วันที่ประเมิน: 10 สิงหาคม 2566, 09:30น.
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
1. จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
|
|
ข้อคิดเห็น
หลักสูตรมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบ 5 คน มีคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2558 โดยทุกคนรับผิดชอบเพียงหลักสูตรเดียว และเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรตลอดระยะปีการศึกษา ได้แก่1. ดร.ชนุตร์ นาคทรานันท์ 2. ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง 3. อ.เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์ 4. ดร.ภัทรมน สุวพันธุ์ 5. อ.ศิวพล ละอองสกุล |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
2. คุณสมบัติอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
|
|
ข้อคิดเห็น
- มีคุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่าตามเกณฑ์ของหลักสูตรฯ และดำรงตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน และมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปี ย้อนหลัง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
[สำหรับประเภทวิชาชีพ/ปฏิบัติการ] อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จำนวน 2 ใน 5 คน ต้องมีประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติการ |
|
ระบุข้อคิดเห็น
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
3. คุณสมบัติอาจารย์ประจำหลักสูตร |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
|
|
ข้อคิดเห็น
- |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
4. คุณสมบัติอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์ประจำ |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
|
|
ข้อคิดเห็น
- มีคุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า หรือดำรงตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์ในสาขาวิชานั้น |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
|
คุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์พิเศษ |
|
ข้อคิดเห็น
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
เกณฑ์การประเมิน | ผลการประเมิน |
---|---|
10. การปรับปรุงหลักสูตรตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ข้อคิดเห็น
1. หลักสูตรได้เปิดดำเนินการเรียนการสอนในครั้งแรกตั้งแต่ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2554 โดยได้มีการปรับปรุงหลักสูตรตามรอบระยะเวลาที่กำหนดดังนี้ครั้งที่ 1 ในปี 2558 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี 2559 ครั้งที่ 2 ในปี 2562 ปรับปรุงเพื่อ ใช้ในปี 2563 2. จะครบกำหนด 5 ปี ในการปรับปรุงหลักสูตร ปีการศึกษา 2567 |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 1.1 |
---|
|
หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด หมายถึง ผู้รับปริญญา ในปีการศึกษา 2564 ประกอบด้วย บัณฑิตที่จบภาคการศึกษา 1/2564 , 2/2564 และ S/2565 [ปีต้องอัพเดตตามปีการศึกษาที่ประเมินย้อนหลัง 1 ปี]
(2) จำนวนบัณฑิตที่รับการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาตาม (ข้อ1)
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
จำนวนบัณฑิตทั้งหมด | 92 | 4.23 |
จำนวนบัณฑิตที่ได้รับการประเมินทั้งหมด | 28 | |
คะแนนเฉลี่ยรวมคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2561 | 4.23 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มีคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ โดยมีลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ 1. ด้านคุณธรรมจริยธรรม 2. ด้านความรู้ 3. ด้านทักษะทางปัญญา 4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ 5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้น หลักสูตรฯ มีคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติจะมุ่งสร้างบัณฑิตที่มีความรู้ ทักษะ และคุณธรรมที่เพียงพอในการเข้าสู่สังคมและการทำงานในสาขาวิชาต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถใช้ความรู้และทักษะในการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
||
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด จะต้องตรงกับตาราง ตัวบ่งชี้ 2.1
(2) จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
จำนวนบัณฑิตทั้งหมด | 92 | 4.17 |
จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจ | 73 | |
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [มีงานทำในองค์กร] | 28 | |
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบอาชีพอิสระ] | 8 | |
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบกิจการส่วนตัว/ธุรกิจครอบครัว] | 19 | |
จำนวนบัณฑิตที่ไม่ได้งานทำ | 11 | |
จำนวนบัณฑิตที่ศึกษาต่อ | 5 | |
จำนวนบัณฑิตที่อุปสมบท | 0 | |
จำนวนบัณฑิตที่เกณฑ์ทหาร | 2 | |
จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มีงานทำก่อนเข้าศึกษา | 0 | |
ร้อยละที่ได้ | 83.33 | |
ผลลัพธ์ที่ได้ | 4.17 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการทำการสำรวจเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การทำงานของบัณฑิตหลังสำเร็จการศึกษาในระยะเวลา 1 ปีพบว่า จากผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตทั้งหมด จำนวน 92 คน มีผู้ที่เข้าร่วมการตอบแบบสอบถามจำนวน 73 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนร้อยละ 79.34 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. บัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษามีจำนวน 55 คน ซึ่งแบ่งเป็นหมวดย่อยดังนี้ 1.2 จำนวนบัณฑิตที่ยังไม่ได้ทำงานมีจำนวน 11 คน และบัณฑิตที่เลือกที่จะศึกษาต่อมีจำนวน 5 คน นอกจากนี้ยังมีบัณฑิตที่มีเกณฑ์ทหารจำนวน 2 คน ดังนั้น เมื่อคำนวณเป็นสัดส่วนของจำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังการสำเร็จการศึกษา จะได้ร้อยละ 83.33 ซึ่งคิดเป็นคะแนนเท่ากับ 4.17 คะแนน ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มคุณค่าให้กับหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต จากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจและวิเคราะห์สถานการณ์การทำงานของบัณฑิตหลังสำเร็จการศึกษาในระยะเวลา 1 ปี ของปีการศึกษา 2565 นั้น สามารถนำแนวทางการปรับปรุงดังต่อไปนี้ เพื่อให้การดำเนินงานของลักสูตรมีความเหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการของผู้สำเร็จการศึกษาได้มากยิ่งขึ้น คือ |
||
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
การรับนักศึกษา:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
เพื่อเสริมและพัฒนาการดำเนินงานในเรื่อง "การรับนักศึกษา" หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถพิจารณาและดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้1. การปรับปรุงเนื้อหาการสมัคร หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถผลิตสื่อที่แสดงเนื้อหาการสมัครเพื่อให้ผู้สมัครเข้าใจและเก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น รวมถึงเพิ่มความชัดเจนในกระบวนการสมัครออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการสมัคร 2. การสร้างช่องทางสื่อสาร หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะเพิ่มช่องทางสื่อสารที่สะดวกและรวดเร็วเพื่อให้ผู้สมัครสามารถสอบถามและขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ หรือช่องโซเชียลมีเดีย 3. การพัฒนาเกณฑ์การคัดเลือก หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการปรับปรุงและเพิ่มความชัดเจนในเกณฑ์การคัดเลือกนักศึกษาเพื่อให้ความเท่าเทียมและเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาในหลักสูตรฯ 4. การพัฒนาแนวทางการสอบสัมภาษณ์ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถพัฒนากระบวนการสัมภาษณ์ให้ง่ายต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และมีความสอดคล้องกับแนวคิดทางการเรียนรู้ของหลักสูตรฯ พร้อมทั้งเสริมด้วยการสัมภาษณ์ด้วยคำถามที่เกี่ยวข้องกับคุณสมับติในการศึกษา 5. การส่งเสริมความคิดริเริ่มและการสอบถาม หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถสร้างพื้นที่หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ผู้สมัครมีโอกาสสอบถามและแสดงความคิดเห็นต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและถูกต้อง 6. การพัฒนาแผนการเรียน หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถเตรียมแผนการเรียนเพิ่มเติมให้กับผู้สมัครที่สอบผ่านการคัดเลือกเพื่อให้ความชัดเจนในการเรียนและมีแนวทางการศึกษาที่ชัดเจน 7. การเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อเสริมสร้างโอกาสในการศึกษา และประสบการณ์ในสาขาวิชาที่สนใจ 8. การประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรทำการประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรและเพิ่มโอกาสการศึกษาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อื่นๆ ดังนั้น ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาเหล่านี้ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและคุณค่าให้กับกระบวนการรับนักศึกษาและผลผลิตบัณฑิตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิผลและเหมาะสมนั้นเอง - หลักสูตรมีการเตรียมความพร้อมในการให้ข้อมูลกับผู้สมัครอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องจุดยืนทางการเมือง ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตร ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
1. สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตรหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างข้อมูลที่ชัดเจนและครอบคลุมเกี่ยวกับหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต รวมถึงแนวคิดทางการเรียนรู้และโอกาสที่เสนอให้นักศึกษาได้รับ 2. การส่งเสริมการสอบถาม หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้ผู้สมัครมีความกล้าแสดงความคิดเห็นหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร 3. ความหลากหลายของแหล่งข้อมูล หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาแนวทางการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ เช่น วิดีโอแนะนำหลักสูตร หรือข้อมูลทางสังคมออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับข้อมูลสำหรับผู้สมัคร 4. การสร้างแรงจูงใจในการสมัคร หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการสมัครเข้าศึกษาอย่างมีความหมาย เช่น เสนอโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาต่อไป 5. การพัฒนาทักษะเสริมที่ตอบโจทย์สากล หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้นักศึกษาได้รับทักษะเสริมที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและสากล เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานในอนาคต 6. การสร้างชุมชนและเครือข่าย หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างนักศึกษา เพื่อสร้างเครือข่ายที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง 7. การพัฒนาแผนการเรียนที่ยืดหยุ่น หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาแนวทางในการเสนอแผนการเรียนที่สอดคล้องกับความสนใจและความสามารถของนักศึกษา 8. การเพิ่มประสิทธิภาพระบบการรับสมัคร หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาระบบการรับสมัครให้มีความรวดเร็วและถูกต้องในการประมวลผลและตอบกลับผู้สมัคร ดังนั้น จากผลการดำเนินงานของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2565 เพื่อการรับนักศึกษานั้น ดีอยู่แล้ว แต่การพัฒนาและปรับปรุงต่อไปจะช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจและความสุขในการเรียนรู้ของนักศึกษามากยิ่งขึ้น โดยให้คำแนะนำและคำติชมให้กับทีมงานที่ทำหน้าที่รับนักศึกษาเพื่อประเมินและปรับปรุงกระบวนการให้เหมาะสมและตอบสนองความต้องการของนักศึกษาและสังคมได้อย่างเต็มที่ |
การเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
จุดเด่น 1. การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน 2. การให้ข้อมูลสำคัญ 3. เป้าหมายและการวัดผลที่ชัดเจน แนวทางเสริม 1. การสร้างความสนใจที่ยิ่งใหญ่ 2. การใช้เทคโนโลยีในการอบรม 3. การสร้างพื้นที่สำหรับการสนทนาและอภิปราย 4. การติดตามและประเมินผล 5. การเสริมสร้างชุมชนและความเชื่อมโยง โดยสรุปแล้ว การเตรียมความพร้อมและการสนับสนุนการเรียนรู้ในช่วงเริ่มต้นของการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างพื้นฐานสำหรับนักศึกษาในการเรียนรู้และการเติบโตในอนาคต ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
1. จำนวนนักศึกษาที่เข้าอบรมก่อนเรียน ในหลักสูตร ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์สำหรับนักศึกษาแรกเข้าที่มีความสนใจใจ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (ดูรายงานการประชุมครั ้งที่3/2565 วาระที่ 1.5) ในวันที่1 สิงหาคม 2565 เวลา 3 ชั่วโมง มีผู้เข้าร่วม 26 คน คิดเป็นร้อยละ 14 ของนักศึกษาใหมควรมีการติดตามประเมินผล การดำเนินงานในลักษณะนี้ คงไม่ถือว่าเป้นการเตรียมความพร้อม เนื่องจากกระบวนการเปิดโอกาสตามความสนใจ ซึ่งไม่ได้เกิดจากการวิเคราะห์ความจำเป็นใด ๆ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมที่เห็นชัดเจนกว่า คือการปฐมนิเทศ เท่านั้น ซึ่งไม่มีการติดตามประเมินผลแต่อย่างใด2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้ความรู้เกี่ยวกับใบโครงสร้างหลักสูตร ตารางสอน ระบบอาจารย์ที่ปรึกษา และการประชาสัมพันธ์อบรมระยะสั้น และควรอธิบายข้อมูลให้เข้าใจง่ายและชัดเจน เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาและการจัดการอบรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสนับสนุนทักษะทางวิชาการและการส่งเสริมการคิดวิเคราะห์แก่นักศึกษา โดยหลักสูตรควรทำการปรับปรุงในส่วนของเนื้อหาที่เน้นการวิเคราะห์และคิดเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาเพิ่มความเข้าใจและความพร้อมในการเรียนรู้ 4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรนำเทคโนโลยีมาจัดการจัดอบรม โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายให้กับผู้เรียน การเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าถึงเนื้อหาอบรมในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี 5. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างชุมชนการเรียนรู้และระบบการสนับสนุนที่เปิดกว้างให้กับนัดศึกษา โดยเน้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการเรียนรู้ร่วมกัน โดยจะช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้แบบการพัฒนาตนเองของนักศึกษาได้ 6. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการอบรมระยะสั้น เพื่อเตรียมความพร้อมทางวิชาการ โดยควรเป็นการอบรมที่เน้นการเรียนรู้และการสร้างความเข้าใจจากพื้นฐาน และควรหลีกเลี่ยงการให้เนื้อหาที่มีความซับซ้อนเกินไปที่อาจทำให้นักศึกษาหลงสับสน 7. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรจัดทำแผนการเรียนรู้ที่ช่วยให้นักศึกษาเข้าใจความสำคัญและประโยชน์ของรัฐศาสตร์ในชีวิตประจำวัน โดยการเชื่อมโยงกับตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในสังคม 8. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการเตรียมความพร้อมทางทักษะเชิงบุคลิกและการส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาและการจัดการกับอารมณ์ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมในการเรียนรู้และการดำเนินชีวิตในสายงานต่าง ๆ จากแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาดังกล่าว หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตจะสามารถเตรียมความพร้อมและสนับสนุนนักศึกษาใหม่เพื่อการเข้าการศึกษาและมีชีวิตหลังจบการศึกษาอย่างมีคุณภาพได้ |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
การควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
จุดเด่น คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบอาจารย์ที่ปรึกษาทั่วไป โดยมีการเน้นให้คำปรึกษาใกล้ชิดกับนักศึกษา โดยอนุญาตให้นักศึกษาเข้าปรึกษตามเวลาที่อาจารย์กำหนดหรือนัดหมาย ซึ่งนับว่าเป็นการช่วยนักศึกษาโดยให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการเรียนและชีวิตมหาวิทยาลัย แนวทางเสริม คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะสร้างระบบการให้คำปรึกษาโดยอาจารย์ต้องมีความรู้ที่เพียงพอในด้านที่นักศึกษาต้องการคำปรึกษา เช่น การวางแผนการศึกษา การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย และการแก้ไขปัญหา ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงเพื่อเสริมคุณภาพของระบบการควบคุมและการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรีของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละท่านมีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความสามารถในการให้คำปรึกษาที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์สำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการหลากหลาย |
การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้เสนอแนวคิดที่น่าสนใจและทันสมัยในการพัฒนาศักยภาพและทักษะการเรียนรู้ของนักศึกษาในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นทักษะด้านภาษาอังกฤษและทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการให้นักศึกษาจากหลายหลักสูตรมาเรียนและพบปะร่วมกันในรายวิชาเฉพาะ เช่น PEG 401 ซึ่งเป็นการช่วยสร้างโอกาสให้นักศึกษาได้พบปะและทำงานร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่มีแบคกราวน์และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เป็นการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาเข้าสู่สภาวะที่ต้องทำงานกับคนต่างชาติในสภาวะการทำงานจริง 2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Google Classroom เป็นตัวกลางในการส่งงานและให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการเรียน ช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้เองของนักศึกษา และช่วยเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญในการประกอบอาชีพในอนาคต 3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการเปิดโอกาสให้นักศึกษาสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างกันจากการนำเสนอด้วยการพูดหน้าชั้น เช่น คลิปวิดีโอ งานศิลปะ แอปพลิเคชัน เป็นวิธีที่สร้างความน่าสนใจและกระตุ้นให้นักศึกษามีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ แนวทางเสริม คือ 1. นอกจากภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีดิจิทัล หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาในการพัฒนาทักษะอื่นๆ ที่สำคัญต่อการทำงานในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม เป็นต้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หากในปีการศึกษา 2566 ได้วางเป้าหมายและแผนปฏิบัติการการพัฒนาทักษะศตวรรษ 21 ให้กับนักศึกษา ขอให้มีการติดตามประเมินผลการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ และ ดิจิทัลเทคโนโลยี ของนักศึกษา และรายงานผลการดำเนินงานให้ชัดเจน- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการให้คะแนนและประเมินผลงานของนักศึกษาในรูปแบบของไฟล์ PDF ผ่าน Google Classroom ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่ดีในการทำให้นักศึกษาได้รับความเข้าใจผลงานของตนเอง อย่างไรก็ตาม หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิควรพิจารณาวิธีการให้คะแนนและการประเมินที่ครอบคลุมและแสดงความเป็นทีมอย่างเท่าเทียมกัน และไม่สร้างแรงกดดันในการแข่งขัน - นอกจากทักษะด้านภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีดิจิทัล หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา และการทำงานเป็นทีม เพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาสังคมและองค์กรในศตวรรษที่ 21 - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากนักศึกษาและอาจารย์เกี่ยวกับแผนการพัฒนาที่ได้รับการปฏิบัติใช้จริง เพื่อใช้เป็นข้อมูลฐานในการปรับปรุงแผนการดำเนินงานในอนาคต - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเน้นการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาทักษะเตรียมความพร้อมในการทำงานร่วมกับคนต่างชาติ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาระบบการสนับสนุนนักศึกษาที่เน้นการส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนในการพัฒนาทักษะเหล่านี้ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างโอกาสในการแบ่งปันความรู้และทักษะระหว่างสาขาวิชาและสถาบันที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายในการเตรียมความพร้อมในสายงานต่างๆ ข้อสังเกต - หลักสูตรมีแนวทางในการพัฒนาศักยภาพและทักษะการเรียนให้กับนักศึกษาอย่างชัดเจนใน 2 ประเด็น คือ ภาษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้ในด้านพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษได้ดำเนินการผ่านรายวิชา PEG401 ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หากมีผลประเมินจากนักศึกษาจะช่วยสะท้อนผลจากการดำเนินการชัดเจนมากขึ้น - หลายโครงการถึงแม้จะจัดในระดับคณะ แต่เป้าหมาย/ผู้เข้าร่วมงาน คือ อาจารย์และนักศึกษาในหลักสูตร ซึ่งน่าจะสามารถอ้างอิงในส่วนนี้เป็นการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาของสาขาได้เช่นกัน (โครงการรัฐศาสตร์เสวนา, โครงการรัฐศาสตร์รังสิตตำบลหลักหก, การจัดแสดงวิสัยทัศน์ เทียบวิสัยทัศน์ งัดนโยบาย ซึ่งจัดโดยนักศึกษา) |
การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- แนวทางการพัฒนาส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลการวิจัย ที่รายงานไว้ เป็นแนวทางที่ดีและสอดคลัองกับศาสตร์สาขาวิชา ขอให้ดำเนินการต่อไปให้สำเร็จ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ในปีการศึกษาต่อไป ควรจัดทำกำหนดกิจกรรมและโครงการพัฒนาส่งเสริมนักศึกษา ไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อขออนุมัติงบประมาณจากมหาวิทยาลัย ในแนวทางการส่งเสริมนักศึกษาด้านการวิจัย และการคัดเลือกผลงานที่ดีเพื่อเผยแพร่ นั้นเป็นแนวทางที่ดี เห็นสมควรดำเนินการต่อไป- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาช่องทางที่สื่อสารและแสดงผลงานวิจัยให้เหมาะสม เช่น เว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เปิดให้นักศึกษาและผู้สนใจได้รับรู้ผลงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกฝนทักษะการนำเสนองานและการสื่อสาร - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจัดกิจกรรมหรือเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับองค์กรหรือสถาบันที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นักศึกษามีโอกาสเข้าร่วมงานวิจัยและกิจกรรมสร้างสรรค์นอกที่ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นและสนับสนุนให้นักศึกษารู้สึกกระตือรือร้นในการทำงานวิจัย เช่น การเปิดโอกาสให้เข้าร่วมอบรมหรือกิจกรรมสร้างสรรค์ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้นักศึกษาสามารถทำงานวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจัดบรรยายหรือสัมมนาเกี่ยวกับการวิจัย การสร้างความเข้าใจในกระบวนการวิจัย และการปรับใช้ทักษะเหล่านี้ในงานวิจัยจริง - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีกระบวนการประเมินและปรับปรุงโครงการเผยแพร่งานวิชาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น จากข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง ของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตขั้งต้น จะช่วยหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักศึกษาในการทำงานวิจัย งานสร้างสรรค์ และนวัตกรรม และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับนักศึกษาในการนำความรู้และสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีประสิทธิภาพ |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เอกสารหลักฐาน ไม่ตรงกับตัวบ่งชี้ ขอให้จัดเอกสารเพิ่มเติมต่อไปนี้1. แผนการพัฒนาส่งเสริมนักศึกษา ปีการศึกษา 2565 2. รายงานการประชุมที่มีวาระการรายงานผลการดำเนินงาน หรือ PDCA โครงการหรือกิจกรรมการพัฒนาส่งเสริมนักศึกษา |
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | |
---|---|
การคงอยู่ |
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2563
ร้อยละ 80.60
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2564
ร้อยละ 76.20
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 68.50 |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นในผลการดำเนินงานเรื่อง "อัตราการคงอยู่ของนักศึกษา" คือ พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักศึกษา และการรับรู้ถึงความสำคัญของการศึกษาที่มีคุณภาพและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องนี้ส่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้รับผิดชอบในหลักสูตรรับใช้การพัฒนาความรู้และทักษะที่เหมาะสมสู่นักศึกษามากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้วิธีการสอนที่ทันสมัยและเหมาะสมกับบรรยากาศการเรียนการสอนปัจจุบัน แนวทางเสริมที่สามารถนำไปพัฒนา คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาถึงการสอนเนื้อหาทางวิชาการในรูปแบบที่น่าสนใจและท้าทาย เพื่อกระตุ้นความสนใจและกระตุ้นให้นักศึกษามีการเรียนรู้ที่เข้มข้นมากขึ้น การนำเข้าเครื่องมือเทคโนโลยีและแหล่งข้อมูลออนไลน์ในกระบวนการสอนก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ได้ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ขอให้รายงานเพิ่ม (ถ้ามี) การลดลงของอัตราการคงอยู่ คาดว่าเกิดจากสาเหตใด- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการตระหนักถึงสาเหตุที่นักศึกษาพ้นสภาพและพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เช่น การให้คำปรึกษาและสนับสนุนทางทฤษฎีและทางปฏิบัติให้แก่นักศึกษา โดยเน้นการเรียนรู้เชิงบวกเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาการนำเข้าเครื่องมือและเทคโนโลยีในกระบวนการสอน เพื่อทำให้การเรียนรู้มีความน่าสนใจและเป็นไปในทิศทางที่นักศึกษาสามารถนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาจริงได้ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างระบบการติดตามและประเมินผลเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการพัฒนาของนักศึกษาและการดำเนินงานของหลักสูตร นอกจากนี้ยังสามารถรวบรวมข้อเสนอแนะจากนักศึกษาเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนได้อีกด้วย - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการวิเคราะห์และปรับปรุงหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษาและสังคมในปัจจุบัน รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนและเนื้อหาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการเรียนรู้ของนักศึกษาในยุคปัจจุบัน - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการสร้างกิจกรรมและโครงการที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาการเรียนรู้ในหลักสูตร และสร้างแรงจูงใจให้แก่นักศึกษาในการเรียนรู้ด้วยเทคนิคที่หลากหลาย เช่น การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในการสอนและการเรียนรู้ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีวิธีการเสริมสร้างความรู้และทักษะทางการสอนของอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้มีความเข้มแข็งทางวิชาการและสามารถทำการสอนได้อย่างน่าสนใจและเต็มไปด้วยความเข้าใจ |
