รายงานผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ปีการศึกษา 2565

หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์

วันที่ประเมิน: 10 สิงหาคม 2566, 09:30น.

องค์ประกอบที่ 1 การกำกับมาตรฐาน

[ตัวบ่งชี้ 1.1] การบริหารการจัดการหลักสูตรตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร

เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
1. จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น
หลักสูตรมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบ 5 คน มีคุณสมบัติตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2558 โดยทุกคนรับผิดชอบเพียงหลักสูตรเดียว และเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรตลอดระยะปีการศึกษา ได้แก่
1.   ดร.ชนุตร์ นาคทรานันท์
2.   ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง
3.   อ.เกียรติชัย พงษ์พาณิชย์
4.   ดร.ภัทรมน  สุวพันธุ์
5.   อ.ศิวพล  ละอองสกุล

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
2. คุณสมบัติอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น
- มีคุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่าตามเกณฑ์ของหลักสูตรฯ และดำรงตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน และมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปี ย้อนหลัง
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
[สำหรับประเภทวิชาชีพ/ปฏิบัติการ]
อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จำนวน 2 ใน 5 คน ต้องมีประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติการ
ระบุข้อคิดเห็น
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
3. คุณสมบัติอาจารย์ประจำหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
4. คุณสมบัติอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์ประจำ
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น
- มีคุณวุฒิระดับปริญญาโทหรือเทียบเท่า หรือดำรงตำแหน่งทางวิชาการไม่ต่ำกว่าผู้ช่วยศาสตราจารย์ในสาขาวิชานั้น 
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
คุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์พิเศษ
ข้อคิดเห็น
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
10. การปรับปรุงหลักสูตรตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น
1. หลักสูตรได้เปิดดำเนินการเรียนการสอนในครั้งแรกตั้งแต่ภาคการศึกษาที่ 1 ปีการศึกษา 2554 โดยได้มีการปรับปรุงหลักสูตรตามรอบระยะเวลาที่กำหนดดังนี้
ครั้งที่ 1 ในปี 2558 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี 2559
ครั้งที่ 2 ในปี 2562 ปรับปรุงเพื่อ ใช้ในปี 2563
2. จะครบกำหนด 5 ปี ในการปรับปรุงหลักสูตร ปีการศึกษา 2567

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 1.1

องค์ประกอบที่ 2 การผลิตบัณฑิต

[ตัวบ่งชี้ 2.1] คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และ ด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ.2561

หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด หมายถึง ผู้รับปริญญา ในปีการศึกษา 2564 ประกอบด้วย บัณฑิตที่จบภาคการศึกษา 1/2564 , 2/2564 และ S/2565 [ปีต้องอัพเดตตามปีการศึกษาที่ประเมินย้อนหลัง 1 ปี]
(2) จำนวนบัณฑิตที่รับการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาตาม (ข้อ1)

ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
จำนวนบัณฑิตทั้งหมด 92 4.23
จำนวนบัณฑิตที่ได้รับการประเมินทั้งหมด 28
คะแนนเฉลี่ยรวมคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2561 4.23
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มีคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ โดยมีลักษณะต่าง ๆ ดังนี้

          1. ด้านคุณธรรมจริยธรรม
หลักสูตรฯ เน้นให้นักเศึกษาพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมที่เป็นหลักและมีค่านิยมตามหลักธรรมาภิบาล ในกระบวนการเรียนรู้และในการปฏิบัติงานในสังคม นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจและเคารพสิทธิและความคุ้มครองของผู้อื่น และเพิ่มการรับผิดชอบในการดำเนินชีวิตและการทำงานตามหลักของคุณธรรมจริยธรรม

          2. ด้านความรู้
หลักสูตรฯ มุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ทั่วไปและความรู้เฉพาะทางในสาขาที่เกี่ยวข้อง โดยใช้หลักการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นการค้นคว้า การวิเคราะห์ และการประยุกต์ความรู้ในสถานการณ์ต่างๆ

          3. ด้านทักษะทางปัญญา
หลักสูตรฯ มีการส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะทางปัญญาเช่น การคิดวิเคราะห์ การสร้างความคิดริเริ่ม แก้ปัญหา และการนำเสนอความคิด ทักษะเหล่านี้จะช่วยให้บัณฑิตสามารถเรียนรู้และประยุกต์ความรู้ในสถานการณ์ที่ซับซ้อน

          4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ
หลักสูตรฯ มีการสอนและส่งเสริมทักษะในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลอื่น การทำงานเป็นทีม การแก้ไขขัดแย้ง และการแก้ปัญหาในระดับส่วนบุคคลและองค์กร รวมถึงการส่งเสริมความรับผิดชอบในการปฏิบัติตามหน้าที่และค่านิยม

          5. ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสารและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
หลักสูตรฯ มีการส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข การสื่อสารที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการเรียนรู้และการปฏิบัติงานในชีวิตประจำวัน

          ดังนั้น หลักสูตรฯ มีคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติจะมุ่งสร้างบัณฑิตที่มีความรู้ ทักษะ และคุณธรรมที่เพียงพอในการเข้าสู่สังคมและการทำงานในสาขาวิชาต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถใช้ความรู้และทักษะในการแก้ปัญหาและสร้างสรรค์ในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง
 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 2.2] ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี

หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด จะต้องตรงกับตาราง ตัวบ่งชี้ 2.1
(2) จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา

ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
จำนวนบัณฑิตทั้งหมด 92 4.17
จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจ 73
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [มีงานทำในองค์กร] 28
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบอาชีพอิสระ] 8
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบกิจการส่วนตัว/ธุรกิจครอบครัว] 19
จำนวนบัณฑิตที่ไม่ได้งานทำ 11
จำนวนบัณฑิตที่ศึกษาต่อ 5
จำนวนบัณฑิตที่อุปสมบท 0
จำนวนบัณฑิตที่เกณฑ์ทหาร 2
จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มีงานทำก่อนเข้าศึกษา 0
ร้อยละที่ได้ 83.33
ผลลัพธ์ที่ได้ 4.17
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

               หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการทำการสำรวจเพื่อวิเคราะห์สถานการณ์การทำงานของบัณฑิตหลังสำเร็จการศึกษาในระยะเวลา 1 ปีพบว่า จากผู้สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตทั้งหมด จำนวน 92 คน มีผู้ที่เข้าร่วมการตอบแบบสอบถามจำนวน 73 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนร้อยละ 79.34 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

               1. บัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษามีจำนวน 55 คน ซึ่งแบ่งเป็นหมวดย่อยดังนี้
                        1.1 บัณฑิตที่ทำงานในองค์กรจำนวน 28 คน, บัณฑิตที่เลือกประกอบอาชีพอิสระจำนวน 8 คน, และบัณฑิตที่เลือกประกอบกิจการส่วนตัวหรือธุรกิจครอบครัวจำนวน 19 คน

                        1.2 จำนวนบัณฑิตที่ยังไม่ได้ทำงานมีจำนวน 11 คน และบัณฑิตที่เลือกที่จะศึกษาต่อมีจำนวน 5 คน นอกจากนี้ยังมีบัณฑิตที่มีเกณฑ์ทหารจำนวน 2 คน

               ดังนั้น เมื่อคำนวณเป็นสัดส่วนของจำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังการสำเร็จการศึกษา จะได้ร้อยละ 83.33 ซึ่งคิดเป็นคะแนนเท่ากับ 4.17 คะแนน
 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

               เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มคุณค่าให้กับหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต จากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจและวิเคราะห์สถานการณ์การทำงานของบัณฑิตหลังสำเร็จการศึกษาในระยะเวลา 1 ปี ของปีการศึกษา 2565 นั้น สามารถนำแนวทางการปรับปรุงดังต่อไปนี้ เพื่อให้การดำเนินงานของลักสูตรมีความเหมาะสมและตอบสนองต่อความต้องการของผู้สำเร็จการศึกษาได้มากยิ่งขึ้น คือ
               1. การส่งเสริมการทำงานในองค์กร
โดยส่งเสริมให้มบัณฑิตมีโอกาสได้รับข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพที่เป็นไปตามที่เรียนในหลักสูตร

               2. การพัฒนาทักษะและความรู้เพิ่มเติม
ควรเพิ่มคุณภาพของหลักสูตรฯ ด้วยการเพิ่มเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับทักษะและความรู้ที่อัปเดทในตลาดงาน อาทิเช่น การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ การพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ เป็นต้น

               3. การส่งเสริมอาชีพอิสระและการเป็นผู้ประกอบธุรกิจ
หากมีผู้สำเร็จการศึกษาที่ต้องการเป็นเป็นผู้ประกอบธุรกิจ หลักสูตรฯ ควรเพิ่มโอกาสให้กับนักศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการธุรกิจและการสร้างแผนธุรกิจ

               4. การสนับสนุนการศึกษาต่อ
หลักสูตรฯ ควรมีการเพิ่มโอกาสเพื่อการศึกษาต่อให้กับผู้สำเร็จการศึกษาที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะในสาขาที่สนใจ

               ดังนั้น จากแนวทางการปรับปรุงดังกล่าว หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตจะสามารถตอบสนองความต้องการและประสิทธิภาพในการทำงานของบัณฑิตในสังคมและตลาดงานได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

               - หากหลักสูตรเก็บข้อมูลค่อนข้างเร็วตั้งแต่ช่วงแรกๆของการสำเร็จการศึกษา อาจทำให้มีจำนวนบัณฑิตที่ไม่มีงานทำจำนวนเยอะ หลักสูตรสามารถติดตามเก็บข้อมูลการมีงานทำเพิ่มเติมได้ 
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 2 (2 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 4.20 คะแนน

องค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา

[ตัวบ่งชี้ 3.1] การรับนักศึกษา

คะแนนที่ได้ 4
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
           ในปี 2565 ทางหลักสูตรโดยผู้รับผิดชอบหลักสูตร ได้มีวางระบบและกลไกการรับนักศึกษาใหม่ โดยเปิดช่องทางการตอบคำถามพูดคุยกับนักเรียนที่มีความสนใจแต่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อตัดสินใจสม้ครเข้าศึกษา  ปรากฏว่ามีจำนวนนักศึกษาใหม่สูงถึง 176 คน เป็นจำนวนสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบรอบ 5 ปีที่ผ่านมา  นอกจากนี้การเตรียมความพร้อมก่อนเรียนให้กับนักศึกษาใหม่  มีการเตรียมในส่วนของเนื้อหาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหลักรัฐศาสตร์  ซึ่งเป็นพื้นฐานให้นักศึกษาใหม่ได้เข้าใจศาสตร์และหลักสูตรที่จะได้ศึกษาต่อไป  นอกเหนือจากการปฐมนิเทศ
 
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การรับนักศึกษา:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               เพื่อเสริมและพัฒนาการดำเนินงานในเรื่อง "การรับนักศึกษา" หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถพิจารณาและดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
               1. การปรับปรุงเนื้อหาการสมัคร
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถผลิตสื่อที่แสดงเนื้อหาการสมัครเพื่อให้ผู้สมัครเข้าใจและเก็บข้อมูลได้ง่ายขึ้น รวมถึงเพิ่มความชัดเจนในกระบวนการสมัครออนไลน์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการสมัคร

               2. การสร้างช่องทางสื่อสาร
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะเพิ่มช่องทางสื่อสารที่สะดวกและรวดเร็วเพื่อให้ผู้สมัครสามารถสอบถามและขอคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ ไม่ว่าจะเป็นทางเว็บไซต์ โทรศัพท์ หรือช่องโซเชียลมีเดีย

               3. การพัฒนาเกณฑ์การคัดเลือก
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการปรับปรุงและเพิ่มความชัดเจนในเกณฑ์การคัดเลือกนักศึกษาเพื่อให้ความเท่าเทียมและเพิ่มโอกาสในการเข้าศึกษาในหลักสูตรฯ

               4. การพัฒนาแนวทางการสอบสัมภาษณ์
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถพัฒนากระบวนการสัมภาษณ์ให้ง่ายต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และมีความสอดคล้องกับแนวคิดทางการเรียนรู้ของหลักสูตรฯ พร้อมทั้งเสริมด้วยการสัมภาษณ์ด้วยคำถามที่เกี่ยวข้องกับคุณสมับติในการศึกษา

