การรายงานแผนการปรับปรุงการดำเนินงาน [Improvement Plan] ของปีการศึกษา 2567
ตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ปีการศึกษา 2566
และตามปัญหา/อุปสรรคต่างๆ ในปีการศึกษาที่ผ่านมา
วิทยาลัยนิเทศศาสตร์
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต [หลักสูตรนานาชาติ]

จุดแข็งและแนวทางเสริมจุดแข็ง

# ปัญหา/อุปสรรค/ข้อคิดเห็นในปีที่ผ่านมา แนวทางการปรับปรุง/ พัฒนา โครงการ/ กิจกรรมที่รองรับ ผู้รับผิดชอบ
1) หลักสูตรมีระบบการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่ โดยผ่านกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อแก้ปัญหาเรื่องการปรับตัวทางภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม แนวทางการปรับปรุงและพัฒนากิจกรรมที่หลากหลายเพื่อเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่สามารถดำเนินการได้โดยการเพิ่มประสิทธิภาพของกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการปรับตัวในด้านภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมของหลักสูตรฯ อาทิเช่น การจัดโปรแกรมปรับพื้นฐานภาษาเพื่อให้นักศึกษาสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพในบริบทของการศึกษาและการใช้ชีวิตประจำวัน การออกแบบกิจกรรมที่ส่งเสริมความเข้าใจในความหลากหลายทางศาสนา เช่น การจัดเวิร์กช็อปหรือเสวนาที่เน้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการยอมรับความแตกต่าง รวมถึงการพัฒนากิจกรรมเชิงวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้และการมีส่วนร่วม เช่น การจัดงานแสดงวัฒนธรรม การฝึกปฏิบัติศิลปะและหัตถกรรมท้องถิ่น หรือการสร้างโครงการพี่เลี้ยงทางวัฒนธรรม (Cultural Buddy Program) ที่จับคู่นักศึกษารุ่นพี่และรุ่นน้องเพื่อช่วยในการปรับตัวและส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดี การปรับปรุงดังกล่าวจะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและเอื้อต่อการพัฒนาทั้งด้านการเรียนรู้และการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลในบริบทที่หลากหลายทางวัฒนธรรม โครงการและกิจกรรมที่รองรับการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่ในด้านภาษา ศาสนา และวัฒนธรรมสามารถดำเนินการได้ผ่านการออกแบบโครงการที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะของนักศึกษาในแต่ละมิติ ตัวอย่างเช่น การจัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านภาษาอย่างเข้มข้น (Intensive Language Workshop) เพื่อพัฒนาทักษะการฟัง พูด อ่าน เขียนที่จำเป็นสำหรับการเรียนในมหาวิทยาลัย หรือกิจกรรม "ค่ายปรับตัววัฒนธรรม" ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสกับวัฒนธรรมไทยผ่านการเรียนรู้ประเพณี อาหารพื้นเมือง และการเยี่ยมชมสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังสามารถสร้างกิจกรรมเสวนาข้ามวัฒนธรรมที่เชิญวิทยากรจากหลากหลายความเชื่อมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นความเข้าใจและการอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน อีกทั้งโครงการพี่เลี้ยงทางวัฒนธรรม (Cultural Buddy Program) จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาใหม่และรุ่นพี่ โดยเน้นการสร้างพื้นที่สำหรับการปรึกษาและช่วยเหลือในการปรับตัว สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้นักศึกษาใหม่ได้รับการสนับสนุนอย่างครบถ้วนและสามารถปรับตัวในสภาพแวดล้อมใหม่ได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ ผู้ช่วยศาตรจารย์ ดร. ดวงทิพย์ เจริญรุกข์