|
การสำเร็จการศึกษา |
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2563
ร้อยละ 49.60
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2564
ร้อยละ 63.40
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 51.10 |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- รายงานเพิ่ม (ถ้ามี) สาเหตุการลดลงของอัตราสำเร็จการศึกษา |
|
ความพึงพอใจและผลการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา |
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2563 ร้อยละ 4.35
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2564 ร้อยละ 4.77
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 4.87
|
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีขั้นตอนในการบริหารจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษาอย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆ เช่น การยื่นข้อร้องเรียน การพิจารณาข้อร้องเรียน การรายงานผลการพิจารณาและการดำเนินการแก้ไขปัญหา ทำให้นักศึกษารู้เกี่ยวกับกระบวนการและสามารถติดตามผลได้อย่างชัดเจน แนวทางเสริมที่สามารถนำไปพัฒนา คือ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถส่งเสริมให้นักศึกษามีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการจัดการข้อร้องเรียน รวมถึงสิทธิและหน้าที่ของผู้รับผิดชอบในการดำเนินการแก้ไขปัญหา ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงในผลการดำเนินงานเรื่อง "ความพึงพอใจและผลการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา" ของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถสรุปได้ดังนี้ |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
ระบบการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
จุดเด่น1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมุ่งเน้นความเข้าใจคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาที่ตรงหรือเกี่ยวข้องกับหลักสูตรสาขารัฐศาสตร์ เช่น การมีความรู้ความสามารถในด้านรัฐศาสตร์และผลงานทางวิชาการที่มีความเกี่ยวข้อง 2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบนี้มีการตั้งเกณฑ์ในการพิจารณาตามผลงานทางวิชาการด้านรัฐศาสตร์ โดยอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต้องมีผลงานอย่างน้อย 1 ชิ้นในรอบ 5 ปี ซึ่งเป็นเครื่องมือในการประเมินความเชี่ยวชาญและคุณภาพของอาจารย์ แนวทางเสริม 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นกลางสำหรับการพัฒนาอาจารย์ในด้านต่างๆ เช่น การให้โอกาสเข้าร่วมสัมมนา การเสริมสร้างทักษะการสอนและการวิจัย 2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ที่เข้าร่วมสอน เพื่อปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของอาจารย์และหลักสูตร 3. หากมีอาจารย์ที่มีความสนใจและความคิดสร้างสรรค์ในด้านรัฐศาสตร์ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการสนับสนุนในการผลิตผลงานทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง เช่น การสนับสนุนในการเขียนบทความวิชาการ การนำเสนองานที่ประชุมวิชาการ และการสร้างสรรค์เนื้อหาการเรียนรู้ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ในปีต่อไปให้รายงานระบบและกลไกการรับและแต่งตั้งอาจารย์ประจำ เพิ่มเติมจากการกำหนดคุณสมบัติของอาจารย์ประจำ- การบริหารและพัฒนาอาจารย์เป็นเรื่องสำคัญในการให้การศึกษาของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมและวิทยาการในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงเรื่องการเลือกและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร โดยหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต 1) ควรมีการคัดเลือกอย่างเข้มงวดตามคุณสมบัติที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถและคุณภาพเพียงพอในการพัฒนาและจัดการหลักสูตรอย่างมีประสิทธิผล 2) หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการพัฒนาทางวิชาการ การให้โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาความสามารถในทางต่างๆ เช่น การเข้าร่วมสัมมนา การสนับสนุนงานวิจัย และการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์ 3) หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการให้อาจารย์สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในวิทยาการและสังคมได้อย่างเหมาะสม โดยควรมีการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถให้ตรงกับเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ โดยการให้โอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองเพื่อให้มีความรู้ความสามารถที่เข้าข้างกับแนวความคิดใหม่ๆ และการเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาทางวิชาการ 4) อาจารย์ในหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรได้รับการสนับสนุนในการเผยแพร่ผลงานวิชาการผ่านการเขียนบทความในวารสารทางวิชาการ การนำเสนองานที่ประชุมวิชาการ และการสร้างพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความรู้ ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักศึกษาและสังคมวิชาการในความสามารถของอาจารย์ในการสอนและวิจัย |
ระบบการบริหารอาจารย์:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบการจัดแบ่งภาระงานสอนของหลักสูตรที่เข้ากับระเบียบของมหาวิทยาลัยรังสิตทำให้การสอนและงานบริหารรวมถึงงานวิจัยสามารถแบ่งแยกอย่างมีความเหมาะสมตามตำแหน่งและภาระงานของอาจารย์แต่ละท่านได้อย่างถูกต้อง2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมี ระบบการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีกำหนดและเงื่อนไขเฉพาะทำให้นักศึกษาสามารถเข้าพบและขอคำปรึกษาจากอาจารย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการกำหนดเกณฑ์ในการมีผลงานวิชาการที่ต้องประสบความสำเร็จเพื่อการแต่งตั้งและเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการชักนำให้อาจารย์มีแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะและการทำงานวิชาการ รวมถึงการร่วมมือในกิจกรรมคณะที่เพิ่มคุณค่าให้กับการบริหารงานทั้งหลาย แนวทางเสริม 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์มีการสร้างผลงานวิชาการในระดับต่าง ๆ ทั้งการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการระดับนานาชาติและการเขียนบทความทางวิชาการ เพื่อสร้างชื่อเสียงในวงการวิชาการ 2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนานโยบายการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้มีความยืดหยุ่นและเป็นไปตามความต้องการของนักศึกษา โดยให้คำปรึกษาออนไลน์หรือนอกเวลา office hours ในกรณีที่เหมาะสม 3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์ร่วมมือในกิจกรรมคณะอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่เพื่อสร้างคุณค่าให้กับคณะและนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังเพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ร่วมมือและผูกพันกัน - จุดเด่น : หลักสูตรบริหารและพัฒนาอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จนมีคุณวุฒิที่สูงขึ้น สำเร็จปริญญาเอก 2 ท่าน รวมทั้งได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยจากสถาบันวิจัย ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาตรงนี้เพื่อให้สามารถจัดกำหนดภาระงานสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละอาจารย์และหลักสูตร อาจคำนึงถึงการให้ความยืดหยุ่นในการรับภาระงานสอนที่มากขึ้นในกรณีที่มีผลงานวิชาการที่ดี- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนานโยบายที่สนับสนุนให้อาจารย์สามารถเผยแพร่ผลงานวิชาการอย่างกว้างขวางทั้งในระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงการส่งเสริมการเข้าร่วมงานประชุมวิชาการระดับสากล แนวทางปรับปรุง - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการประเมินและปรับปรุงระบบการบริหารอาจารย์ในแต่ละปี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาแนวทางในการสร้างบรรยากาศและแรงจูงใจให้กับอาจารย์ในการร่วมมือและเข้าร่วมกิจกรรมคณะอย่างสม่ำเสมอ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้โอกาสและสนับสนุนให้แก่อาจารย์ในการพัฒนาทักษะและความรู้เพื่อเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนให้แก่อาจารย์ในการทำงานวิจัยและสร้างผลงานทางวิชาการอย่างมีคุณภาพ |
ระบบการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ให้มีคุณภาพทั้งด้านความรู้ ความสามารถในเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ สามารถก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่ มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาศาสตร์ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น คือ- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีข้อเสนอให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่อายุยังไม่เกิน 50 ปีได้ลาศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก จะช่วยเพิ่มความรู้และความเชี่ยวชาญของบุคลากรในเนื้อหาวิชาที่เป็นความรับผิดชอบของตน ทำให้มีความเข้าใจลึกซึ้งและสามารถพัฒนาเนื้อหาการสอนอย่างมีคุณภาพได้ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการอบรมเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้กับบุคลากรทุกท่านจะเสริมสร้างทักษะและความรู้ในการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ การแบ่งปันประสบการณ์และข้อมูลในการสอนระหว่างบุคลากรในคณะจะช่วยเพิ่มมุมมองและวิธีการที่สามารถนำเข้าสู่กระบวนการการสอนได้ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีแผนการที่กำหนดให้ผู้รับผิดชอบหลักที่อายุเกิน 50 ปีเน้นไปที่การผลิตงานวิชาการ ช่วยสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรเพิ่มความสามารถในการสร้างผลงานวิชาการที่มีคุณภาพและสร้างแรงจูงใจในการนำเสนอผลงานทางวิชาการในที่ประชุมคณะ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีแผนการที่เน้นไปที่ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีอายุไม่เกิน 50 ปีให้ผลิตงานวิชาการเพื่อเตรียมตัวในการขอรับตำแหน่งทางวิชาการเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเสริมความเชี่ยวชาญและมีความพร้อมในการรับผิดชอบตำแหน่งด้านวิชาการ แนวทางเสริม - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีอายุเกิน 50 ปีในการดำเนินงานวิจัยและผลิตผลงานวิชาการที่มีคุณภาพ เพื่อเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับคณะและสถาบัน - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้โอกาสให้บุคลากรทุกท่านมีการฝึกฝนและพัฒนาทักษะการสื่อสารและการสอน เพื่อให้สามารถสื่อสารและสอนผู้เรียนให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรการสนับสนุนในการขอตำแหน่งทางวิชาการ: ควรมีการสนับสนุนและแนะนำในกระบวนการขอรับตำแหน่งทางวิชาการ พร้อมกับการจัดอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับผิดชอบตำแหน่งด้านวิชาการ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีควรสร้างการเสริมสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับบุคลากร โดยให้โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
1. ปัญหาที่ผู้รับผิดชอบการประกันคุณภาพการศึกษา ได้รายงานให้ทราบเกี่ยวกับการขาดความรับผิดชอบและให้ความสำคัญต่อการประกันคุณภาพการศึกษา ส่งผลอย่างมากต่อผลงานในภาพรวม เห็นสมควรนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการหลักสูตร หรือคณะกรรมการประจำคณะ เพื่อแก้ไขปัญหา เพราะมีผลต่อความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพการศึกษาของหลักสูตร หากปรากฏแ่ก่สายตาของผู้ประเมินภายนอก ไม่น่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมของการบริหารคุณภาพของคณะวิชา และส่งผลต่อมหาวิทยาลัยได้ 2. สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาในปี 2566 ที่จะปรับระบบการติดตามการปฏิบัติงานของอาจารย์ประจำหลักสูตร อาจจะไม่ได้ผล ควรปรึกษาคณะกรรมการบริหารคณะหรือคณบดี 3. ควรมีแผนพัฒนาบุคลากร ประจำปี และการติดตามผลลัพธ์ 4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนในการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกของผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่อายุยังไม่เกิน 50 ปีให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญและประโยชน์ของการศึกษาต่อในการพัฒนาความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ นอกจากนี้ควรจัดกิจกรรมและอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อให้กับบุคลากรทุกท่าน 5. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตจำเป็นต้องมีการเสริมสร้างทักษะการขอตำแหน่งทางวิชาการ เพื่อการพัฒนาทักษะและความพร้อมในการขอตำแหน่งทางวิชาการอย่างเข้มข้น โดยควรจัดการอบรมและสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่อายุไม่เกิน 50 ปีมีความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและข้อกำหนดในการขอตำแหน่งทางวิชาการ และสร้างเอกสารเกี่ยวกับผลงานและความเหมาะสมในการขอตำแหน่ง แนวทางปรับปรุง 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างสภาวิจัยและสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีอายุเกิน 50 ปีมีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวิชาชีพ ให้มีการเรียนรู้เรื่องการวิจัยและการเขียนเค้าโครงการวิจัยเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่กระบวนการขอรับทุนวิจัย 2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเพิ่มการแนะนำและการอบรมในการขอตำแหน่งทางวิชาการสำหรับผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีอายุไม่เกิน 50 ปี เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนและข้อกำหนด รวมถึงการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องในการขอตำแหน่ง 3. หลักสูตรสามารถเพิ่มเติมการเข้าร่วมเป็นวิทยากรของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในงานเสวนา/กิจกรรมต่างๆ (รังสิตเสวนา) ซึ่งแสดงถึงการมีความรู้ความสามารถที่ตรงกับศาสตร์ สามารถนำมาต่อยอดในการจัดการเรียนการสอน การวิจัยและพัฒนาในสาขาวิชาที่รับผิดชอบได้ |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
- แผนพัฒนาบุคลากร - การติดตามการพัฒนาบุคลากร - การมอบหมายภาระงานต่างๆ ให้กับผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้ง 5 คน - รายงานผลการปฏิบัติ ปี 2565 |
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด | 5 | 5.00 |
[2] จำนวนอาจารย์ที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก | 3 | |
[3] ร้อยละที่ได้ [2] X 100 / [1] | 60.00 | |
[4] ผลลัพธ์ที่ได้ [3] X 5 / 20 | 5.00 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกเป็นจำนวนถึงร้อยละ 60 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด | 5 | 1.67 |
[2] ไม่มีตำแหน่งทางวิชาการ [อาจารย์] | 4 | |
[3] ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ | 1 | |
[4] ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ | 0 | |
[5] ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ | 0 | |
[6] ดำรงตำแหน่งทางวิชาการทั้งหมด [3] + [4] + [5] | 1 | |
[7] ร้อยละที่ได้ [6] X 100 / [1] | 20.00 | |
[8] ผลลัพธ์ที่ได้ [7] x 5 / 60 | 1.67 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- การเพิ่มจำนวนอาจารย์ ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ - ข้อสังเกต หลักสูตรมีแผนพัฒนาอาจารย์อย่างต่อเนื่อง และอาจารย์ประจำหลักสูตรเริ่มมีผลงานวิจัย คาดว่าในอีกไม่นาน อาจารย์ประจำหลักสูตรจะสามารถยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการได้จำนวนมากขึ้น |
จำนวนผลงานทางวิชาการตามค่าถ่วงน้ำหนัก | |||||
---|---|---|---|---|---|
ค่าถ่วงน้ำหนัก | 0.20 | 0.40 | 0.60 | 0.80 | 1.00 |
จำนวนผลงาน (ชิ้น) | 0 | 2 | 1 | 0 | 0 |
จำนวนผลงานสร้างสรรค์ตามค่าถ่วงน้ำหนัก | |||||
---|---|---|---|---|---|
ค่าถ่วงน้ำหนัก | 0.20 | 0.40 | 0.60 | 0.80 | 1.00 |
จำนวนผลงาน (ชิ้น) | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 |
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
---|---|---|
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
[1] ผลรวมถ่วงน้ำหนักที่ได้ | 1.40 | 5.00 |
[2] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด | 5 | |
[3] ร้อยละที่ได้ [1] X 100 / [2] | 28.00 | |
[4] ผลลัพธ์ที่ได้ [3] X 5 / 20 | 5.00 | |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีการดำเนินงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง และผลิตผลงานวิชาการที่มีคุณภาพ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- กำกับติดตามการตีพิมพ์เผยแพร่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร โดยกำหนดเป้าหมายให้มีการตีพิมพ์ในแต่ละปี อย่างน้อย 1 เรื่อง - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์มีการสร้างผลงานวิชาการในระดับต่างๆ ทั้งการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการระดับนานาชาติและการเขียนบทความทางวิชาการ เพื่อสร้างชื่อเสียงในวงการวิชาการด้านรัฐศาสตร์ |
รายการหลักฐาน ตัวบ่งชี้ 4.2 คุณภาพอาจารย์ |
---|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
- |
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | |
---|---|
การคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร |
|
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ในปีการศึกษา 2564 และ 2565 นั้น อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรคงอยู่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่ออาจารย์ ทำให้ความเสถียรและความต่อเนื่องในการบริหารจัดการหลักสูตรเพิ่มขึ้น เนื่องจากอาจารย์ผู้รับผิดชอบเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในสาขาวิชาเฉพาะด้านและสามารถให้คำปรึกษาและแนะนำทั้งในด้านวิชาการและการพัฒนาบุคลิกภาพของนักศึกษาได้อย่างเหมาะสม