               5. การส่งเสริมความคิดริเริ่มและการสอบถาม
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถสร้างพื้นที่หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ผู้สมัครมีโอกาสสอบถามและแสดงความคิดเห็นต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครอบคลุมและถูกต้อง

               6. การพัฒนาแผนการเรียน
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถเตรียมแผนการเรียนเพิ่มเติมให้กับผู้สมัครที่สอบผ่านการคัดเลือกเพื่อให้ความชัดเจนในการเรียนและมีแนวทางการศึกษาที่ชัดเจน

               7. การเพิ่มความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกเพื่อเสริมสร้างโอกาสในการศึกษา และประสบการณ์ในสาขาวิชาที่สนใจ

               8. การประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรทำการประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรและเพิ่มโอกาสการศึกษาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อื่นๆ


               ดังนั้น ด้วยการปรับปรุงและพัฒนาเหล่านี้ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและคุณค่าให้กับกระบวนการรับนักศึกษาและผลผลิตบัณฑิตในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิผลและเหมาะสมนั้นเอง
               - หลักสูตรมีการเตรียมความพร้อมในการให้ข้อมูลกับผู้สมัครอย่างตรงไปตรงมาในเรื่องจุดยืนทางการเมือง ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกเข้าศึกษาในหลักสูตร

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               1. สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักสูตร
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างข้อมูลที่ชัดเจนและครอบคลุมเกี่ยวกับหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต รวมถึงแนวคิดทางการเรียนรู้และโอกาสที่เสนอให้นักศึกษาได้รับ

               2. การส่งเสริมการสอบถาม
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้ผู้สมัครมีความกล้าแสดงความคิดเห็นหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตร 

               3. ความหลากหลายของแหล่งข้อมูล
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาแนวทางการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ เช่น วิดีโอแนะนำหลักสูตร หรือข้อมูลทางสังคมออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการรับข้อมูลสำหรับผู้สมัคร

               4. การสร้างแรงจูงใจในการสมัคร
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรใช้กลยุทธ์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการสมัครเข้าศึกษาอย่างมีความหมาย เช่น เสนอโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาต่อไป

               5. การพัฒนาทักษะเสริมที่ตอบโจทย์สากล
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้นักศึกษาได้รับทักษะเสริมที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและสากล เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานในอนาคต

               6. การสร้างชุมชนและเครือข่าย
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างนักศึกษา เพื่อสร้างเครือข่ายที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง

               7. การพัฒนาแผนการเรียนที่ยืดหยุ่น
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาแนวทางในการเสนอแผนการเรียนที่สอดคล้องกับความสนใจและความสามารถของนักศึกษา

               8. การเพิ่มประสิทธิภาพระบบการรับสมัคร
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาระบบการรับสมัครให้มีความรวดเร็วและถูกต้องในการประมวลผลและตอบกลับผู้สมัคร


               
ดังนั้น จากผลการดำเนินงานของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต ปีการศึกษา 2565 เพื่อการรับนักศึกษานั้น ดีอยู่แล้ว แต่การพัฒนาและปรับปรุงต่อไปจะช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจและความสุขในการเรียนรู้ของนักศึกษามากยิ่งขึ้น โดยให้คำแนะนำและคำติชมให้กับทีมงานที่ทำหน้าที่รับนักศึกษาเพื่อประเมินและปรับปรุงกระบวนการให้เหมาะสมและตอบสนองความต้องการของนักศึกษาและสังคมได้อย่างเต็มที่
 
การเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น

               1. การเตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียน
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการเตรียมความพร้อมที่เน้นด้านทักษะทางวิชาการและความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์สำหรับนักศึกษาใหม่ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่มีความสำคัญ โดยเนื้อหาที่ถูกเลือกให้กับนักศึกษามีความเกี่ยวข้องและมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ในหลักสูตร

               2. การให้ข้อมูลสำคัญ
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการการจัดงานปฐมนิเทศและอบรมระยะสั้น โดยไม่เพียงแค่ให้ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้และการประกอบอาชีพในอนาคต

               3. เป้าหมายและการวัดผลที่ชัดเจน
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการกำหนดเป้าหมายในการเข้าร่วมงานปฐมนิเทศและการอบรมระยะสั้นทำให้นักศึกษาและทีมงานสามารถวัดผลการทำงานได้อย่างชัดเจน และสามารถประเมินผลสำเร็จและการพัฒนาต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางเสริม

               1. การสร้างความสนใจที่ยิ่งใหญ่
ในปีการศึกษา 2566 หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาเนื้อหาของอบรมระยะสั้นให้มีความน่าสนใจและเข้าใจง่าย โดยเน้นเนื้อหาที่เป็นปัญหาหรือเรื่องราวที่นักศึกษาสามารถแสดงความสนใจและคำถามได้

               2. การใช้เทคโนโลยีในการอบรม
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการนำเทคโนโลยีการเรียนการสอนออนไลน์ เพื่อการอบรมระยะสั้น ซึ่งอาจช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและการเข้าถึงข้อมูลของนักศึกษาให้ง่ายขึ้น

               3. การสร้างพื้นที่สำหรับการสนทนาและอภิปราย
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างโอกาสให้นักศึกษาสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และถามคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลักสูตรและการเรียนรู้

               4. การติดตามและประเมินผล
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการติดตามความก้าวหน้าของนักศึกษาหลังจากการเข้าร่วมกิจกรรมเตรียมความพร้อม ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ และควรปรับปรุงหรือปรับแก้แผนการเรียนในอนาคต โดยเป็นไปตามผลการประเมิน

               5. การเสริมสร้างชุมชนและความเชื่อมโยง
หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างนักศึกษา และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษาและคณาจารย์ เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาสู่สาขาวิชา

               โดยสรุปแล้ว การเตรียมความพร้อมและการสนับสนุนการเรียนรู้ในช่วงเริ่มต้นของการศึกษาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะสร้างพื้นฐานสำหรับนักศึกษาในการเรียนรู้และการเติบโตในอนาคต
               - การอบรมระยะสั้นสำหรับนักศึกษาใหม่ เกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์ เป็นโครงการที่น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาใหม่ หากหลักสูตรสามารถจัดกิจกรรมโดยมีนักศึกษาใหม่เข้าร่วมทุกคนจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับนักศึกษา

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               1. จำนวนนักศึกษาที่เข้าอบรมก่อนเรียน ในหลักสูตร ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์สำหรับนักศึกษาแรกเข้าที่มีความสนใจใจ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (ดูรายงานการประชุมครั ้งที่3/2565 วาระที่ 1.5) ในวันที่1 สิงหาคม 2565 เวลา 3 ชั่วโมง มีผู้เข้าร่วม 26 คน คิดเป็นร้อยละ 14 ของนักศึกษาใหมควรมีการติดตามประเมินผล  การดำเนินงานในลักษณะนี้ คงไม่ถือว่าเป้นการเตรียมความพร้อม เนื่องจากกระบวนการเปิดโอกาสตามความสนใจ  ซึ่งไม่ได้เกิดจากการวิเคราะห์ความจำเป็นใด ๆ   ดังนั้นการเตรียมความพร้อมที่เห็นชัดเจนกว่า คือการปฐมนิเทศ เท่านั้น ซึ่งไม่มีการติดตามประเมินผลแต่อย่างใด
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้ความรู้เกี่ยวกับใบโครงสร้างหลักสูตร ตารางสอน ระบบอาจารย์ที่ปรึกษา และการประชาสัมพันธ์อบรมระยะสั้น และควรอธิบายข้อมูลให้เข้าใจง่ายและชัดเจน เพื่อให้นักศึกษาเข้าใจเนื้อหาและการจัดการอบรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสนับสนุนทักษะทางวิชาการและการส่งเสริมการคิดวิเคราะห์แก่นักศึกษา โดยหลักสูตรควรทำการปรับปรุงในส่วนของเนื้อหาที่เน้นการวิเคราะห์และคิดเชิงวิทยาศาสตร์ เพื่อให้นักศึกษาเพิ่มความเข้าใจและความพร้อมในการเรียนรู้
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรนำเทคโนโลยีมาจัดการจัดอบรม โดยจะเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายให้กับผู้เรียน การเปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าถึงเนื้อหาอบรมในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งนับว่าเป็นตัวเลือกที่ดี
               5. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างชุมชนการเรียนรู้และระบบการสนับสนุนที่เปิดกว้างให้กับนัดศึกษา โดยเน้นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและการเรียนรู้ร่วมกัน โดยจะช่วยเสริมสร้างการเรียนรู้แบบการพัฒนาตนเองของนักศึกษาได้
               6. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการอบรมระยะสั้น เพื่อเตรียมความพร้อมทางวิชาการ โดยควรเป็นการอบรมที่เน้นการเรียนรู้และการสร้างความเข้าใจจากพื้นฐาน และควรหลีกเลี่ยงการให้เนื้อหาที่มีความซับซ้อนเกินไปที่อาจทำให้นักศึกษาหลงสับสน
               7. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรจัดทำแผนการเรียนรู้ที่ช่วยให้นักศึกษาเข้าใจความสำคัญและประโยชน์ของรัฐศาสตร์ในชีวิตประจำวัน โดยการเชื่อมโยงกับตัวอย่างการประยุกต์ใช้ในสังคม
               8. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการเตรียมความพร้อมทางทักษะเชิงบุคลิกและการส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหาและการจัดการกับอารมณ์ ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมในการเรียนรู้และการดำเนินชีวิตในสายงานต่าง ๆ

               จากแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาดังกล่าว หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตจะสามารถเตรียมความพร้อมและสนับสนุนนักศึกษาใหม่เพื่อการเข้าการศึกษาและมีชีวิตหลังจบการศึกษาอย่างมีคุณภาพได้
 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 3.2] การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น คือ 

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบอาจารย์ที่ปรึกษาทั่วไป โดยมีการเน้นให้คำปรึกษาใกล้ชิดกับนักศึกษา โดยอนุญาตให้นักศึกษาเข้าปรึกษตามเวลาที่อาจารย์กำหนดหรือนัดหมาย ซึ่งนับว่าเป็นการช่วยนักศึกษาโดยให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในการเรียนและชีวิตมหาวิทยาลัย
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบที่รองรับการให้คำปรึกษาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เช่น LINE, Facebook และแผนกลุ่ม Line เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการของนักศึกษาในยุคที่การสื่อสารออนไลน์มีความสำคัญ
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบการให้คำปรึกษาของอาจารย์ประจำ ที่มีการจัดทำข้อมูลและรายงานปัญหาของนักศึกษา ที่นำไปใช้ในการประชุมคณะกรรมการบริหารหลักสูตรเพื่อพิจารณาและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ยังมีการประเมินอาจารย์ที่ปรึกษาต่อไปเพื่อให้ระบบมีการปรับปรุงและพัฒนาต่อไป

แนวทางเสริม คือ 

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะสร้างระบบการให้คำปรึกษาโดยอาจารย์ต้องมีความรู้ที่เพียงพอในด้านที่นักศึกษาต้องการคำปรึกษา เช่น การวางแผนการศึกษา การใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย และการแก้ไขปัญหา
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะมีระบบควบคุมและให้คำปรึกษา ที่สนับสนุนนักศึกษาให้มีการเรียนรู้ที่เป็นระบบและเตรียมความพร้อมในการเผชิญกับความท้าทายในชีวิตจริง
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะสร้างระบบอาจารย์ที่ปรึกษา ที่คณาจารย์ควรได้รับการฝึกฝนและพัฒนาทักษะการให้คำปรึกษาเพื่อให้สามารถเผยแพร่ความรู้และเสริมสร้างทักษะการแก้ไขปัญหาให้กับนักศึกษาได้อย่างเต็มที่
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการให้คำปรึกษา ซึ่งนับว่าจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่สามารถพัฒนาได้ เช่น การใช้แพลตฟอร์มการสื่อสารออนไลน์ การจัดทำเนื้อหาอาจารย์ที่ปรึกษาเพื่อการเรียนรู้ออนไลน์ หรือการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาผ่านแอปพลิเคชัน