2) หลักสูตรมีการส่งเสริมให้อาจารย์ประจำหลักสูตรมีผลงานวิชาการ แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการส่งเสริมให้อาจารย์ประจำหลักสูตรมีผลงานวิชาการนั้น หลักสูตรฯ สามารถดำเนินการได้โดยการสร้างระบบสนับสนุนที่เอื้อต่อการพัฒนาความเชี่ยวชาญและการสร้างสรรค์ผลงานวิจัย ตัวอย่างเช่น การจัดอบรมหรือเวิร์กช็อปเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนบทความวิชาการ การออกแบบงานวิจัย หรือการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง นอกจากนี้ การจัดให้มีระบบพี่เลี้ยง (Mentorship) ที่เชื่อมโยงอาจารย์รุ่นใหม่กับอาจารย์ที่มีประสบการณ์สูง เพื่อถ่ายทอดความรู้และเสริมสร้างความมั่นใจในการสร้างผลงานทางวิชาการ การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานวิจัยหรือมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการร่วมวิจัยและเผยแพร่ผลงาน ทั้งนี้ยังสามารถปรับปรุงระบบสนับสนุนทุนวิจัยหรือรางวัลสำหรับผลงานวิชาการที่โดดเด่น เพื่อกระตุ้นแรงจูงใจและสร้างแรงผลักดันให้อาจารย์ผลิตผลงานที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อวงการวิชาการในระดับที่กว้างขึ้น โครงการและกิจกรรมที่รองรับการสร้างระบบสนับสนุนเพื่อพัฒนาความเชี่ยวชาญและการสร้างสรรค์ผลงานวิจัยนั้น หลักสูตรฯ สามารถดำเนินการโดยผ่านการจัดกิจกรรมเชิงรุกที่สอดคล้องกับความต้องการของอาจารย์ ตัวอย่างเช่น การจัดโครงการ “เวิร์กช็อปเขียนบทความวิชาการสู่การตีพิมพ์” ที่เน้นการฝึกปฏิบัติจริงในกระบวนการเขียนและปรับปรุงบทความเพื่อเผยแพร่ในวารสารวิชาการที่มีคุณภาพ หรือการจัดกิจกรรม “อบรมการใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง” ที่ช่วยให้อาจารย์มีทักษะในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการวิจัย นอกจากนี้ การจัดตั้งโครงการ “เครือข่ายนักวิจัยพันธมิตร” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายนอกผ่านการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และโอกาสในการทำวิจัยร่วมกัน รวมถึงการจัดตั้ง “โปรแกรมพี่เลี้ยงนักวิจัย” ซึ่งจับคู่อาจารย์ใหม่กับนักวิจัยผู้มีประสบการณ์เพื่อให้คำปรึกษาและสนับสนุนในด้านเทคนิคและวิธีการวิจัย โครงการเหล่านี้สามารถช่วยสร้างแรงสนับสนุนที่ครอบคลุมและส่งเสริมให้อาจารย์ผลิตผลงานวิชาการที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติอย่างยั่งยืน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ดวงทิพย์ เจริญรุกข์
3) หลักสูตรมีการพัฒนาผู้เรียนเพื่อสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยบูรณาการร่วมกับรายวิชาต่างๆ อย่างชัดเจนเป็นรูปธรรม แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับผู้เรียนของหลักสูตรฯ สามารถดำเนินการได้โดยการบูรณาการทักษะสำคัญร่วมกับรายวิชาอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ตัวอย่างเช่น การออกแบบหลักสูตรที่เน้นการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ (Critical Thinking) และการแก้ปัญหา (Problem Solving) ผ่านกิจกรรมที่ต้องการการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกหรือการนำกรณีศึกษาจริงมาประยุกต์ใช้ นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมทักษะการสื่อสารและความร่วมมือ (Communication and Collaboration) โดยการจัดโครงการเรียนรู้แบบทีม (Team-based Learning) หรือกิจกรรมการทำงานกลุ่มข้ามสาขาวิชาฯ เพื่อให้นักศึกษาเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้อื่นในบริบทที่หลากหลาย ในส่วนของการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการรู้เท่าทันสื่อ (Information and Media Literacy) นั่น หลักสูตรฯ สามารถดำเนินการได้โดยการจัดกิจกรรมฝึกอบรมการใช้เครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้และการทำงานในยุคปัจจุบัน เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยซอฟต์แวร์ หรือการสร้างสื่อดิจิทัลที่มีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และนวัตกรรม นอกจากนี้ การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและความเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบ (Global