วันที่ประเมิน: 7 กรกฏาคม 2568, 09:30น.
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
1. จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
|
|
ข้อคิดเห็น
จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรครบ 5 ท่าน
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
2. คุณสมบัติอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
|
|
ระบุชื่ออาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่ผลงานวิชาการในรอบ 5 ปี หมดอายุในปีการศึกษาที่ตรวจ (ต้องเพิ่มผลงานชิ้นใหม่ในปีการศึกษาหน้า) - ไม่มี
|
|
ข้อคิดเห็น
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
[สำหรับประเภทวิชาชีพ/ปฏิบัติการ] อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จำนวน 2 ใน 5 คน ต้องมีประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติการ |
|
ระบุข้อคิดเห็น
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
3. คุณสมบัติอาจารย์ประจำหลักสูตร |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
|
|
ระบุชื่ออาจารย์ประจำหลักสูตรที่ผลงานวิชาการในรอบ 5 ปี หมดอายุในปีการศึกษาที่ตรวจ (ต้องเพิ่มผลงานชิ้นใหม่ในปีการศึกษาหน้า) - ไม่มี
|
|
ข้อคิดเห็น
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
4. คุณสมบัติอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์ประจำ |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
|
|
ข้อคิดเห็น
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
|
คุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์พิเศษ |
|
ข้อคิดเห็น
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
10. การปรับปรุงหลักสูตรตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ข้อคิดเห็น
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 1.1 |
---|
|
หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด หมายถึง ผู้รับปริญญา ในปีการศึกษา 2566 ประกอบด้วย บัณฑิตที่จบภาคการศึกษา 1/2566 , 2/2566 และ S/2567 [ปีต้องอัพเดตตามปีการศึกษาที่ประเมินย้อนหลัง 1 ปี]
(2) จำนวนบัณฑิตที่รับการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาตาม (ข้อ1)
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
จำนวนบัณฑิตทั้งหมด | 16 | 4.72 |
จำนวนบัณฑิตที่ได้รับการประเมินทั้งหมด | 8 | |
คะแนนเฉลี่ยรวมคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2561 | 4.72 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรสามารถดำเนินการติดตามผลคุณภาพบัณฑิตได้อย่างต่อเนื่อง และได้รับแบบประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตในสัดส่วนที่สูงถึง 50% ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้อย่างชัดเจน โดยผลการประเมินทั้งในด้านคุณภาพบัณฑิตและผลลัพธ์ผู้เรียนเฉลี่ยอยู่ในระดับดีมาก (4.72) สะท้อนถึงการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสมรรถนะตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561 จุดเด่น คะแนนเฉลี่ยด้าน “คุณธรรมจริยธรรม” (4.80) และ “ความเป็นผู้เรียนรู้” (4.79) อยู่ในระดับสูง แสดงถึงการปลูกฝังคุณลักษณะเชิงจิตพิสัยที่เข้มแข็ง แนวทางเสริม ควรจัดทำรายงานวิเคราะห์เชิงคุณภาพเพิ่มเติมจากผู้ใช้บัณฑิตในเชิงลึก เช่น ความสามารถด้านการปรับตัวในองค์กรยุคดิจิทัล หรือทักษะการสื่อสารในภาวะวิกฤต เพื่อใช้พัฒนารายวิชาให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมได้ดียิ่งขึ้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้หลักสูตรจะมีสัดส่วนการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำ และผลประเมินโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก แต่ยังมีจุดที่ควรพัฒนาในด้านการจัดเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพเพิ่มเติมจากผู้ใช้บัณฑิต เนื่องจากข้อมูลที่แสดงในรายงานเน้นเชิงปริมาณเป็นหลักและยังไม่แสดงรายละเอียดความคิดเห็นเชิงลึกจากผู้ประเมิน แนวทางปรับปรุงที่เหมาะสมคือการแนบสรุปข้อความสะท้อนจากผู้ใช้บัณฑิต เช่น จุดแข็งในการทำงาน ทักษะที่ควรเสริม และข้อเสนอแนะเชิงพฤติกรรม เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงระหว่างข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ อีกทั้งควรพิจารณาจัดเก็บข้อมูลจากผู้ใช้บัณฑิตในหลากหลายอุตสาหกรรมให้ครอบคลุมมากขึ้นในรอบถัดไป เพื่อสะท้อนความหลากหลายของตลาดงานและบริบทของบัณฑิตในยุคใหม่ |
||
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด จะต้องตรงกับตาราง ตัวบ่งชี้ 2.1
(2) จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
จำนวนบัณฑิตทั้งหมด | 16 | 4.62 |
จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจ | 14 | |
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [มีงานทำในองค์กร] | 5 | |
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบอาชีพอิสระ] | 0 | |
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบกิจการส่วนตัว/ธุรกิจครอบครัว] | 7 | |
จำนวนบัณฑิตที่ไม่ได้งานทำ | 1 | |
จำนวนบัณฑิตที่ศึกษาต่อ | 1 | |
จำนวนบัณฑิตที่อุปสมบท | 0 | |
จำนวนบัณฑิตที่เกณฑ์ทหาร | 0 | |
จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มีงานทำก่อนเข้าศึกษา | 0 | |
ร้อยละที่ได้ | 92.31 | |
ผลลัพธ์ที่ได้ | 4.62 | |
เงินเดือนหรือรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยของผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้งานทำ หรือประกอบอาชีพอิสระ (บาท) | 20000.00 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการติดตามภาวะการมีงานทำของผู้สำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2566 อย่างครบถ้วน โดยมีผู้ที่มีงานทำหรือประกอบอาชีพอิสระรวม 12 คน จากผู้สำเร็จการศึกษาทั้งหมด 16 คน คิดเป็นร้อยละ 75 ซึ่งอยู่ในระดับที่สะท้อนถึงการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดแรงงาน รายได้เฉลี่ยต่อเดือนอยู่ในช่วง 15,001 ถึง 20,000 บาท ซึ่งเป็นระดับที่สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมเริ่มต้นในสายงานนิเทศศาสตร์และการสื่อสาร จุดเด่นของหลักสูตรคือการผลิตบัณฑิตที่สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้ภายในหนึ่งปีหลังสำเร็จการศึกษา โดยเฉพาะในภาคธุรกิจเอกชนและสายงานสื่อสารองค์กร แนวทางเสริมที่ควรดำเนินการในปีถัดไปคือการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งงาน ลักษณะองค์กร และลักษณะงานที่ทำ เพื่อวิเคราะห์ความสอดคล้องเชิงลึกระหว่างสมรรถนะผู้เรียนกับตลาดงาน และอาจพิจารณาจัดทำแบบรายงานผลการมีงานทำในรูปแบบ Dashboard หรือกราฟเปรียบเทียบระหว่างปี เพื่อสะท้อนแนวโน้มการจ้างงานของบัณฑิตอย่างเป็นระบบ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้สัดส่วนผู้สำเร็จการศึกษาที่มีงานทำหรือประกอบอาชีพอิสระจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ยังมีผู้สำเร็จการศึกษาจำนวนหนึ่งที่ไม่ระบุสถานภาพการมีงานทำหรือไม่มีข้อมูลประกอบอย่างชัดเจน ส่งผลให้ไม่สามารถประเมินความครอบคลุมของการติดตามผลได้อย่างสมบูรณ์ แนวทางปรับปรุงที่ควรดำเนินการคือการพัฒนาระบบติดตามภาวะการมีงานทำของบัณฑิตให้ครอบคลุมมากขึ้น เช่น การใช้แบบสำรวจออนไลน์ร่วมกับการติดตามโดยอาจารย์ที่ปรึกษาหรือศิษย์เก่าสัมพันธ์ เพื่อให้ได้ข้อมูลจากผู้สำเร็จการศึกษาทุกราย นอกจากนี้ควรจัดทำการวิเคราะห์ตำแหน่งงานและอุตสาหกรรมที่เข้าทำงานอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้ปรับแนวทางการผลิตบัณฑิตให้ตรงกับความต้องการของตลาดในระยะยาว |
||
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
การรับนักศึกษา:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีการตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับการรับเข้านักศึกษา ทั้งประเด็นจำนวนนักศึกษา และประเด็นความพร้อมของ นศ 90% of target
- หลักสูตรมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้เรียนอย่างชัดเจนตามระเบียบของมหาวิทยาลัยและสอดคล้องกับลักษณะของสาขาวิชา ทั้งในด้านวุฒิการศึกษา การสอบคัดเลือก และคุณลักษณะด้านจริยธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกลไกการรับนักศึกษาที่ชัดเจนและเป็นระบบ แนวทางเสริมที่สามารถดำเนินการในปีถัดไปคือการวิเคราะห์ข้อมูลผู้สมัครและผู้เข้าเรียนในแต่ละปีเพื่อประเมินคุณภาพของผู้เรียนที่เข้าสู่ระบบ และใช้เป็นฐานข้อมูลในการวางแผนการจัดการเรียนการสอน การจัดอาจารย์ที่ปรึกษา และการสนับสนุนการเรียนรู้ในช่วงปีแรกของหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรตรวจสอบกระบวนการรับนักศึกษาจากแบบประเมินความพึงพอใจ และเป้าหมายการรับนักศึกษา- ดังนั้นกระบวนการปรับจึงน่าจะต้องปรับใน 2 ประเด็น คือ
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครและเป้าหมายการรับนักศึกษาไว้ชัดเจน รวมถึงมีตัวชี้วัดด้านความพร้อมของผู้เรียนใหม่ในระดับพื้นฐาน แต่เนื่องจากมหาวิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่เปิดรับตามจำนวนผู้สมัคร โดยไม่มีการคัดเลือกเชิงแข่งขัน จึงทำให้ไม่สามารถใช้กลไกการรับนักศึกษาเพื่อควบคุมคุณภาพเบื้องต้นของผู้เรียนได้มากนัก แนวทางปรับปรุงคือการพัฒนาเครื่องมือประเมินความพร้อมของผู้เรียนภายหลังการรับเข้า เช่น แบบประเมินทักษะเบื้องต้นด้านการสื่อสารหรือความเข้าใจเนื้อหาด้านนิเทศศาสตร์ระดับพื้นฐาน เพื่อใช้วางแผนการจัดกิจกรรมเสริมทักษะหรือการสอนชดเชยในกลุ่มนักศึกษาใหม่ให้ตรงกับศักยภาพของแต่ละคน รวมถึงควรมีรายงานวิเคราะห์อัตราการคงอยู่และผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนใหม่ในแต่ละปี เพื่อชดเชยข้อจำกัดของการรับเข้าที่ไม่ผ่านการคัดเลือก |
การเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ปฐมนิเทศ + ทางด้านวิชาการ (ไม่พบการรอธิบาย และเกณฑ์การพิจารณาว่า ลักษณะใดที่ นศ ต้องเตีรยมความพร้อมทางวิชาการ) แนวทางเสริมที่สามารถดำเนินการได้ในระยะต่อไปคือการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมที่สอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของสาขาวิชา เช่น เวิร์กช็อปเบื้องต้นด้านการสื่อสาร การพูดต่อหน้ากลุ่มชน หรือการเรียนรู้ศัพท์เทคนิคในงานประชาสัมพันธ์ระดับพื้นฐาน เพื่อช่วยให้นักศึกษาใหม่สามารถเข้าสู่รายวิชาเฉพาะได้อย่างมั่นใจมากขึ้น และลดความเหลื่อมล้ำด้านพื้นฐานระหว่างผู้เรียน ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตร ตั้งเป้าหมายว่านักศึกษาที่รับเข้า ต้องมีความพร้อมไม่น้อยกว่าร้อย 90 แนวทางปรับปรุงคือการออกแบบกิจกรรมเตรียมความพร้อมในเชิงวิชาชีพให้เหมาะสมกับธรรมชาติของสาขานิเทศศาสตร์ เช่น การจำลองสถานการณ์การสื่อสารในองค์กร เวิร์กช็อปพื้นฐานด้านการประชาสัมพันธ์ หรือการแนะนำรูปแบบการทำงานจริงในสายอาชีพ เพื่อช่วยให้นักศึกษาใหม่เกิดความเข้าใจเชิงลึกและสามารถวางเป้าหมายทางวิชาการของตนเองได้ตั้งแต่เริ่มต้น ทั้งนี้ควรมีการประเมินผลกิจกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงในรอบปีถัดไป |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
การควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีระบบการดูแลนักศึกษาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยมอบหมายอาจารย์ที่ปรึกษาให้รับผิดชอบนักศึกษาตั้งแต่ชั้นปีที่หนึ่ง และจัดให้มีการพบปะให้คำปรึกษาอย่างน้อยภาคการศึกษาละหนึ่งครั้ง รวมถึงเปิดช่องทางการสื่อสารผ่านออนไลน์เพื่อให้นักศึกษาสามารถติดต่อขอคำแนะนำได้สะดวก นอกจากนี้ยังมีการแนะแนวในเชิงวิชาชีพผ่านกิจกรรมฝึกงาน การจัดเสวนาอาชีพ และการเชิญศิษย์เก่ากลับมาแบ่งปันประสบการณ์ ซึ่งช่วยสร้างภาพรวมการดูแลนักศึกษาในมิติต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม แนวทางเสริมคือการรวบรวมข้อมูลสถิติและผลสะท้อนจากนักศึกษาเกี่ยวกับความพึงพอใจและประสิทธิภาพของการให้คำปรึกษา เพื่อใช้ประเมินผลและพัฒนาระบบการดูแลนักศึกษาให้มีความยืดหยุ่น ตอบโจทย์รายบุคคลมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มนักศึกษาที่ต้องการความช่วยเหลือเฉพาะด้าน เช่น ปัญหาทางการเรียน ปัญหาด้านสุขภาพจิต หรือการวางแผนอาชีพในสายงานสื่อสารองค์กรที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้หลักสูตรจะมีการมอบหมายอาจารย์ที่ปรึกษาและจัดกิจกรรมแนะแนวทั้งในเชิงวิชาการและวิชาชีพอย่างสม่ำเสมอ แต่ยังไม่ปรากฏกลไกที่ใช้ประเมินประสิทธิภาพของการให้คำปรึกษาในระดับรายบุคคลหรือภาพรวม เช่น ข้อมูลจำนวนนักศึกษาที่เข้ารับคำปรึกษาจริง ระยะเวลาการให้คำปรึกษา ความต่อเนื่องในการดูแล หรือผลลัพธ์เชิงพฤติกรรมจากการได้รับคำแนะนำ ซึ่งทำให้ไม่สามารถสะท้อนประสิทธิผลของการดูแลนักศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม แนวทางปรับปรุงคือการพัฒนาระบบการบันทึกและติดตามผลการให้คำปรึกษา รวมถึงการจัดเก็บความเห็นหรือระดับความพึงพอใจของนักศึกษาในแต่ละภาคการศึกษา เพื่อใช้เป็นข้อมูลประเมินผลและพัฒนาทักษะของอาจารย์ที่ปรึกษาให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักศึกษาได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่นักศึกษาเผชิญปัญหาเรื่องการเรียน ความเครียด หรือการวางแผนอาชีพในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว |
การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- โครงการศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 บูรณาการกับรายวิชาต่าง ๆ แนวทางเสริมที่สามารถดำเนินการต่อยอดได้คือการจัดระบบสะสมผลงานของนักศึกษาในลักษณะแฟ้มสะสมงานหรือโปรไฟล์ดิจิทัลที่แสดงพัฒนาการของทักษะในแต่ละด้านอย่างเป็นรูปธรรม และควรมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญหรือศิษย์เก่าที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมจริงเข้ามามีส่วนร่วมในการประเมินหรือแนะแนวเพื่อเพิ่มมุมมองจากภายนอกเข้าสู่กระบวนการเรียนรู้ภายในหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีกิจกรรมส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ในหลากหลายรูปแบบ เช่น การฝึกปฏิบัติในรายวิชา การอบรมเสริมทักษะ การทำโครงงาน และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ แต่ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับกลไกการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมเหล่านี้ที่สามารถแสดงการพัฒนาศักยภาพของนักศึกษาในด้านต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการสื่อสาร หรือการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางปรับปรุงคือการออกแบบระบบประเมินผลการพัฒนาทักษะของนักศึกษาในรายกิจกรรมหรือในแต่ละระดับชั้นปี เช่น แบบประเมินตนเอง เครื่องมือประเมินจากอาจารย์ หรือการสะท้อนผลการเรียนรู้ผ่านแฟ้มสะสมงาน ซึ่งจะช่วยให้หลักสูตรสามารถติดตามพัฒนาการของนักศึกษาในทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบวิชาชีพและการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น |
การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการส่งเสริมให้นักศึกษาได้พัฒนาผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ผ่านการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาสัมมนา รายวิชาโครงงาน และวิชาปฏิบัติการด้านการสื่อสาร โดยเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำองค์ความรู้ด้านประชาสัมพันธ์ไปประยุกต์ใช้กับประเด็นร่วมสมัยและบริบทชุมชนจริง เช่น การจัดทำโครงการสื่อสารเพื่อชุมชน การสื่อสารในสถานการณ์วิกฤต และการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์แบบมีส่วนร่วม กิจกรรมเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเรียนรู้ในห้องเรียนกับการสร้างคุณค่าเชิงสังคมและสามารถสอดคล้องกับแนวทางการตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติในมิติด้านการพัฒนาทุนมนุษย์และการเสริมสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แนวทางเสริมคือการพัฒนากลไกสนับสนุนให้นักศึกษานำเสนอผลงานในเวทีวิชาการหรือเวทีสร้างสรรค์ระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ตลอดจนการจัดระบบให้ผลงานนักศึกษาที่ผ่านเกณฑ์สามารถเข้าสู่กระบวนการต่อยอดในเชิงพาณิชย์หรือเชิงนโยบาย เช่น การเชิญผู้ประกอบการหรือหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมประเมินและนำผลงานไปใช้จริง เพื่อสร้างวงจรของการเรียนรู้ที่นำไปสู่ผลกระทบในเชิงประจักษ์ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีการจัดการเรียนรู้ผ่านรายวิชาโครงงานและสัมมนาที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาผลิตผลงานสร้างสรรค์และวิชาการในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่ปรากฏข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการผลักดันให้นักศึกษานำผลงานดังกล่าวไปเผยแพร่หรือต่อยอดในเวทีระดับคณะ มหาวิทยาลัย หรือเวทีภายนอก เช่น งานประชุมวิชาการ งานนิทรรศการ หรือช่องทางการสื่อสารสาธารณะ จึงทำให้ยังไม่สามารถประเมินผลกระทบของผลงานนักศึกษาที่เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติในมิติของการสร้างมูลค่าทางสังคมหรือเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน แนวทางปรับปรุงคือการสร้างระบบสนับสนุนให้นักศึกษานำเสนอผลงานในรูปแบบที่สามารถเผยแพร่ต่อได้จริง เช่น การจัดเวทีนำเสนอผลงานภายในหลักสูตร การส่งผลงานเข้าประกวดในเวทีวิชาการ การสร้างแฟ้มสะสมงานในรูปแบบดิจิทัล หรือการเชื่อมโยงกับหน่วยงานภายนอกที่สามารถนำผลงานไปใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงสาธารณะหรือเชิงอุตสาหกรรม |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | |
---|---|
การคงอยู่ |
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 87.50 |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรสามารถสะท้อนผลที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาได้อย่างหลากหลายและมีรูปธรรม ผ่านผลงานของนักศึกษาในระดับวิชาการและระดับกิจกรรม เช่น การได้รับรางวัลจากหน่วยงานภายนอก การได้รับทุนสนับสนุนให้ผลิตสื่อเพื่อประเด็นทางสังคม การนำเสนอผลงานในเวทีวิชาการของมหาวิทยาลัย และการมีส่วนร่วมในกิจกรรมระดับชาติในบทบาทของนักสื่อสารรุ่นใหม่ รวมถึงมีการติดตามภาวะการมีงานทำของบัณฑิต และรายงานระดับรายได้เฉลี่ยซึ่งอยู่ในช่วงสอดคล้องกับระดับเริ่มต้นของวิชาชีพในกลุ่มงานประชาสัมพันธ์และการสื่อสาร แนวทางเสริมคือการพัฒนาระบบสะสมข้อมูลผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในเชิงพฤติกรรมและสมรรถนะให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการติดตามและประเมินความก้าวหน้าหลังสำเร็จการศึกษาในช่วง 1 ถึง 3 ปี เพื่อใช้เป็นข้อมูลย้อนกลับในการปรับปรุงหลักสูตรให้ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของตลาดงาน อีกทั้งควรส่งเสริมให้นักศึกษาใช้ผลงานระหว่างเรียนเป็นฐานพอร์ตโฟลิโอสำหรับการศึกษาต่อหรือสมัครงาน เพื่อเพิ่มความเชื่อมโยงระหว่างผลการเรียนรู้กับความสำเร็จในระดับอาชีพ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้หลักสูตรจะรายงานตัวอย่างผลที่เกิดกับนักศึกษาในเชิงกิจกรรม การแข่งขัน และการได้รับโอกาสทางวิชาชีพในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่มีระบบการจัดเก็บหรือวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในเชิงภาพรวมที่สะท้อนถึงการบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาอย่างเป็นระบบ เช่น การประเมินความสามารถด้านการคิดวิเคราะห์ การสื่อสาร หรือการเป็นพลเมืองที่เข้มแข็งในระดับชั้นปีหรือระดับรุ่น แนวทางปรับปรุงคือการจัดทำระบบติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์ของนักศึกษาตามกลุ่มสมรรถนะที่หลักสูตรตั้งเป้าไว้ เช่น ด้านวิชาชีพ ด้านจริยธรรม และด้านทักษะศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ทั้งในช่วงระหว่างศึกษาและหลังสำเร็จการศึกษา เพื่อใช้เป็นข้อมูลสะท้อนคุณภาพของหลักสูตรอย่างรอบด้าน และสนับสนุนการปรับปรุงแผนการจัดการเรียนรู้ให้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของสังคมและตลาดแรงงาน |
|
การสำเร็จการศึกษา |
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 83.33
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 75.00
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 75.00 |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรสามารถควบคุมและส่งเสริมให้นักศึกษาสำเร็จการศึกษาได้ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยมีระบบดูแลนักศึกษาโดยอาจารย์ที่ปรึกษาและการเร่งรัดการส่งรายงานปริญญานิพนธ์หรือผลงานในรายวิชาสำคัญ นอกจากนี้ยังมีแนวปฏิบัติเพื่อลดการให้ผลการเรียนในระดับ IP ในรายวิชาปฏิบัติ ซึ่งช่วยให้กระบวนการประเมินผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาเป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่ล่าช้า จุดเด่นของระบบการบริหารในเรื่องนี้คือการทำงานร่วมกันระหว่างอาจารย์ประจำรายวิชาและอาจารย์ที่ปรึกษาปริญญานิพนธ์ในการติดตามความก้าวหน้าแบบรายคน แนวทางเสริมคือการจัดทำข้อมูลเชิงสถิติเปรียบเทียบอัตราการสำเร็จการศึกษาในแต่ละรุ่น พร้อมการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการสำเร็จการศึกษาทั้งในด้านวิชาการและด้านพฤติกรรม เพื่อให้สามารถออกแบบมาตรการช่วยเหลือเชิงป้องกันในกลุ่มนักศึกษาที่มีความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีแนวทางเร่งรัดการสำเร็จการศึกษา เช่น การติดตามผลการส่งรายงานและการลดปัญหาผลการเรียนระดับ IP ในรายวิชาปฏิบัติ แต่ยังไม่มีข้อมูลเปรียบเทียบอัตราการสำเร็จการศึกษารายปี หรือการวิเคราะห์เชิงสาเหตุสำหรับนักศึกษาที่ไม่สามารถสำเร็จการศึกษาได้ภายในระยะเวลาที่หลักสูตรกำหนด จึงยังไม่สามารถสะท้อนประสิทธิผลของมาตรการที่ใช้ได้อย่างเป็นระบบ แนวทางปรับปรุงคือการจัดทำสถิติอัตราการสำเร็จการศึกษาย้อนหลังเปรียบเทียบในแต่ละรุ่น พร้อมวิเคราะห์กลุ่มนักศึกษาที่เรียนเกินระยะเวลา เช่น ติดเกรดไม่ผ่านในรายวิชาแกน รายวิชาปฏิบัติ หรือโครงงาน เพื่อให้สามารถออกแบบมาตรการสนับสนุนเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารระยะเวลาการศึกษาของนักศึกษาได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น |