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

               ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงเพื่อเสริมคุณภาพของระบบการควบคุมและการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรีของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์ที่ปรึกษาแต่ละท่านมีการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความสามารถในการให้คำปรึกษาที่ครอบคลุมและเป็นประโยชน์สำหรับนักศึกษาที่มีความต้องการหลากหลาย
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์ที่ปรึกษาได้รับการฝึกฝนและพัฒนาทักษะการให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกับนักศึกษา และการแก้ไขปัญหาที่ตรงใจกับนักศึกษา
               3. เพื่อให้คำปรึกษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาจารย์ที่ปรึกษาควรจัดเวลาในการให้คำปรึกษาอย่างเหมาะสม และสร้างความเข้าใจร่วมกันกับนักศึกษาเรื่องเวลาที่เหมาะสมสำหรับการปรึกษาและการสนทนา
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะใช้ระบบเทคโนโลยีในการบริหารจัดการการให้คำปรึกษาและการติดตามผลการประเมินอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งจะช่วยให้คณะผู้บริหารมีข้อมูลและข่าวสารที่ชัดเจนในการตัดสินใจปรับปรุงระบบ 
               5. นักศึกษาควรได้รับคำแนะนำในเรื่องของบทบาทและหน้าที่ของอาจารย์ที่ปรึกษา และควรรับทราบถึงความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากการได้รับคำปรึกษา ทั้งในด้านการเรียน การแก้ไขปัญหา และการพัฒนาทักษะ
               6. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการตรวจสอบและประเมินผลของระบบการให้คำปรึกษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าการให้คำปรึกษาจะมีประสิทธิภาพและส่งผลดีต่อความเป็นอยู่และการเรียนของนักศึกษา

 

การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้เสนอแนวคิดที่น่าสนใจและทันสมัยในการพัฒนาศักยภาพและทักษะการเรียนรู้ของนักศึกษาในศตวรรษที่ 21 โดยเน้นทักษะด้านภาษาอังกฤษและทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล คือ 
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการให้นักศึกษาจากหลายหลักสูตรมาเรียนและพบปะร่วมกันในรายวิชาเฉพาะ เช่น PEG 401 ซึ่งเป็นการช่วยสร้างโอกาสให้นักศึกษาได้พบปะและทำงานร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ ที่มีแบคกราวน์และวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน เป็นการเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาเข้าสู่สภาวะที่ต้องทำงานกับคนต่างชาติในสภาวะการทำงานจริง
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เช่น Google Classroom เป็นตัวกลางในการส่งงานและให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการเรียน ช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้เองของนักศึกษา และช่วยเสริมสร้างทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่สำคัญในการประกอบอาชีพในอนาคต
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการเปิดโอกาสให้นักศึกษาสร้างสรรค์ผลงานที่แตกต่างกันจากการนำเสนอด้วยการพูดหน้าชั้น เช่น คลิปวิดีโอ งานศิลปะ แอปพลิเคชัน เป็นวิธีที่สร้างความน่าสนใจและกระตุ้นให้นักศึกษามีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้

แนวทางเสริม คือ

               1. นอกจากภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีดิจิทัล หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาในการพัฒนาทักษะอื่นๆ ที่สำคัญต่อการทำงานในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา การทำงานเป็นทีม เป็นต้น
               2. นักศึกษาควรได้รับการฝึกทักษะในการใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลงาน การสื่อสาร และการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการวัดและประเมินทักษะที่พัฒนาขึ้น ไม่เพียงแค่ในการเรียนรายวิชาเฉพาะ แต่ควรนำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์เพื่อให้นักศึกษาได้ประโยชน์จริง
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเน้นการทำงานร่วมกับคนต่างชาติ โดยจำเป็นจะต้องเน้นการเรียนรู้วัฒนธรรมและการสื่อสารในสภาพที่แตกต่าง ซึ่งอาจพิจารณาเพิ่มการฝึกทักษะการสื่อสารด้านวัฒนธรรมเพิ่มเติม

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หากในปีการศึกษา 2566  ได้วางเป้าหมายและแผนปฏิบัติการการพัฒนาทักษะศตวรรษ 21 ให้กับนักศึกษา ขอให้มีการติดตามประเมินผลการพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษ และ ดิจิทัลเทคโนโลยี ของนักศึกษา  และรายงานผลการดำเนินงานให้ชัดเจน
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการให้คะแนนและประเมินผลงานของนักศึกษาในรูปแบบของไฟล์ PDF ผ่าน Google Classroom ซึ่งนับว่าเป็นวิธีที่ดีในการทำให้นักศึกษาได้รับความเข้าใจผลงานของตนเอง อย่างไรก็ตาม หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิควรพิจารณาวิธีการให้คะแนนและการประเมินที่ครอบคลุมและแสดงความเป็นทีมอย่างเท่าเทียมกัน และไม่สร้างแรงกดดันในการแข่งขัน
               นอกจากทักษะด้านภาษาอังกฤษและเทคโนโลยีดิจิทัล หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้ความสำคัญในการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การแก้ไขปัญหา และการทำงานเป็นทีม เพื่อให้นักศึกษามีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการพัฒนาสังคมและองค์กรในศตวรรษที่ 21
               หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากนักศึกษาและอาจารย์เกี่ยวกับแผนการพัฒนาที่ได้รับการปฏิบัติใช้จริง เพื่อใช้เป็นข้อมูลฐานในการปรับปรุงแผนการดำเนินงานในอนาคต 
               หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเน้นการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญในการพัฒนาทักษะเตรียมความพร้อมในการทำงานร่วมกับคนต่างชาติ 
               หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาระบบการสนับสนุนนักศึกษาที่เน้นการส่งเสริมการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะ รวมถึงการจัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนในการพัฒนาทักษะเหล่านี้ 
               หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างโอกาสในการแบ่งปันความรู้และทักษะระหว่างสาขาวิชาและสถาบันที่เกี่ยวข้อง เพื่อเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลายในการเตรียมความพร้อมในสายงานต่างๆ
ข้อสังเกต
               - หลักสูตรมีแนวทางในการพัฒนาศักยภาพและทักษะการเรียนให้กับนักศึกษาอย่างชัดเจนใน 2 ประเด็น คือ ภาษาและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทั้งนี้ในด้านพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษได้ดำเนินการผ่านรายวิชา PEG401 ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หากมีผลประเมินจากนักศึกษาจะช่วยสะท้อนผลจากการดำเนินการชัดเจนมากขึ้น
               - หลายโครงการถึงแม้จะจัดในระดับคณะ แต่เป้าหมาย/ผู้เข้าร่วมงาน คือ อาจารย์และนักศึกษาในหลักสูตร ซึ่งน่าจะสามารถอ้างอิงในส่วนนี้เป็นการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาของสาขาได้เช่นกัน (โครงการรัฐศาสตร์เสวนา, โครงการรัฐศาสตร์รังสิตตำบลหลักหก, การจัดแสดงวิสัยทัศน์ เทียบวิสัยทัศน์ งัดนโยบาย ซึ่งจัดโดยนักศึกษา)

 
การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - แนวทางการพัฒนาส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลการวิจัย  ที่รายงานไว้ เป็นแนวทางที่ดีและสอดคลัองกับศาสตร์สาขาวิชา  ขอให้ดำเนินการต่อไปให้สำเร็จ           
   
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - ในปีการศึกษาต่อไป  ควรจัดทำกำหนดกิจกรรมและโครงการพัฒนาส่งเสริมนักศึกษา ไว้ในแผนปฏิบัติการประจำปี เพื่อขออนุมัติงบประมาณจากมหาวิทยาลัย  ในแนวทางการส่งเสริมนักศึกษาด้านการวิจัย และการคัดเลือกผลงานที่ดีเพื่อเผยแพร่ นั้นเป็นแนวทางที่ดี เห็นสมควรดำเนินการต่อไป
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาช่องทางที่สื่อสารและแสดงผลงานวิจัยให้เหมาะสม เช่น เว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เปิดให้นักศึกษาและผู้สนใจได้รับรู้ผลงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกฝนทักษะการนำเสนองานและการสื่อสาร 
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจัดกิจกรรมหรือเครือข่ายที่เชื่อมโยงกับองค์กรหรือสถาบันที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นักศึกษามีโอกาสเข้าร่วมงานวิจัยและกิจกรรมสร้างสรรค์นอกที่
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถสร้างบรรยากาศที่กระตุ้นและสนับสนุนให้นักศึกษารู้สึกกระตือรือร้นในการทำงานวิจัย เช่น การเปิดโอกาสให้เข้าร่วมอบรมหรือกิจกรรมสร้างสรรค์
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาพื้นที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เชื่อมโยงกับเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้นักศึกษาสามารถทำงานวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจัดบรรยายหรือสัมมนาเกี่ยวกับการวิจัย การสร้างความเข้าใจในกระบวนการวิจัย และการปรับใช้ทักษะเหล่านี้ในงานวิจัยจริง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีกระบวนการประเมินและปรับปรุงโครงการเผยแพร่งานวิชาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ

               ดังนั้น จากข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง ของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตขั้งต้น จะช่วยหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้แก่นักศึกษาในการทำงานวิจัย งานสร้างสรรค์ และนวัตกรรม และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับนักศึกษาในการนำความรู้และสร้างสรรค์เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติอย่างมีประสิทธิภาพ
               - โครงการส่งเสริมการสร้างงานวิจัยและการเผยแพร่ผลงานวิจัยของนักศึกษารัฐศาสตร์เป็นโครงการที่มีแนวคิดที่ดี น่าสนใจ หากหลักสูตรผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นได้จริงในปีการศึกษา 2566 จะเกิดประโยชน์สูงสุดให้กับนักศึกษา

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เอกสารหลักฐาน  ไม่ตรงกับตัวบ่งชี้  ขอให้จัดเอกสารเพิ่มเติมต่อไปนี้
1. แผนการพัฒนาส่งเสริมนักศึกษา ปีการศึกษา 2565
2. รายงานการประชุมที่มีวาระการรายงานผลการดำเนินงาน  หรือ PDCA โครงการหรือกิจกรรมการพัฒนาส่งเสริมนักศึกษา


 

[ตัวบ่งชี้ 3.3] ผลที่เกิดกับนักศึกษา

หลักสูตรเปิดปีการศึกษา 2554 เป็นหลักสูตร 4 ปี (สำเร็จการศึกษาปีแรก: 2557)
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การคงอยู่
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2563
ร้อยละ 80.60
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2564
ร้อยละ 76.20
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 68.50
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

               ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นในผลการดำเนินงานเรื่อง "อัตราการคงอยู่ของนักศึกษา"  คือ พฤติกรรมการเรียนรู้ของนักศึกษา และการรับรู้ถึงความสำคัญของการศึกษาที่มีคุณภาพและการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยเรื่องนี้ส่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้รับผิดชอบในหลักสูตรรับใช้การพัฒนาความรู้และทักษะที่เหมาะสมสู่นักศึกษามากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้วิธีการสอนที่ทันสมัยและเหมาะสมกับบรรยากาศการเรียนการสอนปัจจุบัน