แนวทางเสริมที่สามารถนำเข้าไปพัฒนาต่อยอดในเรื่อง "การคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร" คือการเสริมสร้างระบบการฝึกอบรมและการพัฒนาทักษะของอาจารย์ที่มีบทบาทในการรับผิดชอบหลักสูตร นอกจากความเชี่ยวชาญในด้านวิชาการแล้ว อาจารย์ยังควรได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือการสอนที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถนำเสนอเนื้อหาการเรียนรู้อย่างน่าสนใจและมีประสิทธิภาพสูงสุดในสถานการณ์การเรียนการสอนออนไลน์หรือเรียนรู้ผสมผสาน นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนานโยบายและกฎระเบียบที่สนับสนุนการดำเนินการของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาวะแวดล้อมหรือในด้านการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้อาจารย์สามารถปรับตัวและพัฒนาคุณภาพการสอนอย่างต่อเนื่องได้ในทุกสถานการณ์ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
|
ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตร |
|
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นจากผลการดำเนินงานเรื่อง "ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตร" ในปีการศึกษา 2564 คือการสำรวจและประเมินความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในด้านต่าง ๆ ซึ่งสามารถแสดงถึงแง่ดีของการบริหารจัดการหลักสูตรดังนี้ 1. ด้านการรับและแต่งตั้งอาจารย์ประจำหลักสูตร: อาจารย์มีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยสูงถึง 4.85 คะแนน คะแนนที่สูงนี้แสดงถึงความพึงพอใจที่สูงของอาจารย์ในเรื่องของการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร โดยมีเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาและงานวิชาการของอาจารย์ที่จะรับผิดชอบหลักสูตร แนวทางเสริมที่สามารถนำเข้าไปพัฒนาต่อยอดในเรื่อง "ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร" คือ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงจากผลการดำเนินงานเรื่อง "ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต" ในปีการศึกษา 2564 สามารถสรุปอคิดเห็น ได้ดังนี้ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีกระบวนการที่โปร่งใสและมีเกณฑ์ที่ชัดเจนในการคัดเลือกและแต่งตั้งอาจารย์ประจำหลักสูตร โดยให้ความสำคัญกับคุณสมบัติวุฒิการศึกษาและงานวิชาการ |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
การออกแบบหลักสูตร และสาระรายวิชาในหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน มีหลักสูตรหรือรายวิชาที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
จุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
ข้อคิดเห็นที่ควรพัฒนา คือ แนวทางปรับปรุง คือ |
การปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยตามความก้าวหน้าในศาสตร์สาขานั้นๆ และเชื่อมโยงกับการนำไปใช้ได้จริง |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น คือ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง คือ |
มีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้ในรูปแบบที่ผู้เรียนสามารถเลือกตามความสนใจและเป้าหมายส่วนตัว- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างสภาวะที่สนับสนุนให้นักศึกษามีความกระตือรือร้นในการคิดค้นและสร้างสรรค์ความรู้และแนวทางใหม่ - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรทำการสร้างโอกาสในการร่วมมือกับองค์กรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะของผู้เรียนในสาขาวิชา |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ขอมคอ. 3 ของรายวิชาที่เปิดสอนในปีการศึกษา 2565 และทำจุดสังเกตการปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนการสอนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของศาสตร์ |
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | ||
---|---|---|
การกำหนดผู้สอน | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้สร้างระบบและกลไกในการกำหนดผู้สอนและการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยการประชุมคณะกรรมการบริหารหลักสูตรเพื่อพิจารณาและคัดเลือกผู้สอนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสมกับวิชานั้นๆ แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างระบบหรือช่องทางสื่อสารที่สะดวกให้นักศึกษาสามารถติดต่ออาจารย์เพื่อปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลได้ง่ายขึ้น ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงจากผลการดำเนินงานเรื่อง "การกำหนดผู้สอน" ของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถสรุปได้ดังนี้ |
||
การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และการจัดการเรียนการสอน | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการกำกับและติดตามกระบวนการจัดทำแผนการเรียนรู้อย่างเข้มงวด โดยมีการกำหนดให้อาจารย์ผู้สอนจัดทำ มคอ.3 (แผนการเรียนรู้) และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบออนไลน์ทันตามกำหนดการ นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนผ่านทาง E-mail เพื่อช่วยในการเตือนความสำคัญและการเร่งรีบในกรณีที่มีความล่าช้าในการอัพโหลด ทำให้กระบวนการเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่นและเชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรควรพิจารณาการใช้เทคโนโลยีในการติดตามและจัดการข้อมูลเกี่ยวกับแผนการเรียนรู้และการเรียนการสอน ซึ่งอาจช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและความตรงเวลาในกระบวนการดังกล่าว ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
||
การจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีที่มีการบูรณาการกับการวิจัย การบริการวิชาการทางสังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. หลักสูตรมุ่งสร้างความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนรู้และงานวิจัย โดยให้นักศึกษาที่ลงทะเบียนในรายวิชา POL499 (สหกิจศึกษา) และ POL 498 (การศึกษาค้นคว้าอิสระ) เขียนรายงานผ่านรูปแบบของการวิจัย ทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ในการทำงานวิจัยและพัฒนาทักษะทางวิชาการอย่างเข้มแข็ง แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. หลักสูตรควรส่งเสริมให้นักศึกษามีความกระตือรือร้นในการทำงานวิจัย โดยจัดกิจกรรมสัมมนาหรืออบรมเพื่อเสริมสร้างทักษะวิจัยและเข้าใจกระบวนการวิจัยในระดับปริญญาตรี ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
จุดที่ควรพัฒนาของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ แนวทางปรับปรุงของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. หลักสูตรควรส่งเสริมให้นักศึกษามีโอกาสทำโครงการวิจัยในรายวิชาต่าง ๆ ที่มีการบูรณาการกับการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในงานวิจัย |
||
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง | ||
---|---|---|
การประเมินผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร ตลอดจนมาตรฐานวิชาชีพ (ถ้ามี) | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
จุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้แบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 5 ด้านที่สอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้แต่ละด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร โดยด้านดังกล่าวคือคุณธรรม จริยธรรม (AC), ความรู้ (IC), ทักษะทางปัญญา (LP), ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (AC), และทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (LP) ซึ่งช่วยให้นักศึกษาพัฒนาทักษะและความรู้ที่เข้ากับศาสตร์รัฐศาสตร์และสังคมที่เป็นมนุษย์ในแต่ละด้าน แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 1. เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของ active citizen ให้นักศึกษา หลักสูตรควรให้การเรียนรู้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ผู้สอนควรเน้นให้นักศึกษาเข้าใจหลักเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกันที่ยุติธรรมและความจำเป็นในการรักษาหลักเกณฑ์ดังกล่าว นอกจากนี้ นักศึกษาควรได้รับโอกาสเสนอหลักเกณฑ์ใหม่ที่เห็นว่าถูกต้องโดยใช้หลักเหตุผล. ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงจากผลการดำเนินงานในเรื่อง "การประเมินผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561" เพื่อครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนในด้าน Learner Person (LP), Innovative Co-Creator (IC), และ Active Citizen (AC) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร มีดังนี้ |
||
การตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการทวนสอบโดยใช้การสอบวิจัย ซึ่งครอบคลุมความรู้ของนักศึกษาในหลากหลายวิชาระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หากมีรายงานถึงผลจากการสอบทวนสอบโดยใช้การวิจัยจะชัดเจนมากขึ้น เช่น จำนวนนักศึกษาที่ผ่านการทวนสอบในระดับดีมาก , ดี เป็นต้น และมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมาอย่างไร |
||
การกำกับการประเมินการจัดการเรียนการสอน และประเมินหลักสูตร (มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7) | ||