Citizenship) ควรบูรณาการผ่านกิจกรรมที่เน้นความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น โครงการจิตอาสา หรือการเรียนรู้ผ่านการบริการ (Service Learning) ซึ่งช่วยปลูกฝังคุณค่าแห่งความรับผิดชอบและการเคารพในความหลากหลาย แนวทางเหล่านี้จะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้ผู้เรียนพร้อมเผชิญความท้าทายของศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ โครงการและกิจกรรมที่รองรับแนวทางการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับผู้เรียนสามารถจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการบูรณาการทักษะสำคัญร่วมกับรายวิชาอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม ตัวอย่างเช่น โครงการ .Critical Thinking and Problem Solving Workshop" ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาจากกรณีศึกษาในสถานการณ์จริง หรือ "Team-Based Innovation Project" ที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกันในทีมจากหลากหลายสาขาวิชาเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ในด้านการพัฒนาทักษะเทคโนโลยีและการรู้เท่าทันสื่อ สามารถจัดกิจกรรมเช่น "Digital Tools Bootcamp" เพื่อให้นักศึกษาเรียนรู้การใช้เครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นต่อการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างสรรค์สื่อที่มีคุณภาพ หรือ "Media Literacy Challenge" ที่ให้นักศึกษาได้แก้ปัญหาจากข้อมูลข่าวสารที่หลากหลายเพื่อฝึกความสามารถในการแยกแยะข้อมูลที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ โครงการที่ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและความเป็นพลเมืองที่ดี อาจรวมถึง "Service Learning Program" ที่นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้จากการลงมือทำงานจริงในชุมชน เช่น การสอนหนังสือเด็กในพื้นที่ห่างไกล หรือ *Global Citizenship Exchange Program* ที่ให้นักศึกษาได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและมุมมองร่วมกับนักศึกษาต่างชาติ ดังนั้น กิจกรรมทั้งหมดนี้จะเป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ให้ผู้เรียนมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในอนาคต ผู้ช่วยศาสราจารย์ ดร. ดวงทิพย์ เจริญรุกข์

จุดที่ควรพัฒนาและข้อเสนอแนะในการปรับปรุง

# ปัญหา/อุปสรรค/ข้อคิดเห็นในปีที่ผ่านมา แนวทางการปรับปรุง/ พัฒนา โครงการ/ กิจกรรมที่รองรับ ผู้รับผิดชอบ
1) หลักสูตรยังคงต้องให้ความสำคัญกับการดูแลนักศึกษาเพื่อรักษาอัตราการคงอยู่ และให้ทันต่อแนวโน้มอัตราการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการดูแลนักศึกษาเพื่อรักษาอัตราการคงอยู่ และให้ทันต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคตของหลักสูตรฯ นั้น ได้เริ่มต้นด้วยการพัฒนาระบบสนับสนุนที่ครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของนักศึกษาในทุกมิติ อาทิ การจัดตั้งระบบ "Student Support System" ที่เป็นศูนย์กลางในการให้คำปรึกษาทั้งด้านการเรียน การพัฒนาทักษะชีวิต และการสนับสนุนด้านสุขภาพจิตอย่างเป็นระบบ โดยอาจใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับให้คำปรึกษาแบบเรียลไทม์ หรือแอปพลิเคชันที่ช่วยติดตามพัฒนาการของนักศึกษา ในขณะเดียวกัน ควรมีการจัดโครงการหรือกิจกรรมที่เสริมสร้างความผูกพันและความพึงพอใจในสถาบันการศึกษา เช่น "Mentorship Program"" ที่จับคู่นักศึกษารุ่นพี่กับรุ่นน้องเพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์และสนับสนุนการปรับตัว รวมถึง "Community Engagement Projects" ที่นักศึกษามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สร้างคุณค่าแก่ชุมชน ซึ่งช่วยส่งเสริมความรู้สึกมีส่วนร่วมและสร้างความภาคภูมิใจในสถาบัน นอกจากนี้ การพัฒนาระบบเตือนภัยล่วงหน้า (Early Warning