แนวทางเสริมที่สามารถนำไปพัฒนา คือ

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาถึงการสอนเนื้อหาทางวิชาการในรูปแบบที่น่าสนใจและท้าทาย เพื่อกระตุ้นความสนใจและกระตุ้นให้นักศึกษามีการเรียนรู้ที่เข้มข้นมากขึ้น การนำเข้าเครื่องมือเทคโนโลยีและแหล่งข้อมูลออนไลน์ในกระบวนการสอนก็สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้ได้
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการสร้างระบบการติดตามและช่องทางในการให้คำปรึกษาทางวิชาการแก่นักศึกษา โดยเน้นการช่วยเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และการจัดการเวลา ทั้งยังให้คำแนะนำเกี่ยวกับการวางแผนการเรียนและการก้าวสู่อนาคต
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะที่สำคัญในการดำเนินชีวิตหลังจบการศึกษา รวมถึงการเสริมสร้างทักษะความคิดริเริ่มและการแก้ปัญหา เพื่อให้นักศึกษาพร้อมที่จะเผชิญกับสถานการณ์และท้าทายต่างๆ ในอนาคต
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาแนวทางในการปรับปรุงเนื้อหาการเรียนรู้และการสอนตามความเปลี่ยนแปลงของสังคมและตลาดแรงงาน รวมถึงการเพิ่มความยืดหยุ่นในการเลือกเนื้อหาเพื่อให้ตรงกับความต้องการของนักศึกษาและสังคมในปัจจุบันและอนาคต
               5. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างสภาวะที่ท้าทายและแรงจูงใจให้แก่นักศึกษาในการเรียนรู้ โดยการสร้างกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ที่น่าสนใจและมีประโยชน์ รวมถึงการให้ความรู้สึกว่าการเรียนรู้เป็นสิ่งที่สนุกและมีคุณค่า

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - ขอให้รายงานเพิ่ม (ถ้ามี) การลดลงของอัตราการคงอยู่ คาดว่าเกิดจากสาเหตใด
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการตระหนักถึงสาเหตุที่นักศึกษาพ้นสภาพและพยายามแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เช่น การให้คำปรึกษาและสนับสนุนทางทฤษฎีและทางปฏิบัติให้แก่นักศึกษา โดยเน้นการเรียนรู้เชิงบวกเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นและความกระตือรือร้นในการเรียนรู้
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาการนำเข้าเครื่องมือและเทคโนโลยีในกระบวนการสอน เพื่อทำให้การเรียนรู้มีความน่าสนใจและเป็นไปในทิศทางที่นักศึกษาสามารถนำความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาจริงได้
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างระบบการติดตามและประเมินผลเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการพัฒนาของนักศึกษาและการดำเนินงานของหลักสูตร นอกจากนี้ยังสามารถรวบรวมข้อเสนอแนะจากนักศึกษาเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอนได้อีกด้วย
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการวิเคราะห์และปรับปรุงหลักสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษาและสังคมในปัจจุบัน รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการสอนและเนื้อหาเพื่อให้เหมาะสมกับสภาวะการเรียนรู้ของนักศึกษาในยุคปัจจุบัน
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการสร้างกิจกรรมและโครงการที่เชื่อมโยงกับเนื้อหาการเรียนรู้ในหลักสูตร และสร้างแรงจูงใจให้แก่นักศึกษาในการเรียนรู้ด้วยเทคนิคที่หลากหลาย เช่น การใช้เครื่องมือเทคโนโลยีในการสอนและการเรียนรู้
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีวิธีการเสริมสร้างความรู้และทักษะทางการสอนของอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้มีความเข้มแข็งทางวิชาการและสามารถทำการสอนได้อย่างน่าสนใจและเต็มไปด้วยความเข้าใจ

 
การสำเร็จการศึกษา
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2563
ร้อยละ 49.60
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2564
ร้อยละ 63.40
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 51.10
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- รายงานเพิ่ม (ถ้ามี) สาเหตุการลดลงของอัตราสำเร็จการศึกษา
 
ความพึงพอใจและผลการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2563 ร้อยละ 4.35
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2564 ร้อยละ 4.77
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 4.87
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีขั้นตอนในการบริหารจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษาอย่างชัดเจน โดยแบ่งเป็นขั้นตอนต่างๆ เช่น การยื่นข้อร้องเรียน การพิจารณาข้อร้องเรียน การรายงานผลการพิจารณาและการดำเนินการแก้ไขปัญหา ทำให้นักศึกษารู้เกี่ยวกับกระบวนการและสามารถติดตามผลได้อย่างชัดเจน
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มีคณบดีและรองคณบดีที่มีความรับผิดชอบในการพิจารณาและแก้ไขข้อร้องเรียนของนักศึกษามีบทบาทสำคัญในการให้ความเข้าใจและช่วยแก้ไขปัญหาให้กับนักศึกษาอย่างเหมาะสม
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการรายงานผลการพิจารณาข้อร้องเรียนของนักศึกษาต่อที่ประชุมกรรมการบริหารหรือคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นการแสดงความโปร่งใสและเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ เพื่อให้นักศึกษาและสาธารณชนทราบและเข้าใจถึงกระบวนการและผลการพิจารณา

แนวทางเสริมที่สามารถนำไปพัฒนา คือ

               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถส่งเสริมให้นักศึกษามีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการจัดการข้อร้องเรียน รวมถึงสิทธิและหน้าที่ของผู้รับผิดชอบในการดำเนินการแก้ไขปัญหา
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการจัดทำฐานข้อมูลเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและสถิติเกี่ยวกับข้อร้องเรียนของนักศึกษาในระยะยาวจะช่วยให้หลักสูตรมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนากระบวนการจัดการ
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถสร้างโอกาสให้นักศึกษาเรียนรู้จากกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนของคนอื่น และสร้างการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ผ่านการศึกษาแบบเรียนรู้จากประสบการณ์ของตนเองและผู้อื่น
               - หลักสูตรดูแลนักศึกษาได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษา (94 คน) ให้คะแนนเต็ม 5 ทั้งด้านการรับและการเตรียมความพร้อม, การให้คำปรึกษาและแนะแนว รวมทั้งการส่งเสริมศักยภาพนักศึกษา

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

               ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงในผลการดำเนินงานเรื่อง "ความพึงพอใจและผลการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา" ของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถสรุปได้ดังนี้
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาการแจ้งเตือนและสื่อสารกับนักศึกษาในกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนอย่างเป็นระบบและมีความชัดเจนมากขึ้น เช่น การแจ้งเตือนผ่านช่องทางออนไลน์หรืออื่นๆ เพื่อให้นักศึกษาทราบถึงขั้นตอนและผลการจัดการข้อร้องเรียนอย่างทันเวลา
               2. หากเป็นไปได้ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนให้แก่นักศึกษา เช่น การจัดทำคู่มือหรือเว็บไซต์ที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอน ความรับผิดชอบ และระยะเวลาที่ต้องการ  
             3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจพัฒนาระบบการรายงานข้อร้องเรียนออนไลน์เพื่อให้นักศึกษาสามารถรายงานปัญหาที่พบได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างโอกาสให้คณาจารย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้รับการอบรมเพิ่มเติมในด้านการจัดการข้อร้องเรียนและการสื่อสารจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นและความรู้ในการดำเนินงาน
               5. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการติดตามและประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อกระบวนการจัดการข้อร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง และนำความคิดเห็นดังกล่าวมาปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือกับข้อร้องเรียนในอนาคต
               6. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างภาพลักษณ์ที่ดีในการจัดการข้อร้องเรียน โดยเน้นความโปร่งใส ความเปิดเผย และความรับผิดชอบในการแก้ไขปัญหา
               7. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรจัดทำรายงานเกี่ยวกับข้อร้องเรียนที่เข้ามาและผลการจัดการเพื่อให้สามารถสืบเนื่องและปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 3 (3 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.33 คะแนน

องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์

[ตัวบ่งชี้ 4.1] การบริหารและพัฒนาอาจารย์

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ระบบการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
จุดเด่น
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมุ่งเน้นความเข้าใจคุณสมบัติและวุฒิการศึกษาที่ตรงหรือเกี่ยวข้องกับหลักสูตรสาขารัฐศาสตร์ เช่น การมีความรู้ความสามารถในด้านรัฐศาสตร์และผลงานทางวิชาการที่มีความเกี่ยวข้อง
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบนี้มีการตั้งเกณฑ์ในการพิจารณาตามผลงานทางวิชาการด้านรัฐศาสตร์ โดยอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต้องมีผลงานอย่างน้อย 1 ชิ้นในรอบ 5 ปี ซึ่งเป็นเครื่องมือในการประเมินความเชี่ยวชาญและคุณภาพของอาจารย์
แนวทางเสริม

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นกลางสำหรับการพัฒนาอาจารย์ในด้านต่างๆ เช่น การให้โอกาสเข้าร่วมสัมมนา การเสริมสร้างทักษะการสอนและการวิจัย
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีกระบวนการรับฟังความคิดเห็นจากอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ที่เข้าร่วมสอน เพื่อปรับปรุงกระบวนการให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของอาจารย์และหลักสูตร
               3. หากมีอาจารย์ที่มีความสนใจและความคิดสร้างสรรค์ในด้านรัฐศาสตร์ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการสนับสนุนในการผลิตผลงานทางวิชาการอย่างต่อเนื่อง เช่น การสนับสนุนในการเขียนบทความวิชาการ การนำเสนองานที่ประชุมวิชาการ และการสร้างสรรค์เนื้อหาการเรียนรู้

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - ในปีต่อไปให้รายงานระบบและกลไกการรับและแต่งตั้งอาจารย์ประจำ เพิ่มเติมจากการกำหนดคุณสมบัติของอาจารย์ประจำ
               - การบริหารและพัฒนาอาจารย์เป็นเรื่องสำคัญในการให้การศึกษาของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตที่มีคุณภาพและสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมและวิทยาการในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงเรื่องการเลือกและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร โดยหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต
               1) ควรมีการคัดเลือกอย่างเข้มงวดตามคุณสมบัติที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถและคุณภาพเพียงพอในการพัฒนาและจัดการหลักสูตรอย่างมีประสิทธิผล 
               2) หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการพัฒนาทางวิชาการ การให้โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาความสามารถในทางต่างๆ เช่น การเข้าร่วมสัมมนา การสนับสนุนงานวิจัย และการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์
               3) หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการให้อาจารย์สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงในวิทยาการและสังคมได้อย่างเหมาะสม โดยควรมีการส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถให้ตรงกับเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ โดยการให้โอกาสในการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองเพื่อให้มีความรู้ความสามารถที่เข้าข้างกับแนวความคิดใหม่ๆ และการเตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาทางวิชาการ
               4) อาจารย์ในหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรได้รับการสนับสนุนในการเผยแพร่ผลงานวิชาการผ่านการเขียนบทความในวารสารทางวิชาการ การนำเสนองานที่ประชุมวิชาการ และการสร้างพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความรู้ ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักศึกษาและสังคมวิชาการในความสามารถของอาจารย์ในการสอนและวิจัย

 
ระบบการบริหารอาจารย์:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีระบบการจัดแบ่งภาระงานสอนของหลักสูตรที่เข้ากับระเบียบของมหาวิทยาลัยรังสิตทำให้การสอนและงานบริหารรวมถึงงานวิจัยสามารถแบ่งแยกอย่างมีความเหมาะสมตามตำแหน่งและภาระงานของอาจารย์แต่ละท่านได้อย่างถูกต้อง
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมี ระบบการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีกำหนดและเงื่อนไขเฉพาะทำให้นักศึกษาสามารถเข้าพบและขอคำปรึกษาจากอาจารย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการกำหนดเกณฑ์ในการมีผลงานวิชาการที่ต้องประสบความสำเร็จเพื่อการแต่งตั้งและเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการชักนำให้อาจารย์มีแรงจูงใจในการพัฒนาทักษะและการทำงานวิชาการ รวมถึงการร่วมมือในกิจกรรมคณะที่เพิ่มคุณค่าให้กับการบริหารงานทั้งหลาย

แนวทางเสริม

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์มีการสร้างผลงานวิชาการในระดับต่าง ๆ ทั้งการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการระดับนานาชาติและการเขียนบทความทางวิชาการ เพื่อสร้างชื่อเสียงในวงการวิชาการ
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนานโยบายการเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้มีความยืดหยุ่นและเป็นไปตามความต้องการของนักศึกษา โดยให้คำปรึกษาออนไลน์หรือนอกเวลา office hours ในกรณีที่เหมาะสม
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์ร่วมมือในกิจกรรมคณะอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแค่เพื่อสร้างคุณค่าให้กับคณะและนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังเพื่อสร้างบรรยากาศการทำงานที่ร่วมมือและผูกพันกัน
               - จุดเด่น : หลักสูตรบริหารและพัฒนาอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จนมีคุณวุฒิที่สูงขึ้น สำเร็จปริญญาเอก 2 ท่าน รวมทั้งได้รับทุนสนับสนุนงานวิจัยจากสถาบันวิจัย