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
||
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
- ขอหลักฐาน เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ของตัวบ่งชี้ 5.3 ทั้งหมด |
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อยร้อยละ 80 มีส่วนร่วมในการประชุมเพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนินงานหลักสูตร |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นในผลการดำเนินงานของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต นั้น มีหลายประเด็นที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นที่ส่งผลให้หลักสูตรมีความคุ้มค่าและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความหลากหลายของรายวิชาที่เปิดสอนในหลักสูตร ทั้งสิ้น 45 วิชา ซึ่งช่วยให้นักศึกษาได้รับความรู้และทักษะที่ครอบคลุมทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงหลักสูตรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่ามากขึ้น คือ 1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรตรวจสอบและปรับปรุงเนื้อหาของรายวิชาให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความเจริญทางวิชาชีพและการเปลี่ยนแปลงในสาขาวิชานั้น ๆ |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
2. มีรายละเอียดของหลักสูตรตามแบบ มคอ.2 ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ หรือมาตรฐานคุณวุฒิสาขา/สาขาวิชา [ถ้ามี] |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความชัดเจนในรายละเอียดของหลักสูตรตามแบบแผนการเรียนรู้และปริมาณชั่วโมงการเรียนที่กำหนด นักศึกษาสามารถทราบได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างและเนื้อหาของหลักสูตรที่ต้องเรียน ทั้งนี้ หลักสูตรได้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติที่กำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักศึกษาจะได้รับความรู้และทักษะตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับและการตรวจสอบระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
3. มีรายละเอียดของรายวิชา และรายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม [ถ้ามี] ตามแบบ มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างน้อยก่อนการเปิดสอนในแต่ละภาคการศึกษาให้ครบทุกรายวิชา |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีข้อมูลรายละเอียดของรายวิชาที่สอดคล้องกับแบบแผนการเรียนรู้ ตั้งแต่เนื้อหาที่เรียนรู้ วัตถุประสงค์ของวิชา ผู้สอน ประเภทของวิชา เป้าหมายการเรียนรู้ และวิธีการประเมินผล (มคอ. 3)ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลรายละเอียดของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามในรูปแบบที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เพื่อให้นักศึกษาและผู้เกี่ยวข้องทราบถึงขั้นตอนและคุณลักษณะของแต่ละรายวิชา- หากจำเป็น หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาปรับปรุงแบบแผนการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงที่เข้ากันได้และรายละเอียดที่มีความสอดคล้องกันระหว่างรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนาม โดยสามารถรับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษา อาจารย์ผู้สอน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงและปรับสมดุลระหว่างเนื้อหาและประสบการณ์ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
4. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา และรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม [ถ้ามี] ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วัน หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาที่เปิดสอนให้ครบทุกรายวิชา |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการบริหารจัดการรายงานผลการดำเนินการของรายวิชาที่เปิดสอน ในรายงานนี้จะระบุถึงผลการเรียนรู้ของนักศึกษา ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้ และความสำเร็จในการปฏิบัติกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา (มคอ. 5)- หากมีการเปิดโอกาสให้นักศึกษามีประสบการณ์ภาคสนาม เช่น การฝึกงานหรือการปฏิบัติงาน จะต้องจัดทำรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ดังกล่าว ในรายงานนี้จะระบุถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ความเข้าใจในการประยุกต์ความรู้ และการพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับสาขาวิชา (มคอ. 6) แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ - หากพิจารณาจากข้อมูลในรายงานผลการดำเนินการ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถให้คำแนะนำและแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการเรียนรู้และประสบการณ์ในอนาคตได้ ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
5. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตรตามแบบ มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลังสิ้นสุดปีการศึกษา |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ การที่หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการจัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตรตามแบบแผนการเรียนรู้ที่กำหนด ตามมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ ที่ช่วยสร้างความเข้าใจและการประเมินคุณภาพในการดำเนินงานของหลักสูตร โดยในรายงานนี้จะระบุถึงผลการดำเนินงานทั้งหมดของหลักสูตรในระยะเวลาปีการศึกษาที่ผ่านมา รวมถึงความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผน และการปรับปรุงตามความต้องการระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงเพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิผลในการจัดทำรายงานผลการดำเนินการตามแบบแผนการเรียนรู้ที่กำหนด นั่นคือ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเตรียมข้อมูลที่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของหลักสูตรทั้งหมดในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งควรเป็นข้อมูลที่รวบรวมและเรียงลำดับไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังเน้นถึงการวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานตามแบบแผนการเรียนรู้ เพื่อระบุความสำเร็จและแนวทางการปรับปรุง และควรกำหนดแนวทางการพัฒนาต่อในอนาคต เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการดำเนินงานของหลักสูตร |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
6. มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ ที่กำหนดใน มคอ.3 และ มคอ.4 [ถ้ามี] อย่างน้อยร้อยละ 25 ของรายวิชาที่เปิดสอนในแต่ละปีการศึกษา |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการเน้นการทวนสอบความรู้และความเข้าใจของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่กำหนด โดยใช้วิชา POL498 และ POL499 เพื่อทำการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการเรียนรู้ที่ได้จากหลักสูตร นั่นคือ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตทำการการทวนสอบความรู้และความเข้าใจของนักศึกษาเพื่อวิเคราะห์และประเมินความเข้าใจและการประยุกต์ความรู้ของนักศึกษาในการศึกษาค้นคว้าอิสระ โดยรวมถึงการครอบคลุมวิชาที่หลักสูตรเปิดสอนระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ ควรจัดทำแผนการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาอย่างรอบคอบ และใช้เครื่องมือและข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการทวนสอบควรจัดทำแผนการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาอย่างรอบคอบ และให้เครื่องมือและข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการทวนสอบ โดยต้องคำนึงถึงความต้องการของนักศึกษาในการทวนสอบและการประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้การทวนสอบเป็นประโยชน์แก่พวกเขาทั้งยังจะต้องมีการพัฒนาเครื่องมือและแบบทดสอบที่เหมาะสมในการวัดผลสัมฤทธิ์ของการเรียนรู้ของนักศึกษา เพื่อให้เกิดความถูกต้องและมีประสิทธิผล |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
7. มีการพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน หรือการประเมินผลการเรียนรู้จากผลการประเมินการดำเนินงานที่รายงานใน มคอ.7 ปีที่แล้ว |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- จุดเด่นและแนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการพัฒนาแนวทางการสอนเพื่อเป็นไปในทิศทางที่เน้นความเข้าใจและการเรียนรู้ของนักศึกษาอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือการสอนที่ทันสมัย ทั้งยังมีการพัฒนากลยุทธ์การสอนที่นวัตกรรมเพื่อให้การเรียนรู้มีความน่าสนใจและเป็นที่สนใจของนักศึกษา โดยการใช้วิธีการที่หลากหลายเช่น การเรียนรู้ผ่านการแก้ปัญหา การทำงานกลุ่ม หรือการนำเสนอผลงาน เป็นต้นระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสนับสนุนอาจารย์ในการวิจัยและพัฒนากลยุทธ์การสอนที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ของนักศึกษา และควรส่งเสริมการนำเอกสารเข้าระบบออนไลน์ วิดีโอการสอน และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์เข้ามาช่วยเสริมการเรียนรู้ |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