|
ความพึงพอใจและผลการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา |
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 4.48
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 4.55
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2567 ร้อยละ 4.59
|
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการติดตามความพึงพอใจของนักศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยแบบสอบถามที่ครอบคลุมทั้งด้านวิชาการ การบริการสนับสนุน และบรรยากาศการเรียนรู้ รวมถึงมีช่องทางรับข้อเสนอแนะและข้อร้องเรียนผ่านระบบออนไลน์และการสื่อสารโดยตรงกับอาจารย์ที่ปรึกษาและผู้บริหารหลักสูตร โดยมีการประมวลผลข้อมูลเพื่อใช้ในการประชุมพัฒนาหลักสูตรเป็นประจำทุกปี แนวทางเสริมคือการเปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของนักศึกษาในลักษณะของการสื่อสารสองทาง เช่น การจัดกิจกรรมเสวนานักศึกษา หรือการประชุมแลกเปลี่ยนกับอาจารย์ที่ปรึกษารายหมู่เรียน เพื่อให้สามารถสะท้อนความต้องการที่แท้จริงของนักศึกษาได้ลึกยิ่งขึ้น และสร้างวัฒนธรรมของความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรอย่างมีส่วนร่วม นอกจากนี้อาจพิจารณาจัดทำรายงานผลตอบกลับหรือแนวทางการปรับปรุงที่เกิดจากข้อร้องเรียนในรูปแบบที่นักศึกษาสามารถเข้าถึงได้ เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสและความจริงจังของหลักสูตรในการรับฟังความคิดเห็น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีการดำเนินการติดตามความพึงพอใจของนักศึกษาและมีช่องทางรับฟังความคิดเห็นผ่านการสื่อสารทั้งทางตรงและออนไลน์ แต่ยังไม่ปรากฏรายละเอียดเชิงปริมาณเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจของนักศึกษาในแต่ละด้าน หรือระบบการรวบรวม วิเคราะห์ และสื่อสารผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจากข้อร้องเรียนอย่างเป็นระบบ แนวทางปรับปรุงคือการจัดเก็บข้อมูลความพึงพอใจในเชิงสถิติโดยแยกรายหมวด เช่น ด้านการเรียนการสอน การให้คำปรึกษา การบริการสนับสนุน และการบริหารหลักสูตร พร้อมทั้งออกแบบกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนที่มีขั้นตอนชัดเจน เช่น การรับเรื่อง การพิจารณา การตอบกลับ และการสรุปผลการดำเนินการ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักศึกษาและใช้ข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานในการพัฒนาคุณภาพหลักสูตรในเชิงนโยบายและปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
ระบบการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีอาจารย์เป็นไปตามเกณฑ์ แนวทางเสริมคือการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลที่เชื่อมโยงกับผลการประเมินของอาจารย์ในแต่ละด้าน เช่น การสอน การผลิตผลงานวิชาการ และการพัฒนาวิชาชีพ เพื่อให้สามารถส่งเสริมศักยภาพของอาจารย์ได้อย่างต่อเนื่องและตรงตามเป้าหมายของหลักสูตร และควรพิจารณาระบบการสืบทอดตำแหน่งผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างมีแผนล่วงหน้า เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการบริหารจัดการและพัฒนาหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีระบบบริหารภาระงานของอาจารย์และมีแนวทางส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาด้านการสอน การวิจัย และการเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ปรากฏการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลที่มีการเชื่อมโยงกับผลการประเมินในแต่ละปี และยังไม่มีหลักฐานของระบบติดตามผลการพัฒนาศักยภาพอาจารย์ในระดับรายบุคคลหรือระดับภาพรวมของหลักสูตร แนวทางปรับปรุงคือการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลของอาจารย์ให้สอดคล้องกับสมรรถนะที่หลักสูตรต้องการในแต่ละด้าน และควรกำหนดตัวชี้วัดความก้าวหน้าทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ พร้อมจัดให้มีระบบรายงานผลความก้าวหน้าในการพัฒนาตนเองของอาจารย์แต่ละคน เพื่อใช้ประเมินผลการบริหารบุคลากรในภาพรวมของหลักสูตรและเพื่อสนับสนุนการจัดสรรทรัพยากรหรือโอกาสทางวิชาชีพให้ตรงกับเป้าหมายการพัฒนาของแต่ละบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
ระบบการบริหารอาจารย์:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีระบบการบริหารอาจารย์ที่เป็นรูปธรรม โดยมีการกำหนดภาระงานในด้านการสอน การวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอย่างชัดเจนในแต่ละปี รวมถึงมีการรายงานผลการดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์ของมหาวิทยาลัย และมีการประเมินผลการปฏิบัติงานตามรอบปีงบประมาณเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาความก้าวหน้าในสายวิชาชีพ จุดเด่นของระบบคือการให้ความสำคัญกับการกระจายภาระงานอย่างเหมาะสมตามความถนัดและศักยภาพของอาจารย์แต่ละคน แนวทางเสริมคือการนำข้อมูลผลการประเมินรายบุคคลในแต่ละปีมาวิเคราะห์ร่วมกันในระดับหลักสูตร เพื่อกำหนดเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพคณาจารย์ในภาพรวม และควรเสริมกลไกการมีส่วนร่วมของอาจารย์ในการวางแผนภาระงานล่วงหน้าอย่างเป็นระบบ เช่น การใช้ข้อมูลแผนการสอนและแผนวิจัยเป็นฐานในการจัดสรรงานแต่ละรอบปี เพื่อให้เกิดความสอดคล้องระหว่างภารกิจหลักของหลักสูตรกับเป้าหมายการพัฒนาของบุคลากร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- มีการประชุม ทบทวน แบ่ง และมอบหมายบทบาทหน้าที่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหรือไม่ มีรายงานการประชุม หรือไม่ แนวทางปรับปรุงคือการพัฒนาระบบฐานข้อมูลภาระงานและผลการประเมินของอาจารย์ให้สามารถสรุปภาพรวมระดับหลักสูตรในแต่ละปี พร้อมใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนอัตรากำลัง การพัฒนาสายอาชีพ และการกำหนดภารกิจด้านการสอนหรือการผลิตผลงานวิชาการให้สอดคล้องกับเป้าหมายของหลักสูตรในระยะยาว รวมถึงควรพิจารณากำหนดตัวชี้วัดเชิงกลยุทธ์ในระดับหลักสูตรที่สะท้อนคุณภาพของระบบบริหารอาจารย์อย่างเป็นรูปธรรม |
ระบบการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ให้มีคุณภาพทั้งด้านความรู้ ความสามารถในเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ สามารถก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่ มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาศาสตร์ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการส่งเสริมให้คณาจารย์เข้าร่วมอบรมและพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องทั้งในระดับมหาวิทยาลัยและระดับภายนอก โดยเน้นทั้งด้านการเรียนการสอน การวิจัย การผลิตผลงานทางวิชาการ และการพัฒนาวิชาชีพในสายวิทยาศาสตร์สังคมและนิเทศศาสตร์ เช่น การเข้าร่วมประชุมวิชาการ การอบรมด้านเทคโนโลยีการสอน และการส่งเสริมให้เข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ จุดเด่นคืออาจารย์ในหลักสูตรมีความหลากหลายทางความเชี่ยวชาญ และมีผลงานวิชาการหรือกิจกรรมทางวิชาชีพที่สะท้อนความสามารถในการประยุกต์ศาสตร์นิเทศสู่การเรียนการสอนและการวิจัยได้อย่างเหมาะสม แนวทางเสริมคือการกำหนดแผนพัฒนาทักษะรายบุคคลที่สอดคล้องกับภารกิจประจำของอาจารย์แต่ละคน และควรพิจารณาส่งเสริมให้อาจารย์มีโอกาสร่วมวิจัยแบบสหวิทยาการหรือสร้างเครือข่ายวิจัยร่วมกับภาคอุตสาหกรรมหรือชุมชน เพื่อขยายผลการพัฒนาทางวิชาการให้เชื่อมโยงกับบริบททางสังคมและตอบโจทย์เชิงนโยบายได้มากยิ่งขึ้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- อธิบายระบบการส่งเสริม มีการสนับสนุนอย่างไร เพือพัฒนาอาจารย์ให้มีคุณภาพทั้งด้านความรู้ ความสามารถในเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ สามารถก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่ มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาศาสตร์ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบ แนวทางปรับปรุงคือการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลที่เชื่อมโยงกับผลการประเมินและภาระงานในแต่ละปี เพื่อส่งเสริมให้การพัฒนาศักยภาพของอาจารย์มีเป้าหมายและวัดผลได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งควรสนับสนุนให้อาจารย์ได้พัฒนาองค์ความรู้ร่วมกับเครือข่ายวิชาการทั้งในระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงติดตามแนวโน้มด้านเทคโนโลยีหรือวิชาชีพร่วมสมัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพในการจัดการเรียนรู้และการวิจัยให้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและบริบทอาชีพ |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
- รายงานการเข้าร่วมกิจกรรมการพัฒนาตนเองของอาจารย์ |
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด | 5 | 5.00 |
[2] จำนวนอาจารย์ที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก | 1 | |
[3] ร้อยละที่ได้ [2] X 100 / [1] | 20.00 | |
[4] ผลลัพธ์ที่ได้ [3] X 5 / 20 | 5.00 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรจำนวน 5 คน โดยมีผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจำนวน 1 คน คิดเป็นร้อยละ 20 ซึ่งตรงตามเกณฑ์ขั้นต่ำของกระทรวงในการประเมินคุณภาพของอาจารย์ที่รับผิดชอบหลักสูตรในระดับปริญญาตรี และสามารถให้คะแนนเต็มในตัวบ่งชี้นี้ได้อย่างเหมาะสม จุดเด่นคือการมีอาจารย์ระดับดุษฎีบัณฑิตที่ร่วมพัฒนาหลักสูตรและรับผิดชอบการสอนในรายวิชาหลักของสาขา ซึ่งช่วยส่งเสริมคุณภาพของการจัดการเรียนรู้และการผลิตผลงานวิชาการ แนวทางเสริมคือการวางแผนพัฒนาอาจารย์ในระยะยาวโดยส่งเสริมให้ผู้ที่มีคุณวุฒิระดับปริญญาโทเข้าสู่การศึกษาต่อระดับปริญญาเอกในสาขาวิชาที่สอดคล้องกับหลักสูตร เพื่อเพิ่มสัดส่วนอาจารย์ที่มีคุณวุฒิระดับสูง และรองรับการปรับตัวของหลักสูตรในอนาคตทั้งในด้านมาตรฐานวิชาการและการวิจัยเชิงบูรณาการ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- มีระบบและกลไกการส่งเสริมให้ศึกษาต่อหรือไม่ อย่างไร ตอบใน 4.1 แนวทางปรับปรุงคือการสนับสนุนให้อาจารย์ประจำที่มีคุณวุฒิระดับปริญญาโทเข้าสู่การศึกษาต่อระดับปริญญาเอกในสาขาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับศาสตร์นิเทศศาสตร์ โดยอาจกำหนดเป้าหมายรายปีร่วมกับคณะหรือมหาวิทยาลัยเพื่อเพิ่มสัดส่วนอาจารย์ดุษฎีบัณฑิต และควรมีระบบติดตามความก้าวหน้าของแผนพัฒนานี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หลักสูตรมีความมั่นคงในด้านทรัพยากรบุคคลและสามารถรองรับการปรับปรุงมาตรฐานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด | 5 | 5.00 |