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาตรงนี้เพื่อให้สามารถจัดกำหนดภาระงานสอนให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของแต่ละอาจารย์และหลักสูตร อาจคำนึงถึงการให้ความยืดหยุ่นในการรับภาระงานสอนที่มากขึ้นในกรณีที่มีผลงานวิชาการที่ดี
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนานโยบายที่สนับสนุนให้อาจารย์สามารถเผยแพร่ผลงานวิชาการอย่างกว้างขวางทั้งในระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงการส่งเสริมการเข้าร่วมงานประชุมวิชาการระดับสากล

แนวทางปรับปรุง

               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการประเมินและปรับปรุงระบบการบริหารอาจารย์ในแต่ละปี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาแนวทางในการสร้างบรรยากาศและแรงจูงใจให้กับอาจารย์ในการร่วมมือและเข้าร่วมกิจกรรมคณะอย่างสม่ำเสมอ
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้โอกาสและสนับสนุนให้แก่อาจารย์ในการพัฒนาทักษะและความรู้เพื่อเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนให้แก่อาจารย์ในการทำงานวิจัยและสร้างผลงานทางวิชาการอย่างมีคุณภาพ

 
ระบบการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ให้มีคุณภาพทั้งด้านความรู้ ความสามารถในเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ สามารถก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่ มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาศาสตร์ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น คือ
              - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีข้อเสนอให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่อายุยังไม่เกิน 50 ปีได้ลาศึกษาต่อในระดับปริญญาเอก จะช่วยเพิ่มความรู้และความเชี่ยวชาญของบุคลากรในเนื้อหาวิชาที่เป็นความรับผิดชอบของตน ทำให้มีความเข้าใจลึกซึ้งและสามารถพัฒนาเนื้อหาการสอนอย่างมีคุณภาพได้
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการอบรมเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนให้กับบุคลากรทุกท่านจะเสริมสร้างทักษะและความรู้ในการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ การแบ่งปันประสบการณ์และข้อมูลในการสอนระหว่างบุคลากรในคณะจะช่วยเพิ่มมุมมองและวิธีการที่สามารถนำเข้าสู่กระบวนการการสอนได้
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีแผนการที่กำหนดให้ผู้รับผิดชอบหลักที่อายุเกิน 50 ปีเน้นไปที่การผลิตงานวิชาการ ช่วยสร้างแรงจูงใจให้บุคลากรเพิ่มความสามารถในการสร้างผลงานวิชาการที่มีคุณภาพและสร้างแรงจูงใจในการนำเสนอผลงานทางวิชาการในที่ประชุมคณะ
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีแผนการที่เน้นไปที่ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีอายุไม่เกิน 50 ปีให้ผลิตงานวิชาการเพื่อเตรียมตัวในการขอรับตำแหน่งทางวิชาการเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อเสริมความเชี่ยวชาญและมีความพร้อมในการรับผิดชอบตำแหน่งด้านวิชาการ

แนวทางเสริม

               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีอายุเกิน 50 ปีในการดำเนินงานวิจัยและผลิตผลงานวิชาการที่มีคุณภาพ เพื่อเสริมสร้างชื่อเสียงให้กับคณะและสถาบัน
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้โอกาสให้บุคลากรทุกท่านมีการฝึกฝนและพัฒนาทักษะการสื่อสารและการสอน เพื่อให้สามารถสื่อสารและสอนผู้เรียนให้เข้าใจได้ดียิ่งขึ้น
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรการสนับสนุนในการขอตำแหน่งทางวิชาการ: ควรมีการสนับสนุนและแนะนำในกระบวนการขอรับตำแหน่งทางวิชาการ พร้อมกับการจัดอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับผิดชอบตำแหน่งด้านวิชาการ
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีควรสร้างการเสริมสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้กับบุคลากร โดยให้โอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               1. ปัญหาที่ผู้รับผิดชอบการประกันคุณภาพการศึกษา ได้รายงานให้ทราบเกี่ยวกับการขาดความรับผิดชอบและให้ความสำคัญต่อการประกันคุณภาพการศึกษา  ส่งผลอย่างมากต่อผลงานในภาพรวม  เห็นสมควรนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการหลักสูตร หรือคณะกรรมการประจำคณะ  เพื่อแก้ไขปัญหา เพราะมีผลต่อความน่าเชื่อถือในเรื่องคุณภาพการศึกษาของหลักสูตร  หากปรากฏแ่ก่สายตาของผู้ประเมินภายนอก ไม่น่าจะส่งผลดีต่อภาพรวมของการบริหารคุณภาพของคณะวิชา  และส่งผลต่อมหาวิทยาลัยได้  
               2. สำหรับแนวทางแก้ไขปัญหาในปี 2566  ที่จะปรับระบบการติดตามการปฏิบัติงานของอาจารย์ประจำหลักสูตร  อาจจะไม่ได้ผล  ควรปรึกษาคณะกรรมการบริหารคณะหรือคณบดี  
               3. ควรมีแผนพัฒนาบุคลากร ประจำปี และการติดตามผลลัพธ์
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนในการศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกของผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่อายุยังไม่เกิน 50 ปีให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญและประโยชน์ของการศึกษาต่อในการพัฒนาความเชี่ยวชาญในวิชาชีพ นอกจากนี้ควรจัดกิจกรรมและอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อให้กับบุคลากรทุกท่าน
               5. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตจำเป็นต้องมีการเสริมสร้างทักษะการขอตำแหน่งทางวิชาการ เพื่อการพัฒนาทักษะและความพร้อมในการขอตำแหน่งทางวิชาการอย่างเข้มข้น โดยควรจัดการอบรมและสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่อายุไม่เกิน 50 ปีมีความรู้เกี่ยวกับขั้นตอนและข้อกำหนดในการขอตำแหน่งทางวิชาการ และสร้างเอกสารเกี่ยวกับผลงานและความเหมาะสมในการขอตำแหน่ง

แนวทางปรับปรุง
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างสภาวิจัยและสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีอายุเกิน 50 ปีมีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาวิชาชีพ ให้มีการเรียนรู้เรื่องการวิจัยและการเขียนเค้าโครงการวิจัยเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่กระบวนการขอรับทุนวิจัย
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเพิ่มการแนะนำและการอบรมในการขอตำแหน่งทางวิชาการสำหรับผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีอายุไม่เกิน 50 ปี เพื่อให้ทราบถึงขั้นตอนและข้อกำหนด รวมถึงการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องในการขอตำแหน่ง
               3. หลักสูตรสามารถเพิ่มเติมการเข้าร่วมเป็นวิทยากรของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในงานเสวนา/กิจกรรมต่างๆ (รังสิตเสวนา) ซึ่งแสดงถึงการมีความรู้ความสามารถที่ตรงกับศาสตร์ สามารถนำมาต่อยอดในการจัดการเรียนการสอน การวิจัยและพัฒนาในสาขาวิชาที่รับผิดชอบได้

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
- แผนพัฒนาบุคลากร 
- การติดตามการพัฒนาบุคลากร
- การมอบหมายภาระงานต่างๆ  ให้กับผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้ง 5 คน 
- รายงานผลการปฏิบัติ ปี 2565

 

[ตัวบ่งชี้ 4.2] คุณภาพอาจารย์

4.2.1 ร้อยละของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5 5.00
[2] จำนวนอาจารย์ที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก 3
[3] ร้อยละที่ได้ [2] X 100 / [1] 60.00
[4] ผลลัพธ์ที่ได้ [3] X 5 / 20 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกเป็นจำนวนถึงร้อยละ 60 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ได้กำหนดไว้
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
4.2.2 ร้อยละของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5 1.67
[2] ไม่มีตำแหน่งทางวิชาการ [อาจารย์] 4
[3] ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ 1
[4] ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ 0
[5] ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ 0
[6] ดำรงตำแหน่งทางวิชาการทั้งหมด [3] + [4] + [5] 1
[7] ร้อยละที่ได้ [6] X 100 / [1] 20.00
[8] ผลลัพธ์ที่ได้ [7] x 5 / 60 1.67
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- การเพิ่มจำนวนอาจารย์ ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ  
- ข้อสังเกต หลักสูตรมีแผนพัฒนาอาจารย์อย่างต่อเนื่อง และอาจารย์ประจำหลักสูตรเริ่มมีผลงานวิจัย คาดว่าในอีกไม่นาน อาจารย์ประจำหลักสูตรจะสามารถยื่นขอตำแหน่งทางวิชาการได้จำนวนมากขึ้น

 
4.2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
หมายเหตุ เป็นผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในรอบปีที่รับการประเมินเท่านั้น [ช่องไหนไม่มีผลงานให้ใส่ 0 ไม่ปล่อยว่าง]
จำนวนผลงานทางวิชาการตามค่าถ่วงน้ำหนัก
ค่าถ่วงน้ำหนัก 0.20 0.40 0.60 0.80 1.00
จำนวนผลงาน (ชิ้น) 0 2 1 0 0
จำนวนผลงานสร้างสรรค์ตามค่าถ่วงน้ำหนัก
ค่าถ่วงน้ำหนัก 0.20 0.40 0.60 0.80 1.00
จำนวนผลงาน (ชิ้น) 0 0 0 0 0
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] ผลรวมถ่วงน้ำหนักที่ได้ 1.40 5.00
[2] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5
[3] ร้อยละที่ได้ [1] X 100 / [2] 28.00
[4] ผลลัพธ์ที่ได้ [3] X 5 / 20 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีการดำเนินงานวิจัยอย่างต่อเนื่อง และผลิตผลงานวิชาการที่มีคุณภาพ 
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- กำกับติดตามการตีพิมพ์เผยแพร่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร  โดยกำหนดเป้าหมายให้มีการตีพิมพ์ในแต่ละปี อย่างน้อย 1 เรื่อง  
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์มีการสร้างผลงานวิชาการในระดับต่างๆ ทั้งการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการระดับนานาชาติและการเขียนบทความทางวิชาการ เพื่อสร้างชื่อเสียงในวงการวิชาการด้านรัฐศาสตร์

 
รายการหลักฐาน ตัวบ่งชี้ 4.2 คุณภาพอาจารย์
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ตัวบ่งชี้ 4.2 คุณภาพอาจารย์ คะแนนที่ได้ 3.89 คะแนน

[ตัวบ่งชี้ 4.3] ผลที่เกิดกับอาจารย์

คะแนนที่ได้ 4
หมายเหตุ :
(1) ยกเว้นกรณี การเกษียณอายุงาน และการเสียชีวิต
(2) หากรายชื่อมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากปรับเข้าเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2558 ให้ถือว่าอัตราการคงอยู่ครบในปีการศึกษาแรกที่ปรับเข้าเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร 2558
(3) หากรายชื่อที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบท่านใหม่ต้องมีประสบการณ์ร่วมบริหารหลักสูตรมาไม่น้อยกว่า 9 เดือน (มีหลักฐานรายงานการประชุมภาควิชาหรือการประชุมหลักสูตร)
(4) รายงานถึงสิ้นสุดปีการศึกษา 2565 และจะได้รับการประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต้องประเมิน จาก ≥ 3 ชุดข้อมูล
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
          แนวโน้มอยู่ในระดับดีมากโดยตลอดระยะเวลา 3 ปี
 
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               ในปีการศึกษา 2564 และ 2565 นั้น อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรคงอยู่โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงรายชื่ออาจารย์ ทำให้ความเสถียรและความต่อเนื่องในการบริหารจัดการหลักสูตรเพิ่มขึ้น เนื่องจากอาจารย์ผู้รับผิดชอบเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในสาขาวิชาเฉพาะด้านและสามารถให้คำปรึกษาและแนะนำทั้งในด้านวิชาการและการพัฒนาบุคลิกภาพของนักศึกษาได้อย่างเหมาะสม