8. อาจารย์ใหม่ [ถ้ามี] ทุกคน ได้รับการปฐมนิเทศ หรือคำแนะนำด้านการจัดการเรียนการสอน |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
9. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคนได้รับการพัฒนาทางวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการส่งเสริมให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรได้รับการพัฒนาความรู้และความเข้าใจในวิชาที่สอน เช่น การอบรม การปรับปรุงความเข้าใจในกระบวนการและหลักการทางวิชาการระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีสนับสนุนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแบ่งปันความรู้ร่วมกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายและคุณค่าในการสอน- ข้อมูลการได้รับการพัฒนาทางวิชาการ/วิชาชีพของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร หากแต่ละท่านมีการเข้ารับที่แตกต่างกันไป สามารถเพิ่มเติมข้อมูลได้ เพื่อแสดงถึงการพัฒนาของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต่อการจัดการเรียนการสอน/การพัฒนาที่ทันต่อความก้าวหน้าของศาสตร์ในปัจจุบัน |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
10. จำนวนบุคลากรสนับสนุนการเรียนการสอน [ถ้ามี] ได้รับการพัฒนาวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ต่อปี |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
11. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาปีสุดท้าย/บัณฑิตใหม่ที่มีต่อคุณภาพหลักสูตร เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00 |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มุ่งเน้นไปที่ความพึงพอใจที่สูงของนักศึกษาปีสุดท้ายต่อคุณภาพของหลักสูตรที่มีคะแนนรวมถึงระดับสูงอยู่ที่ 4.35 จากคะแนนเต็ม 5 ซึ่งสามารถสะท้อนได้ว่านักศึกษาปีสุดท้ายรู้สึกพึงพอใจต่อคุณภาพของการสอนและการเรียนรู้ในหลักสูตร ที่มีระดับความคุ้มค่าและสอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของพวกเขาระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้หลักสูตรทำการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของนักศึกษาและสาขาวิชา และหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรนำข้อมูลจากการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเข้ามาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
12. ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00 |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- จุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตที่แสดงถึงความพึงพอใจที่สูงของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.23 จากคะแนนเต็ม 5.00 ได้สะท้อนว่าผู้ใช้บัณฑิตมีความพึงพอใจต่อคุณภาพของบัณฑิตที่เป็นผลผลิตจากหลักสูตร ที่สอดคล้องกับความต้องการและมีความพร้อมในการทำงานในสาขาวิชาระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้สาขาวิชาปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของตลาดงาน และอาจจะจัดให้มีการจัดงานสัมมนาและเสวนาที่เชื่อมโยงระหว่างบัณฑิตเก่าและนักศึกษาใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
13. ร้อยละ 80 ของรายวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอน สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนด |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการจัดทำแผนการสอนที่มีคุรภาพและมีการเตรียมการสอนที่เหมาะสม เพื่อให้เนื้อหาการสอนเป็นไปตามหลักการและมาตรฐานที่กำหนด โดยร้อยละ 100 ของรายวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรมีการเปิดสอนเป็นไปตามแผนที่กำหนด ซึ่งส่งเสริมและสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
14. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอน รวมทุกรายวิชา เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนนเต็ม 5.00 |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอนที่ได้รับทั้งในทุกรายวิชาที่เปิดสอน โดยมีระดับเฉลี่ยอยู่ที่ 4.42 จากคะแนนเต็ม 5.00 ซึ่งแสดงว่า หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตเป็นหลักสูตรที่สามารถเติบโตและพัฒนาคุณภาพการสอนไปในทิศทางที่ดี นั่นคือ หลักสูตรนี้ได้คำนึงถึงความต้องการและความพึงพอใจของนักศึกษาเป็นหัวใจหลักในการออกแบบการสอน และส่งเสริมให้นักศึกษามีส่วนร่วม มีทักษะการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งด้านทฤษฎีและการปฏิบัติระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน (Key Performance Indicators) |
ผลการประเมิน (ผ่า่น / ไม่ผ่าน) |
---|---|
15. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอน เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนน เต็ม 5.00 |
|
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม | |
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนที่ได้รับทั้งในการเรียนและการสอน โดยมีระดับเฉลี่ยอยู่ที่ 4.63 จากคะแนนเต็ม 5.00 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่ว่าหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการจัดการและให้บริการทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของนักศึกษาอย่างมีประสิทธิผลพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้มีการปรับปรุงสถานที่เรียนการสอนให้เพียงพอและทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการเรียนรู้ |
|
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 5.4 | ||
---|---|---|
ข้อมูลพื้นฐาน | ผลการประเมิน | |
จำนวนยืนยัน | กรรมการ | |
[1] รวมจำนวนตัวบ่งชี้ในแต่ละปี | 13 | 4.5 |
[2] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านเฉพาะตัวบ่งชี้ที่ 1-5 | 1-5 | |
[3] ร้อยละของตัวบ่งชี้ที่ 1-5 ที่ผ่าน [ถ้าผ่านทั้ง 5 ข้อจะเป็นร้อยละ 100] | 100 | |
[4] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านรวม | 12 | |
[5] ร้อยละของตัวบ่งชี้ทั้งหมดที่ผ่าน | 92.31 |
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง |
---|
ระบบการดำเนินงานของภาควิชา/คณะ/สถาบัน โดยมีส่วนร่วมของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เพื่อให้มีสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการจัดห้องเรียนและสถานที่เรียนรู้ที่เตรียมอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้นักศึกษามีประสิทธิภาพในการเรียนรู้ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
จำนวนสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอน |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรสามารถพัฒนาห้องสมุดของคณะเพื่อให้เป็นที่พักค้นคว้าข้อมูลและทำงานวิชาการที่มีคุณภาพได้ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
กระบวนการปรับปรุงตามผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล |
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรได้ใช้ข้อมูลและผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ในการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้และสิ่งสนับสนุนให้เหมาะสมต่อความต้องการ และมีการพัฒนาทรัพยากรการเรียนรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษาและอาจารย์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- |
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
|
ตัวบ่งชี้คุณภาพ | ผลดำเนินการ |
---|---|
กรรมการ | |
1.1 การบริหารจัดการหลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรที่กำหนดโดยสกอ. | ผ่าน |
2.1 คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ.2561 | 4.23 |
2.2 ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี | 4.17 |
3.1 การรับนักศึกษา | 4.00 |
3.2 การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา | 3.00 |
3.3 ผลที่เกิดกับนักศึกษา | 3.00 |
4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์ | 3.00 |
4.2 คุณภาพอาจารย์ | 3.89 |
4.3 ผลที่เกิดกับอาจารย์ | 4.00 |
5.1 สาระของรายวิชาในหลักสูตร | 3.00 |
5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน | 3.00 |
5.3 การประเมินผู้เรียน | 3.00 |
5.4 ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ | 4.50 |
6.1 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ | 3.00 |
ผลการประเมินเฉลี่ยรวม [13 ตัวบ่งชี้] | 3.52 |
องค์ประกอบ | ตัวบ่งชี้ | I | P | O | คะแนนเฉลี่ย | ผลการประเมิน |
---|---|---|---|---|---|---|
1 | ผ่านการประเมิน | หลักสูตรได้มาตรฐาน | ||||
2 | 2 | - | - | 4.20 | 4.20 | ระดับคุณภาพดีมาก |
3 | 3 | 3.33 | - | - | 3.33 | ระดับคุณภาพดี |
4 | 3 | 3.63 | - | - | 3.63 | ระดับคุณภาพดี |
5 | 4 | 3.00 | 3.50 | - | 3.38 | ระดับคุณภาพดี |
6 | 1 | - | 3.00 | - | 3.00 | ระดับคุณภาพปานกลาง |
ผลการประเมิน | 3.41 | 3.38 | 4.20 | 3.52 | ระดับคุณภาพดี | |
ระดับคุณภาพ | ระดับคุณภาพดี | ระดับคุณภาพดี | ระดับคุณภาพดีมาก |