[2] ไม่มีตำแหน่งทางวิชาการ [อาจารย์] | 2 | |
[3] ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ | 3 | |
[4] ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ | 0 | |
[5] ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ | 0 | |
[6] ดำรงตำแหน่งทางวิชาการทั้งหมด [3] + [4] + [5] | 3 | |
[7] ร้อยละที่ได้ [6] X 100 / [1] | 60.00 | |
[8] ผลลัพธ์ที่ได้ [7] x 5 / 60 | 5.00 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในตำแหน่งทางวิชาการจำนวน 3 คน จากทั้งหมด 5 คน คิดเป็นร้อยละ 60 ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำตามที่กำหนดไว้ และสะท้อนถึงความแข็งแรงของทรัพยากรบุคคลในด้านวิชาการได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะในระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์ซึ่งถือเป็นฐานสำคัญของการพัฒนาหลักสูตรในระดับอุดมศึกษา จุดเด่นคืออาจารย์ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการล้วนมีความเชี่ยวชาญตรงกับสาขาวิชาที่รับผิดชอบ และมีบทบาททั้งในการสอน การกำกับโครงงาน และการผลิตผลงานทางวิชาการของหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง แนวทางเสริมคือการพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ในตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ให้ก้าวสู่ตำแหน่งรองศาสตราจารย์อย่างเป็นระบบ โดยจัดให้มีแผนการสนับสนุนด้านการเขียนบทความวิจัย การผลิตผลงานสร้างสรรค์ และการเผยแพร่ในเวทีวิชาการระดับนานาชาติ เพื่อยกระดับความเข้มแข็งของทีมอาจารย์ในระยะยาวและสร้างความยั่งยืนในการบริหารหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการในสัดส่วนร้อยละ 60 ซึ่งเกินเกณฑ์ขั้นต่ำและอยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ตำแหน่งทางวิชาการทั้งหมดที่ปรากฏยังอยู่ในระดับผู้ช่วยศาสตราจารย์ และยังไม่มีการแสดงแผนการพัฒนาสู่ระดับรองศาสตราจารย์หรือศาสตราจารย์ในระยะยาวอย่างชัดเจน แนวทางปรับปรุงคือการกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการสนับสนุนให้อาจารย์ในหลักสูตรสามารถขยับตำแหน่งทางวิชาการสู่ระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาผลงานวิจัย ผลงานสร้างสรรค์ และการบริการวิชาการที่สามารถเผยแพร่ในระดับชาติหรือระดับนานาชาติ รวมถึงการจัดเวิร์กช็อป การให้คำปรึกษาแบบรายบุคคล และการประเมินความพร้อมเชิงระบบของอาจารย์แต่ละคนเพื่อกำหนดแนวทางสนับสนุนให้เหมาะสมกับบริบทเฉพาะของบุคลากรในหลักสูตร |
จำนวนผลงานทางวิชาการตามค่าถ่วงน้ำหนัก | |||||
---|---|---|---|---|---|
ค่าถ่วงน้ำหนัก | 0.20 | 0.40 | 0.60 | 0.80 | 1.00 |
จำนวนผลงาน (ชิ้น) | 0 | 0 | 1 | 3 | 1 |
จำนวนผลงานสร้างสรรค์ตามค่าถ่วงน้ำหนัก | |||||
---|---|---|---|---|---|
ค่าถ่วงน้ำหนัก | 0.20 | 0.40 | 0.60 | 0.80 | 1.00 |
จำนวนผลงาน (ชิ้น) | 0 | 0 | 0 | 0 | 9 |
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
[1] ผลรวมถ่วงน้ำหนักที่ได้ | 13.00 | 5.00 |
[2] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด | 5 | |
[3] ร้อยละที่ได้ [1] X 100 / [2] | 260.00 | |
[4] ผลลัพธ์ที่ได้ [3] X 5 / 20 | 5.00 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีผลงานสร้างสรรค์ระดับนานาชาติ 9 ชิ้น แนวทางเสริมคือการสนับสนุนให้อาจารย์บางส่วนพัฒนาผลงานทางวิชาการประเภทบทความวิจัยหรือบทความวิชาการควบคู่ไปกับผลงานสร้างสรรค์ เพื่อสร้างความสมดุลในภาพรวมของผลงานคณาจารย์ และควรผลักดันให้นำผลงานสร้างสรรค์ที่มีคุณภาพเข้าสู่การเผยแพร่ในระดับนานาชาติหรือนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงนโยบายหรืออุตสาหกรรม เพื่อยกระดับผลกระทบทางวิชาการและสังคมของหลักสูตรในระยะยาว ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าผลงานทางวิชาการและผลงานสร้างสรรค์ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรจะมีปริมาณและค่าถ่วงน้ำหนักในระดับสูงจนได้คะแนนเต็มตามเกณฑ์การประเมิน แต่ยังพบข้อผิดพลาดในส่วนของการกรอกข้อมูลในตาราง โดยเฉพาะค่าร้อยละของผลงานถ่วงน้ำหนักซึ่งระบุเป็น 650 แทนที่จะเป็น 260 ตามสูตรการคำนวณ ส่งผลให้เกิดความคลาดเคลื่อนในเอกสารรายงานและอาจกระทบต่อความน่าเชื่อถือของข้อมูลในภาพรวม แนวทางปรับปรุงคือการตรวจสอบความถูกต้องของการกรอกข้อมูลเชิงคำนวณในแบบฟอร์ม โดยควรมีผู้ทบทวนเอกสารอีกชั้นก่อนการส่งรายงานเข้าสู่ระบบ QA ทั้งในระดับหลักสูตรและระดับคณะ เพื่อให้ข้อมูลที่แสดงมีความสอดคล้องกับสูตรการคำนวณจริงและสามารถใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายได้อย่างแม่นยำ |
รายการหลักฐาน ตัวบ่งชี้ 4.2 คุณภาพอาจารย์ |
---|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | |
---|---|
การคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร |
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 100.00 |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีอัตราการคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรครบถ้วนร้อยละ 100 ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปีการศึกษาติดต่อกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมั่นคงของทีมอาจารย์หลัก ความต่อเนื่องในการบริหารหลักสูตร และความสามารถในการรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้กับหลักสูตรอย่างยั่งยืน จุดเด่นของหลักสูตรคือสามารถสร้างความผูกพันของอาจารย์กับภารกิจของหลักสูตรในระยะยาว และส่งผลดีต่อความต่อเนื่องของกระบวนการจัดการเรียนการสอน การนิเทศงานวิจัย และการดำเนินงานตามกรอบมาตรฐานวิชาชีพ อีกทั้งยังช่วยให้การสืบทอดองค์ความรู้และการพัฒนาหลักสูตรเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพ แนวทางเสริมคือการวางระบบพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ในทีมผู้รับผิดชอบหลักสูตรให้มีเป้าหมายชัดเจนร่วมกันทั้งในด้านการเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ การผลิตผลงานวิจัย และการขยายบทบาทเชิงวิชาชีพ พร้อมทั้งควรมีระบบส่งเสริมความผูกพันในลักษณะของทีม เช่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายใน การวางแผนพัฒนารายบุคคลร่วมกัน และการมีส่วนร่วมในการกำหนดยุทธศาสตร์หลักสูตร เพื่อรักษาความมั่นคงของทีมในระยะยาว ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีอัตราการคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในระดับร้อยละ 100 ติดต่อกันสามปี ซึ่งแสดงถึงเสถียรภาพของทีมอาจารย์ แต่ยังไม่ปรากฏข้อมูลหรือหลักฐานที่แสดงถึงแนวทางการบริหารความเสี่ยงในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากร เช่น แผนสืบทอดตำแหน่ง แผนการคัดเลือกหรือพัฒนาผู้รับผิดชอบหลักสูตรในอนาคต หรือการจัดเตรียมอาจารย์รุ่นใหม่ให้พร้อมเข้ามารับผิดชอบเมื่อจำเป็น แนวทางปรับปรุงคือการกำหนดแผนการบริหารความต่อเนื่องของทีมอาจารย์อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในด้านการสร้างความรู้ร่วมกัน การถ่ายทอดบทบาทการบริหารหลักสูตร และการเตรียมอาจารย์รุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเข้าสู่บทบาทผู้รับผิดชอบหลักสูตรในอนาคต เพื่อให้หลักสูตรสามารถรักษาความมั่นคงของบุคลากรและปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน |
|
ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตร |
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 5.00
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 5.00
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2567 ร้อยละ 5.00
|
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีแนวปฏิบัติที่เปิดโอกาสให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการหลักสูตร เช่น การเข้าร่วมประชุม การเสนอความคิดเห็นเชิงนโยบาย และการออกแบบกิจกรรมเชิงวิชาการร่วมกับทีมบริหารระดับคณะและสถาบัน ซึ่งมีผลต่อระดับความพึงพอใจของอาจารย์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงสามปีการศึกษา โดยสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือที่ดีภายในทีมและบรรยากาศการทำงานที่เอื้อต่อการพัฒนาหลักสูตรอย่างยั่งยืน แนวทางเสริมคือการจัดระบบ Feedback loop อย่างเป็นทางการระหว่างอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรกับคณะกรรมการบริหารหลักสูตร เช่น การประเมินความพึงพอใจปลายภาคปี การสะท้อนปัญหาในการบริหารและนำไปสู่การปรับปรุงเชิงโครงสร้าง และควรพิจารณาจัดกิจกรรมสร้างแรงจูงใจ เช่น การประกาศเกียรติคุณอาจารย์ที่มีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาหลักสูตร เพื่อเสริมสร้างความผูกพันและความภาคภูมิใจของคณาจารย์ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้หลักสูตรจะได้รับคะแนนความพึงพอใจในระดับสูงสุดอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ปี แสดงถึงความเชื่อมั่นของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อกระบวนการบริหารหลักสูตรในด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากผลการประเมินอยู่ในระดับสูงสุดทุกประเด็นอย่างสม่ำเสมอ จึงควรพิจารณาทบทวนเครื่องมือวัดหรือแนวทางการประเมินให้ครอบคลุมทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เพื่อให้สามารถสะท้อนข้อเสนอแนะเชิงลึกหรือประเด็นที่อาจยังไม่ปรากฏในเชิงคะแนน แนวทางปรับปรุงคือการเพิ่มคำถามปลายเปิดในแบบสอบถามความพึงพอใจเพื่อเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพจากอาจารย์ รวมถึงจัดเวทีสะท้อนความเห็นประจำปีโดยเปิดโอกาสให้แลกเปลี่ยนข้อเสนอเชิงนโยบายหรือข้อสังเกตจากการทำงานจริง ซึ่งจะช่วยให้หลักสูตรสามารถนำข้อคิดเห็นไปใช้วางแผนพัฒนาได้ตรงจุดยิ่งขึ้น แม้คะแนนจะอยู่ในระดับสูงแล้วก็ตาม |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
- หลักสูตรมีการเก็บข้อมูลความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต่อการบริหารจัดการหลักสูตรใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การรับและแต่งตั้ง การบริหารอาจารย์ และการส่งเสริมพัฒนาอาจารย์ โดยมีค่าคะแนนเฉลี่ยในทุกประเด็นอยู่ที่ระดับสูงสุด 5.00 ต่อเนื่องในปีการศึกษา 2564 ถึง 2566 ซึ่งแสดงถึงความเชื่อมั่นของอาจารย์ต่อระบบการบริหารหลักสูตรในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่รายงานเป็นค่าคะแนนเชิงปริมาณทั้งหมดโดยไม่มีการแสดงผลเชิงคุณภาพ เช่น ประเด็นข้อเสนอแนะหรือข้อคิดเห็นจากอาจารย์ จึงยังไม่สามารถสะท้อนมิติด้านความลึกหรือความหลากหลายของประสบการณ์ในการบริหารหลักสูตรได้อย่างครบถ้วน
จึงประเมินคะแนนในระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับดีมาก โดยมีข้อเสนอให้เพิ่มเติมระบบสะท้อนความคิดเห็นเชิงคุณภาพเพื่อสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืน
-
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