               แนวทางเสริมที่สามารถนำเข้าไปพัฒนาต่อยอดในเรื่อง "การคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร" คือการเสริมสร้างระบบการฝึกอบรมและการพัฒนาทักษะของอาจารย์ที่มีบทบาทในการรับผิดชอบหลักสูตร นอกจากความเชี่ยวชาญในด้านวิชาการแล้ว อาจารย์ยังควรได้รับการฝึกอบรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือการสอนที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถนำเสนอเนื้อหาการเรียนรู้อย่างน่าสนใจและมีประสิทธิภาพสูงสุดในสถานการณ์การเรียนการสอนออนไลน์หรือเรียนรู้ผสมผสาน

               นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนานโยบายและกฎระเบียบที่สนับสนุนการดำเนินการของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรให้มีความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาวะแวดล้อมหรือในด้านการศึกษา ซึ่งจะช่วยให้อาจารย์สามารถปรับตัวและพัฒนาคุณภาพการสอนอย่างต่อเนื่องได้ในทุกสถานการณ์
 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตร
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

               ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นจากผลการดำเนินงานเรื่อง "ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตร" ในปีการศึกษา 2564 คือการสำรวจและประเมินความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในด้านต่าง ๆ ซึ่งสามารถแสดงถึงแง่ดีของการบริหารจัดการหลักสูตรดังนี้

               1. ด้านการรับและแต่งตั้งอาจารย์ประจำหลักสูตร: อาจารย์มีระดับความพึงพอใจเฉลี่ยสูงถึง 4.85 คะแนน คะแนนที่สูงนี้แสดงถึงความพึงพอใจที่สูงของอาจารย์ในเรื่องของการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร โดยมีเกณฑ์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับวุฒิการศึกษาและงานวิชาการของอาจารย์ที่จะรับผิดชอบหลักสูตร
               2. ด้านการบริหารอาจารย์: คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.60 คะแนน หลักสูตรมีแผนงานที่ชัดเจนในการแจกจ่ายภาระงานที่เหมาะสมให้กับอาจารย์แต่ละท่าน นี่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แต่ละอาจารย์สามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับภาระงานที่ได้รับ
               3. ด้านการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์: คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.65 คะแนน แม้ว่าบางอาจารย์อาจอยู่ในช่วงการทำวิจัยและการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในช่วงเวลาที่ผ่านมา แต่หลักสูตรยังคงมีการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ในด้านทักษะการสอนและการพัฒนาตนเอง

แนวทางเสริมที่สามารถนำเข้าไปพัฒนาต่อยอดในเรื่อง "ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร" คือ
               1. เพิ่มการให้คำปรึกษาและการสนับสนุนในด้านการวางแผนและการพัฒนาอาจารย์ เช่น การให้โอกาสในการเข้าร่วมโครงการฝึกอบรม การเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการ เพื่อเสริมสร้างความเชี่ยวชาญในการสอนและการวิจัย
               2. พัฒนาการวัดและประเมินความพึงพอใจของอาจารย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของสถานการณ์ในระยะยาว
               3. สร้างช่องทางสื่อสารและการติดต่อกับอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและผู้บริหารหลักสูตร เพื่อให้มีช่องทางในการแสดงความคิดเห็น และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

               ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงจากผลการดำเนินงานเรื่อง "ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต" ในปีการศึกษา 2564 สามารถสรุปอคิดเห็น ได้ดังนี้

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีกระบวนการที่โปร่งใสและมีเกณฑ์ที่ชัดเจนในการคัดเลือกและแต่งตั้งอาจารย์ประจำหลักสูตร โดยให้ความสำคัญกับคุณสมบัติวุฒิการศึกษาและงานวิชาการ
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาแผนการจัดส่วนแบ่งภาระงานให้เหมาะสมกับตำแหน่งและหน้าที่ของอาจารย์แต่ละคน และเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับปรุงในกรณีภาระงานที่เปลี่ยนแปลง
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมการทำวิจัยและพัฒนาอาจารย์เพื่อเป็นการสร้างโอกาสและสนับสนุนให้อาจารย์มีเวลาและทรัพยากรในการทำวิจัยและพัฒนาตนเองโดยที่ไม่ต้องสูญเสียคุณภาพการสอนและการบริหารงาน
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรจัดการอบรมและพัฒนาทักษะที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะการบริหารจัดการสำหรับอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในการบริหารหลักสูตร
               5. ข้อสังเกต ตัวเลขในตารางความพึงพอใจของผู้รับผิดชอบหลักสูตร ปี 2565 ไม่ตรงกับในเอกสารหลักฐาน และตัวเลขในคำบรรยายท้ายตารางตรงกับในเอกสารหลักฐาน แต่ไม่ตรงกับตาราง

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 4 (3 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.63 คะแนน

องค์ประกอบที่ 5 หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน

[ตัวบ่งชี้ 5.1] สาระของรายวิชาในหลักสูตร

45
38
84.44
คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การออกแบบหลักสูตร และสาระรายวิชาในหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน มีหลักสูตรหรือรายวิชาที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ
               1. หลักสูตรมีการปรับปรุงอย่างน้อย 1 ครั้งในรอบ 5 ปี โดยเป็นการพิจารณาและปรับปรุงสาระรายวิชาในหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการและความเปลี่ยนแปลงในวงการวิชาชีพ
               2. หลักสูตรได้สร้างความร่วมมือกับสถานประกอบการ โดยให้นักศึกษามีโอกาสศึกษาและปฏิบัติงานในสถานประกอบการ เพื่อเพิ่มประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในศาสตร์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน
               3. หลักสูตรได้รับข้อมูลและความคิดเห็นจากนักศึกษาเพื่อปรับปรุงสาระรายวิชาและหลักสูตรให้สอดคล้องกับความต้องการและความพึงพอใจของผู้เรียน

แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างความร่วมมือกับสถานประกอบการและอุตสาหกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ที่หลสกหลาย เพื่อให้นักศึกษาได้สัมผัสประสบการณ์จริงและพัฒนาทักษะที่ตรงตามความต้องการของตลาด 
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรทำการสำรวจและประเมินความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบันและอนาคต โดยนำข้อมูลนี้มาปรับปรุงสาระรายวิชาในหลักสูตรเพื่อให้ผู้เรียนเตรียมความพร้อมในการทำงาน
               3. นอกจากการปรับปรุงสาระรายวิชาและหลักสูตรแล้ว หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตยังควรพัฒนาวิธีการสอนและการเรียนรู้ที่เน้นการปฏิบัติจริงและการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์จริง
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างพื้นที่และโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักศึกษาและบุคลากรสถานประกอบการ เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
               5. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างระบบการประเมินและการติดตามความสำเร็จของนักศึกษาในการนำความรู้และทักษะไปใช้ในสถานการณ์จริง
               6. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีกระบวนการปรับปรุงที่ต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงในสังคมและวงการวิชาชีพอย่างเต็มที่

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่ควรพัฒนา คือ
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการปรับปรุงหลักสูตรเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงในวงการวิชาชีพควรเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่อง โดยการนำเข้าข้อมูลใหม่และปรับปรุงสาระรายวิชาตลอดเวลาเพื่อให้คงอยู่ในรูปแบบที่เข้ากับความต้องการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาวิธีการสอนที่นำเข้าเทคโนโลยีและสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีความสะดวกและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นสำหรับนักเรียน
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาความร่วมมือกับสถานประกอบการในรูปแบบที่เข้ากับความต้องการของตลาดแรงงาน การให้นักศึกษามีโอกาสฝึกงานและปฏิบัติการในสถานประกอบการจะช่วยเสริมสร้างความเชี่ยวชาญที่จำเป็นในการทำงานจริง
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรจัดทำกระบวนการตรวจสอบสาระรายวิชาและวิธีการสอนอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจพบจุดที่ต้องปรับปรุงและปรับปรุงให้เข้ากับแนวความคิดใหม่ ๆ

แนวทางปรับปรุง คือ
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรตรวจสอบสาระรายวิชาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แม่นยำและเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในวงการวิชาชีพ
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาการสอนออนไลน์และแหล่งเรียนรู้ออนไลน์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้และสร้างประสบการณ์การเรียนที่น่าสนใจ                
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีกระบวนการประเมินและตรวจสอบหลักสูตรอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจสอบความเหมาะสมและประสิทธิภาพของการเรียนรู้
ข้อสังเกต

               - ตารางหน้า 72 คอร์ลัมสุดท้าย เรื่องของรายละเอียดของหัวข้อที่มีการปรับปรุงให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางวิชาการ/วิชาชีพ นั้นหากลงรายละเอียดเป็นหัวข้อในการเรียนที่ทำให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง เช่น การยกตัวอย่างหรือกรณีศึกษาในปัจจุบัน ก็เป็นการปรับปรุงได้เช่นกัน
               - (หากมี) หลักสูตรสามารถรายงานเรื่องของการปรับสาระรายวิชาในส่วนนี้ได้ เช่น อาจมีรายวิชาที่มีการปรับสาระการสอนที่ทันสมัย หรือ การที่นักศึกษาไปสหกิจศึกษากับหน่วยงานภายนอก ทำให้เกิดความร่วมมือจากผู้ประกอบการภายนอก เป็นต้น

 

การปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยตามความก้าวหน้าในศาสตร์สาขานั้นๆ และเชื่อมโยงกับการนำไปใช้ได้จริง
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น คือ 
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีกระบวนการปรับปรุงหลักสูตรได้มีการรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของนักศึกษา โดยมีคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรและมาตรฐานการศึกษาที่เข้าใจและสนับสนุนในกระบวนการนี้
               2. หลักสูตรได้มีการปรับปรุงสาระรายวิชาและโครงสร้างหลักสูตรให้เป็นไปในทิศทางของความก้าวหน้าในสาขาวิชานั้นๆ โดยการเน้นความทันสมัยและเข้ากับความเปลี่ยนแปลงในวงการ

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง คือ
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างชุมชนการเรียนรู้ที่สนับสนุนการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างนักศึกษาและบุคลากรการศึกษา และสถานประกอบการ เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรทำการสำรวจและวิเคราะห์ความต้องการของตลาดแรงงานในขณะนั้นและในอนาคตเพื่อปรับปรุงหลักสูตรให้เหมาะสมกับการทำงานจริง

 

มีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้นำเสนอการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ชัดเจนตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิที่ถูกครอบคลุมไปทั้ง 3 ด้านคือ Learner Person, Innovative Co-Creator, และ Active Citizen ซึ่งช่วยให้นักศึกษามีการเตรียมความพร้อมทั้งในด้านความรู้และทักษะเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมอันแตกต่างกัน
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้แบ่งการเรียนรู้เป็น 3 ด้านตามความต้องการของผู้เรียน โดยไม่เพียงแค่การส่งผลลัพธ์การเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีความรู้และทักษะในด้านต่างๆ แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลิกภาพที่เหมาะสมกับแต่ละด้าน
               3. ผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้ถูกสร้างขึ้นในแง่ของวิสัยทัศน์และค่านิยมของหลักสูตร ทำให้การเรียนรู้มีความสอดคล้องและเกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่กำหนดไว้

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพัฒนาการเรียนรู้ที่เน้นการเรียนรู้ในรูปแบบที่ผู้เรียนสามารถเลือกตามความสนใจและเป้าหมายส่วนตัว
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างสภาวะที่สนับสนุนให้นักศึกษามีความกระตือรือร้นในการคิดค้นและสร้างสรรค์ความรู้และแนวทางใหม่
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรทำการสร้างโอกาสในการร่วมมือกับองค์กรและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้และการพัฒนาทักษะของผู้เรียนในสาขาวิชา

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ขอมคอ. 3  ของรายวิชาที่เปิดสอนในปีการศึกษา 2565 และทำจุดสังเกตการปรับปรุงกระบวนการจัดการเรียนการสอนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของศาสตร์ 

 

