูตรกำหนด
2.จัดทำ รายงานสรุปแนวโน้มของผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้แบบเปรียบเทียบ (Year-to-Year Learning Outcome Trend Report)
3.จัดระบบให้มี External Peer Review หรือ การตรวจสอบผลการเรียนรู้โดยผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก
4.นำผลจากการทวนสอบไปใช้ในการ ปรับปรุงหลักสูตรแบบต่อเนื่อง (Continuous Curriculum Improvement Plan) |
โครงการ Annual Learning Outcome & Curriculum Improvement Report
1.เป็นการจัดทำรายงานแนวโน้มของผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้และการเปรียบเทียบกับความคาดหวังของหลักสูตร
2.วิธีการคือเชิญผู้เชี่ยวชาญภายนอกมาช่วยทบทวนและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับผลการเรียนรู้ของนักศึกษา |
ผู้อำนวยการหลักสูตร |
8) |
|
|
|
|