การออกแบบหลักสูตร และสาระรายวิชาในหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน มีหลักสูตรหรือรายวิชาที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการออกแบบสาระรายวิชาให้มีความทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ด้านประชาสัมพันธ์และการสื่อสารองค์กรให้เชื่อมโยงกับการปฏิบัติจริงในบริบทสังคมร่วมสมัย นอกจากนี้ยังมีรายวิชาที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ เช่น รายวิชาสหกิจศึกษา รายวิชาโครงการนิเทศศาสตร์ และวิชาสัมมนาวิชาชีพ ซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงและเสริมสร้างสมรรถนะที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน จุดเด่นของหลักสูตรอยู่ที่ความสามารถในการออกแบบรายวิชาที่ส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติ รวมถึงการประสานงานกับภาคีภายนอกเพื่อนำบริบทการทำงานจริงมาพัฒนาการเรียนรู้ แนวทางเสริมคือการขยายรูปแบบความร่วมมือกับสถานประกอบการในรายวิชาทั่วไปนอกเหนือจากสหกิจศึกษา โดยอาจเชิญผู้เชี่ยวชาญร่วมพัฒนาหรือสอนบางหัวข้อในรายวิชาหลัก เพื่อเพิ่มความทันสมัยและเชื่อมโยงความรู้กับการใช้จริงในสายวิชาชีพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจัดทำฐานข้อมูลความต้องการของสถานประกอบการและศิษย์เก่าเพื่อนำมาสนับสนุนการพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- อธิบายระบบ/กลไก การดำเนินการ ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน มีหลักสูตรหรือรายวิชาที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ แนวทางปรับปรุงคือการพัฒนากระบวนการประเมินความต้องการของผู้เรียนและตลาดแรงงานอย่างเป็นระบบ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการออกแบบรายวิชาใหม่หรือปรับเนื้อหาให้ตอบโจทย์วิชาชีพมากยิ่งขึ้น รวมถึงควรจัดทำแผนหรือข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) กับสถานประกอบการในระยะยาว เพื่อใช้สนับสนุนการสอนรายวิชาหลัก หรือพัฒนา “วิชาเฉพาะทางร่วม” ที่สามารถดึงผู้เชี่ยวชาญหรือบุคลากรจากภาคธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมทั้งในด้านการสอน การประเมินผล และการวิจัยร่วมในอนาคต |
มีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรได้กำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนไว้อย่างครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านบุคคลแห่งการเรียนรู้ (Learner Person) ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะตลอดชีวิตและการคิดเชิงวิเคราะห์ ด้านผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมร่วม (Innovative Co-Creator) ที่เชื่อมโยงองค์ความรู้กับการลงมือปฏิบัติ และด้านพลเมืองที่มีส่วนร่วม (Active Citizen) ที่ส่งเสริมจิตสำนึกสาธารณะ จริยธรรม และความรับผิดชอบต่อสังคม จุดเด่นของหลักสูตรอยู่ที่การเชื่อมโยงผลลัพธ์การเรียนรู้กับรายวิชาและกิจกรรมพัฒนานักศึกษาทั้งในและนอกชั้นเรียนอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการบูรณาการ Soft Skills กับภารกิจวิชาชีพด้านการสื่อสาร เช่น การฝึกปฏิบัติ การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม และการจัดกิจกรรมสาธารณะเพื่อชุมชน แนวทางเสริมคือการพัฒนาระบบประเมินผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในแต่ละด้านให้สามารถวัดผลได้ทั้งเชิงปริมาณและเชิงพฤติกรรม พร้อมกับการจัดทำแฟ้มสะสมงานที่แสดงความก้าวหน้าในแต่ละด้านอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อใช้ประกอบการประกันคุณภาพรายปี และเชื่อมโยงสู่การวางแผนพัฒนาหลักสูตรในระยะยาว ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนอย่างครอบคลุมทั้ง 3 ด้านตามกรอบมาตรฐานของมหาวิทยาลัย ได้แก่ ด้านการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วม และด้านการเป็นพลเมืองที่มีจิตสาธารณะ แต่ยังไม่ปรากฏเครื่องมือวัดหรือเกณฑ์ประเมินที่แสดงให้เห็นถึงการติดตามผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในแต่ละด้านอย่างเป็นระบบ เช่น การวัดผลสัมฤทธิ์ของ Learner Person ที่แยกจากผลการเรียนรายวิชา หรือการประเมินด้าน Active Citizen ที่วัดผลได้ชัดเจนเกินกว่าการเข้าร่วมกิจกรรม แนวทางปรับปรุงคือการพัฒนาชุดตัวชี้วัดและเครื่องมือวัดผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในแต่ละด้านให้สามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยควรผนวกรูปแบบการประเมินลงในแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาและกิจกรรมเสริมหลักสูตร พร้อมออกแบบระบบสะสมพัฒนาการของผู้เรียนในรูปแบบแฟ้มสะสมงานหรือการสะท้อนตนเองรายภาคการศึกษา เพื่อให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มการบรรลุผลลัพธ์ของผู้เรียนแต่ละรุ่นได้อย่างเป็นระบบ |
การปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยตามความก้าวหน้าในศาสตร์สาขานั้นๆ และเชื่อมโยงกับการนำไปใช้ได้จริง |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการปรับปรุงเนื้อหารายวิชาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของศาสตร์ด้านการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสื่อดิจิทัล พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ และการสื่อสารเพื่อความยั่งยืน รวมถึงมีการออกแบบกิจกรรมในรายวิชาให้เชื่อมโยงกับการปฏิบัติจริง เช่น การวิเคราะห์เคส การจำลองสถานการณ์ และการร่วมมือกับสถานประกอบการผ่านการเรียนรู้เชิงบูรณาการ จุดเด่นคือการที่อาจารย์ผู้สอนมีบทบาทเชิงรุกในการปรับแผนการสอนให้ทันสมัยทั้งในระดับเนื้อหา วิธีการ และการใช้เทคโนโลยี ตลอดจนการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้พัฒนาโครงงานหรือผลงานที่สามารถนำไปใช้ต่อยอดได้จริงในชีวิตการทำงานหรือในชุมชน แนวทางเสริมคือการเชิญผู้เชี่ยวชาญภายนอกหรือศิษย์เก่าที่อยู่ในแวดวงอุตสาหกรรมมาให้ข้อเสนอแนะในการปรับหลักสูตรหรือรายวิชา เพื่อเพิ่มความร่วมสมัยของเนื้อหาให้ครอบคลุมทั้งในเชิงวิชาการและแนวโน้มตลาดแรงงาน อีกทั้งควรจัดให้มีการประเมินผลการเรียนรู้จากผู้ใช้บัณฑิตหรือผู้ประกอบการเพื่อใช้ในการปรับปรุงหลักสูตรในรอบถัดไปให้มีความเชื่อมโยงกับการใช้จริงอย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีการรายงานว่ามีการปรับปรุงรายวิชาให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในสาขาในสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 85.71 และมีการปรับเนื้อหาให้เชื่อมโยงกับการปฏิบัติจริงในบางรายวิชา แต่ยังไม่ปรากฏรายละเอียดเชิงระบบเกี่ยวกับกระบวนการติดตามแนวโน้มของศาสตร์อย่างต่อเนื่อง เช่น การตั้งคณะทำงานวิชาการประจำหลักสูตรที่มีการทบทวนแผนการสอนประจำปี การวิเคราะห์แนวโน้มวิชาชีพ หรือการอ้างอิงข้อมูลจากผู้ใช้บัณฑิตหรือภาคอุตสาหกรรมในการออกแบบเนื้อหาใหม่ แนวทางปรับปรุงคือการกำหนดกระบวนการประกันคุณภาพภายในระดับรายวิชาที่สามารถติดตามความล้าสมัยของเนื้อหาอย่างเป็นระบบ เช่น การกำหนดรอบการทบทวนและประเมินรายวิชาทุก 1–2 ปี พร้อมกำหนดให้มีการอ้างอิงองค์ความรู้หรือแนวโน้มวิชาชีพร่วมสมัยในการอัปเดตแผนการสอน และควรพัฒนาแบบฟอร์มการปรับปรุงรายวิชาให้ครอบคลุมทั้งเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติ เพื่อสร้างความเชื่อมโยงที่เป็นรูปธรรมมากขึ้นระหว่างการเรียนการสอนกับการนำไปใช้จริงในวิชาชีพ |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
- การสำรวจความต้องการหรือความพึงพอใจของสถานประกอบการหรือผู้ใช้บัณฑิต |
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | ||
---|---|---|
การกำหนดผู้สอน | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการกำหนดผู้สอนโดยพิจารณาจากความเชี่ยวชาญตรงตามรายวิชา มีการวางแผนร่วมกันระหว่างผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ประจำวิชา ทำให้การจัดการเรียนการสอนมีความเหมาะสมและต่อเนื่อง แนวทางเสริมคือควรมีระบบหมุนเวียนหรือพัฒนาอาจารย์รุ่นใหม่ให้สามารถสอนในรายวิชาหลักได้ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวและเสริมความยืดหยุ่นให้กับการบริหารหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าการกำหนดผู้สอนจะยึดตามความเชี่ยวชาญ แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานเชิงระบบในการจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพผู้สอนรายวิชาเฉพาะหรือแผนสืบทอดสำหรับรายวิชาหลักที่มีผู้สอนจำกัดแนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดแผนพัฒนาผู้สอนรายรายวิชาอย่างเป็นทางการ และจัดระบบการถ่ายทอดองค์ความรู้หรือการสอนร่วมเพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต |
||
การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และการจัดการเรียนการสอน | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีระบบติดตามการจัดทำ มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างสม่ำเสมอ โดยอาจารย์ต้องจัดส่งภายในกรอบเวลาที่กำหนด และมีการตรวจสอบโดยผู้รับผิดชอบหลักสูตรก่อนรายงานระดับคณะ แนวทางเสริมคือควรจัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างอาจารย์เกี่ยวกับการออกแบบการเรียนรู้และการประเมินผล เพื่อยกระดับคุณภาพ มคอ.3 และ มคอ.4 ให้สอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตรอย่างชัดเจนและนำไปใช้ได้จริงในห้องเรียน ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้จะมีการกำกับและติดตามการจัดทำ มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานของการวิเคราะห์คุณภาพของแผนการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องระหว่างผลลัพธ์การเรียนรู้ วิธีสอน และวิธีประเมิน แนวทางปรับปรุงคือควรมีการตรวจสอบเชิงคุณภาพของ มคอ.3 และ มคอ.4 โดยใช้แบบฟอร์มหรือเกณฑ์ร่วมของหลักสูตร และจัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพอาจารย์ผู้สอนเพื่อยกระดับการออกแบบการเรียนรู้ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น |
||
การจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีที่มีการบูรณาการกับการวิจัย การบริการวิชาการทางสังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีการบูรณาการรายวิชาเข้ากับการบริการวิชาการ การวิจัย และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม แนวทางเสริมคือควรจัดทำแผนบูรณาการในรายวิชาหลักให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเพิ่มการมีส่วนร่วมของชุมชนหรือหน่วยงานภายนอกในการประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและสามารถสะท้อนผลกระทบเชิงสังคมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีการบูรณาการการเรียนการสอนกับการวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมในบางรายวิชาและกิจกรรม เช่น โครงงานนิเทศศาสตร์หรือกิจกรรมสาธารณะ แต่ยังไม่ปรากฏแผนการบูรณาการเชิงระบบหรือหลักฐานที่แสดงความต่อเนื่องของผลการดำเนินงานในแต่ละด้านอย่างชัดเจน แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดรายวิชาหรือกิจกรรมหลักที่มีการบูรณาการทั้งสามด้านไว้อย่างเป็นทางการในแผนหลักสูตร พร้อมจัดเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานและผลลัพธ์ต่อผู้เรียนหรือชุมชนในแต่ละปี เพื่อใช้เป็นฐานในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนที่มีคุณค่าเชิงสังคมและวัฒนธรรมมากยิ่งขึ้น |