[ตัวบ่งชี้ 5.2] การวางระบบผู้สอน และกระบวนการจัดการเรียนการสอน

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดผู้สอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้สร้างระบบและกลไกในการกำหนดผู้สอนและการจัดการเรียนการสอนอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยการประชุมคณะกรรมการบริหารหลักสูตรเพื่อพิจารณาและคัดเลือกผู้สอนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ที่เหมาะสมกับวิชานั้นๆ
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการคัดเลือกอาจารย์ผู้สอนไม่เพียงแต่พิจารณาความรู้และความสามารถในการสอน แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ในการทำงาน การประเมินคะแนนการเรียนการสอนจากนักศึกษา และการทำให้ผู้สอนเป็นไปตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้จัดทำตารางสอนของอาจารย์แต่ละท่านและเผยแพร่ไว้ในห้องพักอาจารย์ เพื่อให้นักศึกษาสามารถติดต่อและเข้าพบอาจารย์ได้อย่างถูกต้องตามเวลา
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการกำหนดรายวิชาที่เปิดสอนในแต่ละภาคการศึกษาเพื่อป้องกันความสับสนและช่วยให้นักศึกษาวางแผนการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ

แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างระบบหรือช่องทางสื่อสารที่สะดวกให้นักศึกษาสามารถติดต่ออาจารย์เพื่อปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลได้ง่ายขึ้น
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์รับผิดชอบในการปรับวิธีการสอนให้เหมาะสมกับนักศึกษา และเสริมแนวคิดในการพัฒนาตนเองเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการสอน
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการติดตามและประเมินผลการสอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้หลักสูตรสามารถปรับปรุงกระบวนการการสอนให้มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของนักศึกษาได้

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงจากผลการดำเนินงานเรื่อง "การกำหนดผู้สอน" ของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถสรุปได้ดังนี้
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการประเมินผลการสอนจากนักศึกษาเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในการพัฒนากระบวนการการสอน ดังนั้น หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้นักศึกษาให้คำแนะนำและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงคุณภาพการสอน นอกจากนี้ควรให้การเปิดโอกาสให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมาเกี่ยวกับกระบวนการกำหนดผู้สอนเพื่อเข้าไปช่วยปรับปรุงด้วย
               2. จากการพบปัญหาในการประเมินผลการสอนของบางรายวิชา ดังนั้น หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้อาจารย์ผู้สอนมีการพัฒนาวิธีการสอนให้เหมาะสมกับนักศึกษามากขึ้น การรับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษาและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้กระบวนการสอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมการเรียนรู้
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสร้างระบบและกระบวนการตรวจสอบและประเมินผลของการปรับปรุงในกระบวนการกำหนดผู้สอน โดยการเก็บข้อมูลและการประเมินผลการพัฒนาจากนักศึกษาและอาจารย์ผู้สอน เพื่อให้สามารถปรับปรุงและปรับทิศทางการพัฒนาต่อไปได้อย่างตรงประเด็นและมีประสิทธิภาพ
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาเกณฑ์การคัดเลือกผู้สอนอย่างครอบคลุมและมีการประเมินอย่างทั้งหลาย รวมถึงการให้ความสำคัญในการรับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษาและการใช้ข้อมูลจากการประเมินผลการสอนเป็นหลักสำคัญในการตัดสินใจ
               5. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการใช้เทคโนโลยีในการสอนอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการเรียนรู้ และควรส่งเสริมให้อาจารย์มีการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่น่าสนใจและมีคุณภาพ

 

การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และการจัดการเรียนการสอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ

               1. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการกำกับและติดตามกระบวนการจัดทำแผนการเรียนรู้อย่างเข้มงวด โดยมีการกำหนดให้อาจารย์ผู้สอนจัดทำ มคอ.3 (แผนการเรียนรู้) และนำข้อมูลเข้าสู่ระบบออนไลน์ทันตามกำหนดการ นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนผ่านทาง E-mail เพื่อช่วยในการเตือนความสำคัญและการเร่งรีบในกรณีที่มีความล่าช้าในการอัพโหลด ทำให้กระบวนการเรียนการสอนเป็นไปอย่างราบรื่นและเชื่อมโยงกันอย่างมีประสิทธิภาพ
               2. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการติดตามกระบวนการเรียนการสอนของอาจารย์ประจำอย่างใกล้ชิด ผ่านการประชุมร่วมกันเดือนละ 1 ครั้ง นำมาเพื่อสอบถามเรื่องการเรียนการสอนแต่ละวิชา โดยการเก็บข้อมูลและติดตามสถานการณ์เรียนการสอนในขณะนั้น ช่วยให้สามารถปรับปรุงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างทันที
               3. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการนำผลการประเมินการเรียนการสอนของอาจารย์แต่ละรายวิชาเข้าสู่การประชุม ซึ่งเป็นช่องทางในการพิจารณาวิเคราะห์และหาแนวทางปรับปรุงในรายวิชาต่าง ๆ เพื่อให้กระบวนการสอนเป็นไปอย่างมีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของนักศึกษาอย่างเหมาะสม

แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ

               1. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรควรพิจารณาการใช้เทคโนโลยีในการติดตามและจัดการข้อมูลเกี่ยวกับแผนการเรียนรู้และการเรียนการสอน ซึ่งอาจช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพและความตรงเวลาในกระบวนการดังกล่าว
               2. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรสามารถสร้างแบบแผนการเรียนรู้ที่เป็นแนวทางเพื่อช่วยอาจารย์ในการจัดทำแผนการเรียนรู้ที่ครอบคลุมและตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษาอย่างเหมาะสม
               3. คณะกรรมการบริหารหลักสูตรควรเสริมสร้างการสื่อสารระหว่างอาจารย์ผู้สอนและคณะกรรมการเพื่อให้มีข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นประโยชน์สำหรับการปรับปรุงกระบวนการสอนในระยะยาว

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
การจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีที่มีการบูรณาการกับการวิจัย การบริการวิชาการทางสังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 

               1. หลักสูตรมุ่งสร้างความสัมพันธ์ระหว่างการเรียนรู้และงานวิจัย โดยให้นักศึกษาที่ลงทะเบียนในรายวิชา POL499 (สหกิจศึกษา) และ POL 498 (การศึกษาค้นคว้าอิสระ) เขียนรายงานผ่านรูปแบบของการวิจัย ทำให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ในการทำงานวิจัยและพัฒนาทักษะทางวิชาการอย่างเข้มแข็ง
               2. หลักสูตรมีการเตรียมความพร้อมในการให้บริการวิชาการในสังคม โดยการร่วมมือกับหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิตในการจัดกิจกรรมบริการวิชาการแบบสัมมนา ที่เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าร่วมและเสริมความรู้ในประเด็นที่น่าสนใจ และสามารถตั้งคำถามทางวิชาการได้อย่างเสรี
               3. หลักสูตรมีความมุ่งหวังที่จะสร้างความเข้าใจและความตระหนักรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทยในรูปแบบของแนวคิดพหุนิยม (pluralism) ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการรับรู้ความแตกต่างและประเด็นที่สำคัญในความหลากหลายของวัฒนธรรม

แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 

               1. หลักสูตรควรส่งเสริมให้นักศึกษามีความกระตือรือร้นในการทำงานวิจัย โดยจัดกิจกรรมสัมมนาหรืออบรมเพื่อเสริมสร้างทักษะวิจัยและเข้าใจกระบวนการวิจัยในระดับปริญญาตรี
               2. หลักสูตรควรสร้างระบบการสัมมนาหรือสนทนาทางวิชาการเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษามีการสอบถามและศึกษาเรื่องที่น่าสนใจในสังคม
               3. หลักสูตรควรเพิ่มการเน้นในการศึกษาเกี่ยวกับหลักการทางสังคมที่สร้างความยุติธรรม การเข้าใจถึงความสำคัญของแนวคิดพหุนิยมในการเป็นผู้รับรู้ความหลากหลายและการพูดคุยในสังคม
​​​​

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนาของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 
               1. หลักสูตรควรพัฒนาแผนการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะการวิจัยให้กับนักศึกษาในรายวิชาต่าง ๆ ไม่เพียงแค่ในรายวิชา POL499 และ POL 498 เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษามีโอกาสทดลองและฝึกฝนความสามารถในการทำงานวิจัย
               2. หลักสูตรควรพิจารณาการปรับปรุงเนื้อหาการสอนในวิชาที่มีความสอดคล้องกับการบริการวิชาการทางสังคม โดยการผสมผสานระหว่างเนื้อหาทางวิชาการและเนื้อหาทางประสานความรู้
               3. หลักสูตรควรพัฒนาแผนการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับแนวคิดพหุนิยม โดยการออกแบบเนื้อหาที่สามารถเชื่อมโยงกับความคิดพหุนิยมและความแตกต่างของวัฒนธรรม

แนวทางปรับปรุงของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ

               1. หลักสูตรควรส่งเสริมให้นักศึกษามีโอกาสทำโครงการวิจัยในรายวิชาต่าง ๆ ที่มีการบูรณาการกับการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มความหลากหลายในงานวิจัย
               2. หลักสูตรควรเสริมการร่วมมือกับหลักสูตรอื่น ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อสร้างกิจกรรมบริการวิชาการเสริมเพิ่มเติม เช่น การจัดสัมมนาหรือกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ในรูปแบบของเวิร์คช็อป

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 5.3] การประเมินผู้เรียน

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การประเมินผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร ตลอดจนมาตรฐานวิชาชีพ (ถ้ามี)
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้แบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 5 ด้านที่สอดคล้องกับผลลัพธ์การเรียนรู้แต่ละด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ที่มีความเกี่ยวข้องกับวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร โดยด้านดังกล่าวคือคุณธรรม จริยธรรม (AC), ความรู้ (IC), ทักษะทางปัญญา (LP), ทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (AC), และทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ (LP) ซึ่งช่วยให้นักศึกษาพัฒนาทักษะและความรู้ที่เข้ากับศาสตร์รัฐศาสตร์และสังคมที่เป็นมนุษย์ในแต่ละด้าน 
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้สร้างระบบและกลไกการประเมินผู้เรียนตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับมาตรฐานวิชาการและคณะกรรมการบริหารหลักสูตรที่ดูแลและกำกับดูแลในแต่ละปีการศึกษา การมีระบบที่เป็นระเบียบและมีการติดตามต่อเนื่องช่วยให้ผลการเรียนรู้ของนักศึกษาได้รับการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
               3. ในด้านคุณธรรมและจริยธรรม (AC) หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตได้กล่าวถึงการเสริมสร้างคุณค่าและคุณธรรมที่สำคัญ เช่น การเคารพความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม การเคารพสิทธิและรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น และการปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อบังคับต่างๆ ภายใต้หลักธรรมาภิบาลขององค์การและสังคม ผู้เรียนต้องเข้าใจและนำหลักทฤษฎีทางรัฐศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการเคารพคุณค่าและศักดิ์ศรีของมนุษย์

แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ 

               1. เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของ active citizen ให้นักศึกษา หลักสูตรควรให้การเรียนรู้ที่ชัดเจนเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม ผู้สอนควรเน้นให้นักศึกษาเข้าใจหลักเกณฑ์ในการอยู่ร่วมกันที่ยุติธรรมและความจำเป็นในการรักษาหลักเกณฑ์ดังกล่าว นอกจากนี้ นักศึกษาควรได้รับโอกาสเสนอหลักเกณฑ์ใหม่ที่เห็นว่าถูกต้องโดยใช้หลักเหตุผล.
               2. เพื่อเตรียมพร้อมให้กับการปฏิบัติหน้าที่ในการเป็น Co-Creator และ Active Citizen นักศึกษาควรได้รับการฝึกทักษะการสื่อสารและการวิเคราะห์เชิงตัวเลข ทักษะดังกล่าวจะช่วยให้นักศึกษาสามารถแสดงผลการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์และนำเสนอความคิดใหม่ผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศได้เป็นอย่างดี
               3. เพื่อเพิ่มการรับผิดชอบและความกระตือรือร้นของนักศึกษาในการเข้าเรียนตามเวลา นักศึกษาในของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรได้รับการเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมที่ไม่รับผิดชอบ ดังนั้น ผู้สอนควรให้โอกาสให้นักศึกษาเข้าเรียนเกินเวลาตามข้อตกลง โดยให้นักศึกษาจะสามารถอธิบายหลักเหตุผลและผลกระทบที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาเข้าใจและเรียนรู้จากประสบการณ์ 
               4. อาจารย์ในของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต สามารถเป็นตัวแบบสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนา active citizen ให้เกิดกับนักศึกษา ดังนั้น อาจารย์ควรแสดงคุณสมบัติและพฤติกรรมที่สอดคล้องกับแนวคิดของ active citizen เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่นักศึกษาในการมีส่วนร่วมและเป็นผู้รับผิดชอบต่อสังคม