System) เพื่อระบุปัญหาที่นักศึกษาอาจประสบและดำเนินการแก้ไขอย่างทันท่วงทีก็เป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญ ทั้งนี้ควรควบคู่ไปกับการพัฒนารายวิชาและหลักสูตรให้สอดคล้องกับแนวโน้มในอนาคต โดยอาจเพิ่มรายวิชาหรือกิจกรรมที่เสริมสร้างทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล เช่น การเรียนรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ (*AI Literacy*) หรือการพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ที่ซับซ้อน (Complex Problem Solving Skills) แนวทางดังกล่าวจะช่วยให้นักศึกษาได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมและครบวงจร พร้อมทั้งสร้างความยั่งยืนในการรักษาอัตราการคงอยู่ และเพิ่มศักยภาพให้นักศึกษาเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมั่นใจและประสบความสำเร็จ โครงการและกิจกรรมที่สอดคล้องกับแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการดูแลนักศึกษาเพื่อรักษาอัตราการคงอยู่และตอบสนองต่อแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงในอนาคตนั้น หลักสูตรได้มีการออกแบบให้มีความหลากหลายและครอบคลุมทุกมิติของชีวิตนักศึกษา เช่น การจัดตั้ง "ระบบศูนย์บริการนักศึกษาแบบบูรณาการ" (Integrated Student Support Center) ที่มีฟังก์ชันการให้คำปรึกษาเชิงรุก ทั้งในด้านการเรียน การพัฒนาทักษะชีวิต และการดูแลสุขภาพจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์ที่รองรับการให้คำปรึกษาแบบเรียลไทม์ หรือแอปพลิเคชันที่ช่วยติดตามความก้าวหน้าและพัฒนาการของนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษาสามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้ทุกที่ทุกเวลา โครงการ "Mentorship Program*" เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยสร้างความผูกพันระหว่างนักศึกษา โดยเน้นการจับคู่ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการปรับตัวสู่ชีวิตมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ โครงการ "Community Engagement Projects" ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษามีส่วนร่วมในกิจกรรมที่มีคุณค่าต่อชุมชน จะช่วยเสริมสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในสถาบัน และความเป็นส่วนหนึ่งของสังคมการเรียนรู้ที่มีความหมาย การพัฒนาระบบ "Early Warning System" ก็เป็นส่วนสำคัญของแผนพัฒนา โดยระบบนี้จะช่วยตรวจจับสัญญาณปัญหาเบื้องต้นที่นักศึกษาอาจเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการเรียน ความเครียด หรือปัจจัยส่วนตัวอื่น ๆ พร้อมทั้งจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที อีกทั้งการพัฒนากิจกรรมหรือหลักสูตรเสริมที่เกี่ยวข้องกับทักษะในอนาคต เช่น "Future Skills Workshop" ที่มุ่งเน้นการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หรือการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในยุคดิจิทัล จะช่วยเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมั่นใจ โครงการและกิจกรรมดังกล่าวไม่เพียงแต่จะช่วยตอบสนองความต้องการในปัจจุบันของนักศึกษา แต่ยังสร้างรากฐานที่มั่นคงสำหรับการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ในระยะยาว เพื่อให้นักศึกษาสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตและการทำงานในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ดวงทิพย์ เจริญรุกข์