||
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | ||
---|---|---|
การประเมินผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร ตลอดจนมาตรฐานวิชาชีพ (ถ้ามี) | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการประเมินผลการเรียนรู้โดยอ้างอิงกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และผลลัพธ์การเรียนรู้ทั้ง 3 ด้านตามวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัย โดยเชื่อมโยงเกณฑ์ประเมินไว้ใน มคอ.3 และ มคอ.5 ของรายวิชาหลัก ซึ่งแสดงให้เห็นความพยายามในการวัดผลผู้เรียนให้ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ แนวทางเสริมคือควรจัดระบบตรวจสอบความสอดคล้องระหว่างผลลัพธ์การเรียนรู้กับวิธีประเมินในแต่ละรายวิชา และพัฒนารูปแบบการประเมินให้หลากหลาย เช่น การประเมินตามสมรรถนะหรือแฟ้มสะสมงาน เพื่อให้สะท้อนความก้าวหน้าของผู้เรียนอย่างเป็นรูปธรรมและตอบโจทย์คุณลักษณะของผู้เรียนยุคใหม่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ขอให้หลักสูตรรายงานระบบและกลไก การประเมินผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีการระบุผลลัพธ์การเรียนรู้ทั้ง 3 ด้านตามกรอบมาตรฐานและมีการเชื่อมโยงการประเมินไว้ใน มคอ.3 และ มคอ.5 แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานของระบบติดตามหรือวิเคราะห์ผลการประเมินในระดับหลักสูตร เช่น การสรุปผลลัพธ์รายปี หรือการตรวจสอบความครอบคลุมของการประเมินตามผลลัพธ์ในทุกมิติ แนวทางปรับปรุงคือควรพัฒนาระบบรวบรวมและวิเคราะห์ผลการประเมินในระดับหลักสูตร เช่น การทำ Mapping ระหว่าง CLO กับวิธีประเมินในแต่ละรายวิชา และการรายงานผลสัมฤทธิ์ตามด้าน Learner Person, Innovative Co-Creator และ Active Citizen เพื่อให้สามารถใช้ข้อมูลดังกล่าววางแผนพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนรู้ในภาพรวมได้อย่างเป็นระบบและมีทิศทางชัดเจน |
||
การตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีระบบตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา โดยกำหนดให้มีการจัดทำ มคอ.5 สำหรับทุกรายวิชา และมีการตรวจทานโดยอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรก่อนส่งรายงานระดับคณะ ซึ่งช่วยสร้างความถูกต้องและความสอดคล้องของผลการประเมินกับผลลัพธ์การเรียนรู้ แนวทางเสริมคือควรจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับเกณฑ์การประเมินในรายวิชาประเภทเดียวกัน เพื่อให้เกิดความเข้าใจร่วมกันของผู้สอน และส่งเสริมการประเมินผลที่มีมาตรฐานร่วมและสะท้อนคุณภาพผู้เรียนได้หลากหลายมิติ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- เมื่อมีการประเมินผลรายวิชาแล้ว หลักสูตรมีระบบ/กลไกการตรวจอย่างไร มีคณะกรรมการระดับภาควิชาหรือไม่ นำผลการประเมินมาทบทวนความถูกต้องของเครื่องมือวัดผล ผลของการวัด ด้วยกระบวนการใด - เป้าหมาย เพื่อทบทวน ว่า กระบวนการวัดผล/ประเมินผลมีความถูกต้อง ครบถ้วน - ตัวชี้วัดเกี่ยวกับ คุณภาพของหลักสุตรอาจจะไม่ตรงกับเกณฑ์ข้อนี้มากนัก - แม้จะมีการกำหนดให้รายงานผลการประเมินใน มคอ.5 และตรวจสอบผ่านระบบภายในหลักสูตร แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานของการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ เช่น ความเที่ยงตรงของเกณฑ์ คะแนนเฉลี่ยรายหัวข้อ หรือความสัมพันธ์ระหว่างผลประเมินกับผลลัพธ์ผู้เรียนในระดับหลักสูตร แนวทางปรับปรุงคือควรมีการสังเคราะห์ผลการประเมินจากรายวิชาในภาพรวม เพื่อใช้สะท้อนคุณภาพผู้เรียนและพัฒนาระบบประเมินอย่างต่อเนื่อง อาจเริ่มจากการกำหนดเกณฑ์กลางในบางรายวิชาหลัก และติดตามผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนเป็นชุดข้อมูลเพื่อนำไปวางแผนปรับปรุงในระดับหลักสูตรต่อไป |
||
การกำกับการประเมินการจัดการเรียนการสอน และประเมินหลักสูตร (มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7) | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการดำเนินการจัดทำ มคอ.5 และ มคอ.6 อย่างต่อเนื่องทุกภาคการศึกษา โดยมีระบบติดตามและตรวจสอบผ่านผู้รับผิดชอบหลักสูตรและคณะ ซึ่งช่วยให้ข้อมูลการจัดการเรียนการสอนถูกสรุปและนำไปใช้ประเมินคุณภาพรายวิชาได้อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ยังมีการสรุป มคอ.7 เพื่อประเมินภาพรวมของหลักสูตรประจำปี แนวทางเสริมคือควรใช้ข้อมูลจาก มคอ.5 และ มคอ.6 ในการจัดทำข้อเสนอเชิงวิเคราะห์สำหรับพัฒนาเนื้อหาและวิธีการสอนในรายวิชาหลัก และส่งเสริมให้อาจารย์ผู้สอนใช้ผลการประเมินจากผู้เรียนและผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในการทบทวนแผนการสอนรอบถัดไปอย่างมีทิศทางร่วมกันของหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีการจัดทำ มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7 อย่างครบถ้วนตามรอบการประเมิน แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานของการใช้ข้อมูลจากเอกสารเหล่านี้ไปสู่การวิเคราะห์เชิงคุณภาพเพื่อปรับปรุงหลักสูตรอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การสังเคราะห์ปัญหาซ้ำซากของรายวิชาหลัก หรือการวิเคราะห์แนวโน้มผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในระดับหลักสูตร แนวทางปรับปรุงคือควรจัดระบบสรุปผลและวิเคราะห์ข้อมูลจาก มคอ.5–7 ในระดับหลักสูตรเป็นประจำทุกปี พร้อมรายงานแนวโน้ม จุดอ่อน จุดแข็ง และข้อเสนอเชิงนโยบายที่นำไปสู่การทบทวนหลักสูตรหรือรายวิชาอย่างเป็นระบบ และควรจัดประชุมร่วมกับอาจารย์ผู้สอนเพื่อแลกเปลี่ยนผลการประเมินและกำหนดทิศทางการปรับปรุงรายวิชาอย่างมีส่วนร่วม |
||
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อยร้อยละ 80 มีส่วนร่วมในการประชุมเพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนินงานหลักสูตร |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีการประชุม 4 ครั้ง แนวทางเสริมคือควรจัดเก็บรายงานการประชุมพร้อมข้อเสนอแนะหรือประเด็นทบทวนหลักสูตรในแต่ละรอบไว้เป็นหมวดหมู่ และวิเคราะห์แนวโน้มข้อเสนอจากคณาจารย์เพื่อใช้ในการวางแผนพัฒนาหลักสูตรประจำปีอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงกับผลการเรียนรู้ของผู้เรียนในระยะยาว ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะดำเนินการตามตัวบ่งชี้ได้ครบถ้วน โดยมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบเข้าร่วมประชุมในสัดส่วนตามเกณฑ์ แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานเชิงระบบของการติดตามประเด็นที่ได้จากการประชุมว่าถูกนำไปใช้ปรับปรุงหลักสูตรอย่างไร หรือมีผลลัพธ์อย่างไรในการพัฒนาแผนการเรียนรู้ แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดกระบวนการติดตามมติและข้อเสนอจากการประชุมคณะกรรมการหลักสูตรให้มีความชัดเจน เช่น การกำหนดผู้รับผิดชอบ แผนดำเนินการ และรอบรายงานผลความก้าวหน้า รวมถึงควรจัดทำสรุปวิเคราะห์ประเด็นซ้ำซ้อนหรือประเด็นที่ยังไม่ถูกดำเนินการ เพื่อให้การวางแผนพัฒนาหลักสูตรในรอบถัดไปมีความต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
2. มีรายละเอียดของหลักสูตรตามแบบ มคอ.2 ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ หรือมาตรฐานคุณวุฒิสาขา/สาขาวิชา [ถ้ามี] |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการจัดทำรายละเอียดตามแบบ มคอ.2 ได้ครบถ้วน โดยมีการเชื่อมโยงผลลัพธ์การเรียนรู้กับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติอย่างชัดเจน ครอบคลุมทั้ง 5 ด้านหลัก และสอดคล้องกับผลลัพธ์ 3 ด้านตามวิสัยทัศน์มหาวิทยาลัย ได้แก่ Learner Person, Innovative Co-Creator และ Active Citizen แนวทางเสริมคือควรใช้ มคอ.2 เป็นฐานข้อมูลหลักในการออกแบบและปรับปรุงรายวิชาอย่างเป็นระบบ พร้อมจัดทำเอกสารสื่อสารภายในสำหรับคณาจารย์เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันในการวัดผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนในทุกระดับให้สอดคล้องกับผลลัพธ์ของหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะมีการจัดทำ มคอ.2 ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏกลไกติดตามหรือรายงานการทบทวน มคอ.2 ในรอบการประกันคุณภาพที่ผ่านมาว่ามีการใช้ข้อมูลดังกล่าวในการปรับปรุงหลักสูตรหรือไม่ แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดรอบการทบทวนความสอดคล้องของ มคอ.2 กับการจัดการเรียนการสอนจริง และมีระบบรายงานการเปลี่ยนแปลงหรือข้อเสนอเชิงพัฒนาที่เกิดจากการใช้ มคอ.2 อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อยืนยันว่าข้อมูลในเอกสารหลักสูตรถูกนำไปใช้จริงในกระบวนการพัฒนาคุณภาพหลักสูตรและรายวิชา |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
3. มีรายละเอียดของรายวิชา และรายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม [ถ้ามี] ตามแบบ มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างน้อยก่อนการเปิดสอนในแต่ละภาคการศึกษาให้ครบทุกรายวิชา |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการจัดทำ มคอ.3 และ มคอ.4 ครบถ้วนก่อนเปิดสอนในแต่ละภาคการศึกษา โดยมีระบบกำกับดูแลจากผู้รับผิดชอบหลักสูตรและการตรวจสอบความเรียบร้อยจากระดับคณะ ซึ่งช่วยสร้างความพร้อมและความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้กับผลลัพธ์การเรียนรู้ของรายวิชา แนวทางเสริมคือควรพัฒนาแนวทางการทบทวน มคอ.3 และ มคอ.4 ร่วมกันระหว่างอาจารย์ผู้สอนในรายวิชากลุ่มเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติและสร้างมาตรฐานการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกันมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งจัดระบบจัดเก็บและเข้าถึงเอกสารผ่านระบบดิจิทัลให้สะดวกและมีการติดตามสถานะรายวิชาอย่างเป็นระบบ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ในการรายงานผลการดำเนินการขอให้รายงานรายวิชาต่าง ๆ ที่เปิดสอดในปีการศึกษา 2567 ทั้งรายวิชาตาม RQF3 และ RQF4 แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดระบบประเมินคุณภาพของ มคอ.3 และ มคอ.4 เช่น การใช้แบบฟอร์มตรวจสอบเชิงคุณภาพโดยคณะกรรมการหลักสูตร หรือผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก เพื่อให้สามารถพัฒนาการออกแบบการเรียนรู้ในแต่ละรายวิชาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองผลลัพธ์ของหลักสูตรในภาพรวมได้อย่างแท้จริง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
4. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา และรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม [ถ้ามี] ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วัน หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาที่เปิดสอนให้ครบทุกรายวิชา |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ครบถ้วนและภายในระยะเวลาที่กำหนดภายใน 30 วันหลังสิ้นสุดภาคการศึกษา ซึ่งช่วยให้ข้อมูลการประเมินผลผู้เรียนเป็นปัจจุบันและสามารถนำไปใช้ในการปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง แนวทางเสริมคือควรพัฒนาระบบติดตามสถานะการจัดทำและส่งรายงาน มคอ.5 และ มคอ.6 ให้เป็นระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มความสะดวกและลดความล่าช้า รวมทั้งส่งเสริมการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากรายงานเหล่านี้ในระดับหลักสูตร เพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการวางแผนพัฒนาการเรียนการสอนและการประเมินผลผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ในการรายงานขอให้รายงานรายวิชาที่เปิดดำเนินการในปีการศึกษา 2567 ทั้งหมด ที่มี RQF5 และ RQF6 แนวทางปรับปรุงคือควรมีการกำหนดกลไกการประกันคุณภาพของรายงาน มคอ.5 และ มคอ.6 โดยอาจจัดตั้งคณะกรรมการหรือผู้รับผิดชอบเฉพาะเพื่อทบทวนและวิเคราะห์รายงานเหล่านี้เป็นประจำ พร้อมจัดทำรายงานสรุปผลและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
5. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตรตามแบบ มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลังสิ้นสุดปีการศึกษา |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานของหลักสูตรตามแบบ มคอ.7 ครบถ้วนและภายในระยะเวลาที่กำหนดภายใน 60 วันหลังสิ้นสุดปีการศึกษา ซึ่งช่วยให้การประเมินผลภาพรวมของหลักสูตรเป็นไปอย่างทันเวลา และสนับสนุนการวางแผนพัฒนาหลักสูตรในรอบปีถัดไปอย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางเสริมคือควรพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลในรายงาน มคอ.7 ให้สามารถสรุปจุดแข็ง จุดอ่อน และโอกาสในการพัฒนาหลักสูตรได้อย่างชัดเจน รวมถึงเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น นักศึกษา ศิษย์เก่า และสถานประกอบการ ในการสะท้อนผลการดำเนินงานเพื่อให้ข้อมูลมีความรอบด้านและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะดำเนินการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานตามแบบ มคอ.7 ครบถ้วนและตรงเวลา แต่ยังไม่มีระบบหรือหลักฐานของการติดตามและประเมินผลเชิงลึกจากรายงานดังกล่าว เช่น การวิเคราะห์แนวโน้มผลการดำเนินงานในระยะยาว หรือการนำเสนอข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ชัดเจน แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดกระบวนการติดตามผลและวิเคราะห์ข้อมูลจากรายงาน มคอ.7 อย่างสม่ำเสมอ พร้อมจัดประชุมวางแผนพัฒนาหลักสูตรโดยใช้ข้อมูลเชิงวิเคราะห์เหล่านี้ เพื่อให้การปรับปรุงหลักสูตรมีความต่อเนื่องและตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมทางการศึกษาและตลาดแรงงาน |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
6. มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ ที่กำหนดใน มคอ.3 และ มคอ.4 [ถ้ามี] อย่างน้อยร้อยละ 25 ของรายวิชาที่เปิดสอนในแต่ละปีการศึกษา |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ทวนสอบ 14 รายวิชาจาก 21 รายวิชา แนวทางเสริมคือควรขยายการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ให้ครอบคลุมรายวิชามากขึ้น รวมถึงพัฒนาระบบการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ในเชิงลึก เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลกับการปรับปรุงแผนการเรียนการสอนและกิจกรรมเสริมทักษะต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง และจัดให้มีการรายงานผลสู่ผู้บริหารและอาจารย์ผู้สอนเพื่อใช้ในการพัฒนาหลักสูตรอย่างเป็นระบบ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะดำเนินการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในรายวิชาบางส่วนตามเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่ยังขาดหลักฐานของการใช้ข้อมูลดังกล่าวในการวางแผนพัฒนาหลักสูตรอย่างเป็นระบบ เช่น การวิเคราะห์แนวโน้มผลสัมฤทธิ์รายวิชา และการเชื่อมโยงผลสัมฤทธิ์กับการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้และการประเมิน แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดนโยบายขยายการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ให้ครอบคลุมรายวิชาอย่างน้อยร้อยละ 50 และจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ในระดับหลักสูตร พร้อมระบบติดตามผลการปรับปรุง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้เรียนและตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
7. มีการพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน หรือการประเมินผลการเรียนรู้จากผลการประเมินการดำเนินงานที่รายงานใน มคอ.7 ปีที่แล้ว |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการพัฒนาปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน และการประเมินผลการเรียนรู้ โดยอ้างอิงจากข้อมูลและผลการประเมินในรายงาน มคอ.7 ของปีที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงความตั้งใจในการนำข้อมูลประเมินมาใช้เป็นฐานข้อมูลเพื่อปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง แนวทางเสริมคือควรเสริมการมีส่วนร่วมของอาจารย์ทุกคนในการวางแผนพัฒนากระบวนการสอนและประเมินผล เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรอย่างเป็นระบบ รวมถึงควรจัดทำแผนติดตามผลการปรับปรุงในแต่ละรอบปีอย่างชัดเจนเพื่อวัดประสิทธิผลของการปรับเปลี่ยน ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้หลักสูตรจะรายงานการนำผลการประเมินใน มคอ.7 มาใช้ในการปรับปรุง แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนเกี่ยวกับการติดตามและประเมินผลของการปรับปรุงเหล่านั้น เช่น การวัดผลความสำเร็จของกลยุทธ์ใหม่ หรือการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียนหลังการปรับปรุง แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดระบบติดตามและรายงานผลการปรับปรุงที่มีการวัดผลอย่างชัดเจน รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลเปรียบเทียบก่อนและหลังการปรับปรุง เพื่อให้การพัฒนาหลักสูตรมีความต่อเนื่องและสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามข้อมูลและผลสะท้อนจริง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
8. อาจารย์ใหม่ [ถ้ามี] ทุกคน ได้รับการปฐมนิเทศ หรือคำแนะนำด้านการจัดการเรียนการสอน |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
9. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคนได้รับการพัฒนาทางวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการส่งเสริมและสนับสนุนให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคนได้รับการพัฒนาทางวิชาการและวิชาชีพอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง ผ่านการเข้าร่วมอบรม สัมมนา และกิจกรรมพัฒนาศักยภาพที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชา ซึ่งช่วยยกระดับความรู้และทักษะของอาจารย์ให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลงในวงการนิเทศศาสตร์ แนวทางเสริมคือควรจัดทำแผนพัฒนาศักยภาพอาจารย์อย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง พร้อมมีการติดตามและประเมินผลการพัฒนาทุกปี เพื่อให้แน่ใจว่าอาจารย์ได้รับการพัฒนาครบถ้วนทั้งในด้านวิชาการและวิชาชีพอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้หลักสูตรจะรายงานว่าอาจารย์ได้รับการพัฒนาทางวิชาการและวิชาชีพเป็นประจำ แต่ยังไม่มีหลักฐานเชิงระบบเกี่ยวกับการติดตามผลและการประเมินความก้าวหน้าของอาจารย์อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงขาดการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลที่ชัดเจน แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดระบบติดตามและประเมินผลการพัฒนาอาจารย์อย่างเป็นระบบ พร้อมกำหนดเป้าหมายการพัฒนารายบุคคล และจัดทำรายงานผลการพัฒนาเพื่อใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการวางแผนพัฒนาทรัพยากรบุคคลในหลักสูตรอย่างมีประสิทธิภาพ |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
10. จำนวนบุคลากรสนับสนุนการเรียนการสอน [ถ้ามี] ได้รับการพัฒนาวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ต่อปี |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีบุคลากรสนับสนุนการเรียนการสอนและไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ได้รับการพัฒนาวิชาการและวิชาชีพอย่างต่อเนื่อง แสดงถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างศักยภาพของทีมสนับสนุน เพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพในการช่วยเหลือกระบวนการเรียนการสอน แนวทางเสริมคือควรจัดทำแผนพัฒนาบุคลากรสนับสนุนที่ชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการของหลักสูตร พร้อมส่งเสริมการอบรมในทักษะที่ทันสมัย รวมถึงการวัดผลและติดตามความก้าวหน้าของบุคลากรอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องและพัฒนาการที่ยั่งยืน ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรมีบุคลากรสนับสนุนแต่ยังมีสัดส่วนการพัฒนาวิชาการและวิชาชีพต่ำกว่าร้อยละ 50 อาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพการสนับสนุนการเรียนการสอนและความพร้อมของบุคลากรในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและกระบวนการศึกษา แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดมาตรการเพิ่มการเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาวิชาการและวิชาชีพ เช่น การอบรมเชิงปฏิบัติการ การส่งเสริมการเรียนรู้ด้วยตนเอง หรือการมีโปรแกรมพี่เลี้ยง เพื่อยกระดับทักษะและความรู้ของบุคลากรสนับสนุนอย่างครอบคลุมและต่อเนื่อง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
11. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาปีสุดท้าย/บัณฑิตใหม่ที่มีต่อคุณภาพหลักสูตร เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00 |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- รายงาน 4.67 แนวทางเสริมคือควรส่งเสริมการรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพเพิ่มเติม เช่น ข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นเชิงลึกจากนักศึกษาและบัณฑิต เพื่อใช้ในการปรับปรุงหลักสูตรอย่างตรงจุด รวมถึงจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อสร้างความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของนักศึกษาต่อการพัฒนาหลักสูตรอย่างยั่งยืน ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ควรเพิ่มเติมไว้ในหน้า 70 (ส่วนต้นของหมวดที่ 5 ด้วย) แนวทางปรับปรุงคือควรพัฒนาระบบรวบรวมและวิเคราะห์ข้อเสนอแนะเชิงคุณภาพ และจัดทำรายงานสรุปผลการดำเนินการตอบสนองความคิดเห็นเหล่านี้อย่างเป็นระบบ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและประสิทธิผลในการพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
12. ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00 |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ตามตัวบ่งชี้ที่ 2.1 ระบุคะแนนเฉลี่ยที่ 4.72 แนวทางเสริมคือควรขยายการเก็บข้อมูลให้ครอบคลุมกลุ่มผู้ใช้บัณฑิตในหลายภาคส่วน รวมถึงพัฒนาระบบเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อระบุจุดแข็งและจุดที่ควรปรับปรุง รวมถึงนำข้อมูลไปใช้ในการพัฒนาหลักสูตรให้ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานอย่างแท้จริง ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้หลักสูตรจะรายงานผลคะแนนความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่ผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่ยังขาดหลักฐานเชิงคุณภาพเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนหรือปรับปรุงหลักสูตรอย่างเป็นรูปธรรม เช่น รายงานสรุปผลการวิเคราะห์ความคิดเห็นหรือแนวโน้มความต้องการของตลาดแรงงาน แนวทางปรับปรุงคือควรจัดทำระบบวิเคราะห์และติดตามผลข้อมูลผู้ใช้บัณฑิต พร้อมจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้บัณฑิตในภาคธุรกิจหรือภาคอุตสาหกรรมเพื่อสร้างความร่วมมือและพัฒนาหลักสูตรให้มีความเชื่อมโยงกับความต้องการในโลกการทำงานมากยิ่งขึ้น |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
13. ร้อยละ 80 ของรายวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอน สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนด |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการจัดการเรียนการสอนตามแผนที่กำหนดในรายวิชาสูงถึงร้อยละ 80 ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการบริหารจัดการและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพ ตลอดจนความพร้อมของอาจารย์ผู้สอนและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามแผนการเรียนรู้ที่วางไว้ แนวทางเสริมคือการรักษาระดับการดำเนินงานที่มีคุณภาพนี้อย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเพิ่มระบบติดตามสถานะการจัดการเรียนการสอนรายวิชาอย่างเป็นระบบ เช่น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อติดตามความคืบหน้าและรายงานปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้สามารถแก้ไขได้ทันท่วงทีและรักษามาตรฐานการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับแผนหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าหลักสูตรจะสามารถดำเนินการจัดการเรียนการสอนได้ตามแผนในร้อยละ 80 ของรายวิชา แต่ยังไม่มีหลักฐานหรือรายงานเชิงลึกเกี่ยวกับสาเหตุของรายวิชาที่ไม่ได้ดำเนินการตามแผน รวมถึงผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของผู้เรียนในรายวิชานั้น ๆ แนวทางปรับปรุงคือควรกำหนดกระบวนการวิเคราะห์และรายงานสาเหตุของการไม่ดำเนินการตามแผนในรายวิชา พร้อมจัดทำมาตรการแก้ไขและติดตามผลอย่างเป็นระบบ เพื่อยกระดับสัดส่วนการดำเนินงานตามแผนให้สูงขึ้นและลดความเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อคุณภาพผู้เรียน |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
14. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอน รวมทุกรายวิชา เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนนเต็ม 5.00 |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ผลการสำรวจความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอนในทุกวิชามีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าหรือเท่ากับ 3.51 จากคะแนนเต็ม 5.00 แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจในระดับที่ดีในด้านเนื้อหา วิธีการสอน และการตอบสนองของอาจารย์ผู้สอนต่อความต้องการของผู้เรียน แนวทางเสริมคือควรส่งเสริมให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นเชิงลึกและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมผ่านแบบสอบถามหรือกิจกรรมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับปรุงวิธีการสอนและการมีส่วนร่วมในชั้นเรียนได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดมากขึ้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยจะผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ แต่ยังขาดการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับประเด็นที่นักศึกษาพบว่าควรพัฒนา เช่น วิธีการสอนที่อาจยังไม่ตอบโจทย์ผู้เรียนทุกกลุ่ม หรือการใช้สื่อการสอนที่หลากหลายไม่เพียงพอ แนวทางปรับปรุงคือควรจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลการสำรวจความพึงพอใจโดยละเอียด รวมถึงจัดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างนักศึกษากับอาจารย์ผู้สอน เพื่อระบุจุดที่ต้องพัฒนาและร่วมกันหาแนวทางปรับปรุงให้การเรียนการสอนมีคุณภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่าน / ไม่ผ่าน) |
---|---|
15. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอน เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนน เต็ม 5.00 |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- รายงาน 4.58 แนวทางเสริมคือควรพัฒนาการจัดหาและปรับปรุงทรัพยากรสนับสนุนให้ทันสมัยและครอบคลุมมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และสร้างช่องทางให้ผู้เรียนสามารถแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรเหล่านี้ได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสนับสนุนการเรียนการสอน ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- แม้ว่าคะแนนความพึงพอใจโดยรวมจะผ่านเกณฑ์ แต่ยังพบว่าบางทรัพยากรอาจมีข้อจำกัดด้านจำนวนหรือความทันสมัย เช่น อุปกรณ์เทคโนโลยี ห้องเรียนที่ไม่เพียงพอ หรือสื่อการสอนที่ยังไม่ครอบคลุม แนวทางปรับปรุงคือควรมีการสำรวจและประเมินความต้องการทรัพยากรอย่างสม่ำเสมอ พร้อมวางแผนปรับปรุงและจัดหาเพิ่มเติมตามความต้องการของผู้ใช้ รวมถึงพัฒนาระบบการจัดการและบำรุงรักษาทรัพยากรเพื่อรักษาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 5.4 | ||
---|---|---|
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
[1] รวมจำนวนตัวบ่งชี้ในแต่ละปี | 14 | 5.00 |
[2] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านเฉพาะตัวบ่งชี้ที่ 1-5 | 1-5 | |
[3] ร้อยละของตัวบ่งชี้ที่ 1-5 ที่ผ่าน [ถ้าผ่านทั้ง 5 ข้อจะเป็นร้อยละ 100] | 100 | |
[4] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านรวม | 14 | |
[5] ร้อยละของตัวบ่งชี้ทั้งหมดที่ผ่าน | 100.00 |
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
ระบบการดำเนินงานของภาควิชา/คณะ/สถาบัน โดยมีส่วนร่วมของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เพื่อให้มีสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ระบบการดำเนินงานมีความชัดเจน มีความร่วมมือระหว่างอาจารย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการจัดหาและบริหารจัดการสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ตลอดจนมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้เสริมสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่ทันสมัยระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ควรพัฒนากระบวนการประสานงานให้มีความเป็นระบบมากขึ้น เช่น การจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจหรือตัวแทนจากภาควิชาเพื่อติดตามและวางแผนพัฒนาสิ่งสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมกับแต่ละหลักสูตร |
จำนวนสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอน |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีการจัดเตรียมสิ่งสนับสนุนและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอในระดับที่เหมาะสม เช่น ห้องเรียนที่ติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อสาร สื่อการเรียนการสอนดิจิทัล และระบบออนไลน์สำหรับการเรียนการสอนที่ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนยุคใหม่ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ควรมีการสำรวจและประเมินสภาพการใช้งานของสิ่งสนับสนุนเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ พร้อมวางแผนการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อรองรับการเติบโตของจำนวนผู้เรียนและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ดิจิทัล |
กระบวนการปรับปรุงตามผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีการเก็บข้อมูลความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์อย่างต่อเนื่องผ่านแบบสอบถาม ซึ่งนำไปสู่การวางแผนปรับปรุงสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกในหลักสูตรระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- จากผลการประเมิน 4.50 + เสนอแนะ หลักสูตรนำมาปรับปรุงอะไร? - ควรพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูลและติดตามผลการปรับปรุงอย่างเป็นระบบ เพื่อให้แน่ใจว่าการปรับปรุงสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ และเกิดผลกระทบเชิงบวกต่อการเรียนรู้และสภาพแวดล้อมการศึกษาที่ทันสมัย |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ตัวบ่งชี้คุณภาพ | ผลดำเนินการ |
---|---|
กรรมการ | |
1.1 การบริหารจัดการหลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรที่กำหนดโดยสกอ. | ผ่าน |
2.1 คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ.2561 | 4.72 |
2.2 ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี | 4.62 |
3.1 การรับนักศึกษา | 3.00 |
3.2 การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา | 3.00 |
3.3 ผลที่เกิดกับนักศึกษา | 3.00 |
4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์ | 3.00 |
4.2 คุณภาพอาจารย์ | 5.00 |
4.3 ผลที่เกิดกับอาจารย์ | 4.00 |
5.1 สาระของรายวิชาในหลักสูตร | 3.00 |
5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน | 3.00 |
5.3 การประเมินผู้เรียน | 3.00 |
5.4 ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ | 5.00 |
6.1 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ | 3.00 |
ผลการประเมินเฉลี่ยรวม [13 ตัวบ่งชี้] | 3.64 |
องค์ประกอบ | ตัวบ่งชี้ | I | P | O | คะแนนเฉลี่ย | ผลการประเมิน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผ่านการประเมิน | หลักสูตรได้มาตรฐาน | ||||
2 | 2 | - | - | 4.67 | 4.67 | ระดับคุณภาพดีมาก |
3 | 3 | 3.00 | - | - | 3.00 | ระดับคุณภาพปานกลาง |
4 | 3 | 4.00 | - | - | 4.00 | ระดับคุณภาพดี |
5 | 4 | 3.00 | 3.67 | - | 3.50 | ระดับคุณภาพดี |
6 | 1 | - | 3.00 | - | 3.00 | ระดับคุณภาพปานกลาง |
ผลการประเมิน | 3.43 | 3.50 | 4.67 | 3.64 | ระดับคุณภาพดี | |
ระดับคุณภาพ | ระดับคุณภาพดี | ระดับคุณภาพดี | ระดับคุณภาพดีมาก |