2) หลักสูตรควรให้ความสำคัญกับทักษะการสื่อสารเพื่อใช้ในการเรียนการสอน โดยเฉพาะงานด้านนิเทศศาสตร์ แนวทางการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรฯ ในด้านการสื่อสารเพื่อใช้ในการเรียนการสอนในงานด้านนิเทศศาสตร์ ได้เริ่มต้นด้วยการเน้นพัฒนาทักษะการสื่อสารที่หลากหลายและครอบคลุมทั้งในระดับบุคคลและการทำงานเป็นทีม เพื่อให้นักศึกษาสามารถใช้เครื่องมือและวิธีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการเรียนการสอนและในการประกอบอาชีพในอนาคต โดยการจัดกิจกรรมที่เน้นการพัฒนาทักษะการพูด การเขียน การฟัง และการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล หนึ่งในแนวทางสำคัญ คือ การพัฒนาหลักสูตรที่สนับสนุนการเรียนรู้ผ่านการสื่อสารในรูปแบบที่มีความหลากหลาย เช่น การเรียนการสอนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่นักศึกษาสามารถทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นเรียนจากต่างประเทศได้ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการสื่อสารในหลายภาษาและข้ามวัฒนธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในด้านการทำงานในโลกที่เชื่อมโยงกันอย่างมากขึ้นในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ หลักสูตรยังมีการเสริมทักษะการสื่อสารที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เช่น การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างสื่อสารออนไลน์ การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อปรับปรุงการสื่อสารในแวดวงนิเทศศาสตร์ หรือการเรียนรู้วิธีการสร้างคอนเทนต์ที่มีความน่าสนใจและดึงดูดผู้ชมบนแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ได้รับความนิยม ดังนั้น การปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรฯ ในด้านนี้จะช่วยเสริมทักษะการสื่อสารที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต ทำให้นักศึกษามีความพร้อมที่จะรับมือกับการเรียนการสอนในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาในการทำงานในสาขาวิชาชีพนิเทศศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรฯ ในด้านการสื่อสารเพื่อใช้ในการเรียนการสอนในงานด้านนิเทศศาสตร์นั้น นักศึกษาได้รับโอกาสในการเข้าร่วมโครงการและกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารในรูปแบบที่หลากหลายและทันสมัย โดยเป็นโครงการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง คือ การจัดทำการเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่สามารถเชื่อมโยงนักศึกษากับเพื่อนร่วมชั้นเรียนจากต่างประเทศได้ การจัดกิจกรรมนี้จะช่วยให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะการสื่อสารในหลายภาษาและข้ามวัฒนธรรม ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการทำงานในยุคที่โลกเชื่อมโยงกันมากขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาโครงการที่ให้ความสำคัญกับการฝึกฝนทักษะการสื่อสารผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลในการปรับปรุงการสื่อสารและการสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจบนแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ได้รับความนิยม ก็เป็นกิจกรรมที่สามารถรองรับแนวทางการพัฒนาในด้านนี้ได้อย่างดี การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการสร้างสื่อสารออนไลน์จะช่วยให้นักศึกษามีความเข้าใจในเครื่องมือที่ทันสมัยและสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีการจัดโครงการฝึกงานหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจริงในองค์กรหรือบริษัทที่ใช้เครื่องมือสื่อสารดิจิทัลและเทคโนโลยีในการดำเนินการ ซึ่งได้ช่วยเสริมทักษะการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารในบริบทของการทำงานจริง โดยนอกจากจะช่วยให้นักศึกษามีประสบการณ์ในการสื่อสารแล้ว ยังช่วยให้นักศึกษามีโอกาสในการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและพัฒนาทักษะในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ที่หลากหลาย ดังนั้น กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารให้กับนักศึกษา แต่ยังช่วยให้นักศึกษามีความพร้อมที่จะปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การเรียนการสอนในหลักสูตรนิเทศศาสตร์มีความทันสมัยและเหมาะสมกับการพัฒนาในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ดวงทิพย์ เจริญรุกข์