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

               จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงจากผลการดำเนินงานในเรื่อง "การประเมินผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561" เพื่อครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนในด้าน Learner Person (LP), Innovative Co-Creator (IC), และ Active Citizen (AC) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร มีดังนี้
               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการส่งเสริมความกระตือรือร้นในการรับผิดชอบต่อสังคมและความเป็นผู้ดำเนินการในสังคม โดยนักศึกษาควรได้รับการเข้าใจถึงผลกระทบที่เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่รับผิดชอบ และมีความรู้เกี่ยวกับคุณค่า คุณธรรม จริยธรรม เสียสละ และซื่อสัตย์สุจริต แนวทางปรับปรุงคือการใช้วิธีการเรียนการสอนที่สอนให้นักศึกษาเห็นถึงความสำคัญของความรับผิดชอบและคุณค่าทางจริยธรรมต่อสังคมในทางทฤษฎีและการปฏิบัติ
               2. หากนักศึกษามีการขาดความเชี่ยวชาญในการนำเสนอและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้น หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรการให้การฝึกฝนในการเตรียมความพร้อมในการสื่อสาร นำเสนอข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอข้อมูลและการแก้ไขปัญหา 
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีการเสริมสร้างทักษะการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในนักศึกษา โดยการให้โอกาสในการปฏิบัติฝึกฝนในการวิเคราะห์ปัญหา ประยุกต์ความรู้ ทักษะ และการใช้เครื่องมือที่เหมาะสมในการแก้ไขสถานการณ์จริง
               4. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาเข้าใจถึงผลกระทบเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไร้ความรับผิดชอบและให้เหตุผลที่ชัดเจนว่าการรับผิดชอบเป็นอย่างไรและส่งผลยังสังคมอย่างไร และการนำหลักทฤษฎีมาเป็นพื้นฐานในการพัฒนาความรับผิดชอบและการเข้าใจในสังคม

 

การตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการทวนสอบโดยใช้การสอบวิจัย ซึ่งครอบคลุมความรู้ของนักศึกษาในหลากหลายวิชา
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หากมีรายงานถึงผลจากการสอบทวนสอบโดยใช้การวิจัยจะชัดเจนมากขึ้น เช่น จำนวนนักศึกษาที่ผ่านการทวนสอบในระดับดีมาก , ดี เป็นต้น และมีความแตกต่างจากปีที่ผ่านมาอย่างไร
 
การกำกับการประเมินการจัดการเรียนการสอน และประเมินหลักสูตร (มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7)
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
- ขอหลักฐาน เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ของตัวบ่งชี้ 5.3  ทั้งหมด

[ตัวบ่งชี้ 5.4] ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ

หมายเหตุ: KPI ให้สอดคล้องและเป็นไปตามที่ระบุใน มคอ.2
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อยร้อยละ 80 มีส่วนร่วมในการประชุมเพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนินงานหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

               ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นในผลการดำเนินงานของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต นั้น มีหลายประเด็นที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นที่ส่งผลให้หลักสูตรมีความคุ้มค่าและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน คือ

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความหลากหลายของรายวิชาที่เปิดสอนในหลักสูตร ทั้งสิ้น 45 วิชา ซึ่งช่วยให้นักศึกษาได้รับความรู้และทักษะที่ครอบคลุมทั้งด้านทฤษฎีและปฏิบัติ
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนในวิชาที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน 38 วิชา สื่อถึงความกระชับของหลักสูตรที่ปรับสมดุลระหว่างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับความเจริญทางวิชาชีพและความรู้ทางทฤษฎี.
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความร่วมมือของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อยร้อยละ 80 ในการประชุมเพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนินงานหลักสูตรเป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีในการดำเนินงานต่อไป

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงหลักสูตรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่ามากขึ้น คือ

               1. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรตรวจสอบและปรับปรุงเนื้อหาของรายวิชาให้เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับความเจริญทางวิชาชีพและการเปลี่ยนแปลงในสาขาวิชานั้น ๆ
               2. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะส่งเสริมการพัฒนาอาจารย์ให้มีความรู้ความสามารถที่เพียงพอในการนำเสนอเนื้อหาที่อัปเดตและทันสมัย รวมถึงการใช้เทคนิคการสอนที่ทันสมัย.
               3. หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตอาจจะต้องมีกระบวนการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหลักสูตร เพื่อให้สามารถปรับปรุงและปรับสมดุลระหว่างเป้าหมายและผลการเรียนรู้ได้

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
2. มีรายละเอียดของหลักสูตรตามแบบ มคอ.2 ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ หรือมาตรฐานคุณวุฒิสาขา/สาขาวิชา [ถ้ามี]
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความชัดเจนในรายละเอียดของหลักสูตรตามแบบแผนการเรียนรู้และปริมาณชั่วโมงการเรียนที่กำหนด นักศึกษาสามารถทราบได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับโครงสร้างและเนื้อหาของหลักสูตรที่ต้องเรียน ทั้งนี้ หลักสูตรได้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติที่กำหนดโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นักศึกษาจะได้รับความรู้และทักษะตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับและการตรวจสอบ
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
3. มีรายละเอียดของรายวิชา และรายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม [ถ้ามี] ตามแบบ มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างน้อยก่อนการเปิดสอนในแต่ละภาคการศึกษาให้ครบทุกรายวิชา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีข้อมูลรายละเอียดของรายวิชาที่สอดคล้องกับแบบแผนการเรียนรู้ ตั้งแต่เนื้อหาที่เรียนรู้ วัตถุประสงค์ของวิชา ผู้สอน ประเภทของวิชา เป้าหมายการเรียนรู้ และวิธีการประเมินผล (มคอ. 3)
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรให้ความสำคัญกับการให้ข้อมูลรายละเอียดของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามในรูปแบบที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย เพื่อให้นักศึกษาและผู้เกี่ยวข้องทราบถึงขั้นตอนและคุณลักษณะของแต่ละรายวิชา
               - หากจำเป็น หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรพิจารณาปรับปรุงแบบแผนการเรียนรู้เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงที่เข้ากันได้และรายละเอียดที่มีความสอดคล้องกันระหว่างรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนาม โดยสามารถรับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษา อาจารย์ผู้สอน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อปรับปรุงและปรับสมดุลระหว่างเนื้อหาและประสบการณ์ให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
4. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา และรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม [ถ้ามี] ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วัน หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาที่เปิดสอนให้ครบทุกรายวิชา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการบริหารจัดการรายงานผลการดำเนินการของรายวิชาที่เปิดสอน ในรายงานนี้จะระบุถึงผลการเรียนรู้ของนักศึกษา ประสิทธิภาพของกระบวนการเรียนรู้ และความสำเร็จในการปฏิบัติกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรายวิชา (มคอ. 5)
               - หากมีการเปิดโอกาสให้นักศึกษามีประสบการณ์ภาคสนาม เช่น การฝึกงานหรือการปฏิบัติงาน จะต้องจัดทำรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ดังกล่าว ในรายงานนี้จะระบุถึงประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน ความเข้าใจในการประยุกต์ความรู้ และการพัฒนาทักษะที่สอดคล้องกับสาขาวิชา (มคอ. 6)

แนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ

               - หากพิจารณาจากข้อมูลในรายงานผลการดำเนินการ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตสามารถให้คำแนะนำและแนวทางการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการเรียนรู้และประสบการณ์ในอนาคตได้

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
5. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตรตามแบบ มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลังสิ้นสุดปีการศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ การที่หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการจัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตรตามแบบแผนการเรียนรู้ที่กำหนด ตามมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ ที่ช่วยสร้างความเข้าใจและการประเมินคุณภาพในการดำเนินงานของหลักสูตร โดยในรายงานนี้จะระบุถึงผลการดำเนินงานทั้งหมดของหลักสูตรในระยะเวลาปีการศึกษาที่ผ่านมา รวมถึงความสำเร็จในการดำเนินงานตามแผน และการปรับปรุงตามความต้องการ
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงเพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิผลในการจัดทำรายงานผลการดำเนินการตามแบบแผนการเรียนรู้ที่กำหนด นั่นคือ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรเตรียมข้อมูลที่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของหลักสูตรทั้งหมดในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งควรเป็นข้อมูลที่รวบรวมและเรียงลำดับไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งยังเน้นถึงการวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานตามแบบแผนการเรียนรู้ เพื่อระบุความสำเร็จและแนวทางการปรับปรุง และควรกำหนดแนวทางการพัฒนาต่อในอนาคต เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการดำเนินงานของหลักสูตร
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
6. มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ ที่กำหนดใน มคอ.3 และ มคอ.4 [ถ้ามี] อย่างน้อยร้อยละ 25 ของรายวิชาที่เปิดสอนในแต่ละปีการศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการเน้นการทวนสอบความรู้และความเข้าใจของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่กำหนด โดยใช้วิชา POL498 และ POL499 เพื่อทำการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการเรียนรู้ที่ได้จากหลักสูตร นั่นคือ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตทำการการทวนสอบความรู้และความเข้าใจของนักศึกษาเพื่อวิเคราะห์และประเมินความเข้าใจและการประยุกต์ความรู้ของนักศึกษาในการศึกษาค้นคว้าอิสระ โดยรวมถึงการครอบคลุมวิชาที่หลักสูตรเปิดสอน
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุงของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ ควรจัดทำแผนการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาอย่างรอบคอบ และใช้เครื่องมือและข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการทวนสอบควรจัดทำแผนการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาอย่างรอบคอบ และให้เครื่องมือและข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการทวนสอบ โดยต้องคำนึงถึงความต้องการของนักศึกษาในการทวนสอบและการประเมินผลการเรียนรู้ เพื่อให้การทวนสอบเป็นประโยชน์แก่พวกเขา
ทั้งยังจะต้องมีการพัฒนาเครื่องมือและแบบทดสอบที่เหมาะสมในการวัดผลสัมฤทธิ์ของการเรียนรู้ของนักศึกษา เพื่อให้เกิดความถูกต้องและมีประสิทธิผล

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
7. มีการพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน หรือการประเมินผลการเรียนรู้จากผลการประเมินการดำเนินงานที่รายงานใน มคอ.7 ปีที่แล้ว
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - จุดเด่นและแนวทางเสริมของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต คือ หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการพัฒนาแนวทางการสอนเพื่อเป็นไปในทิศทางที่เน้นความเข้าใจและการเรียนรู้ของนักศึกษาอย่างเหมาะสม ซึ่งอาจรวมถึงการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือการสอนที่ทันสมัย ทั้งยังมีการพัฒนากลยุทธ์การสอนที่นวัตกรรมเพื่อให้การเรียนรู้มีความน่าสนใจและเป็นที่สนใจของนักศึกษา โดยการใช้วิธีการที่หลากหลายเช่น การเรียนรู้ผ่านการแก้ปัญหา การทำงานกลุ่ม หรือการนำเสนอผลงาน เป็นต้น
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรสนับสนุนอาจารย์ในการวิจัยและพัฒนากลยุทธ์การสอนที่เหมาะสมสำหรับการเรียนรู้ของนักศึกษา และควรส่งเสริมการนำเอกสารเข้าระบบออนไลน์ วิดีโอการสอน และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์เข้ามาช่วยเสริมการเรียนรู้
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
8. อาจารย์ใหม่ [ถ้ามี] ทุกคน ได้รับการปฐมนิเทศ หรือคำแนะนำด้านการจัดการเรียนการสอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
9. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคนได้รับการพัฒนาทางวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการส่งเสริมให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรได้รับการพัฒนาความรู้และความเข้าใจในวิชาที่สอน เช่น การอบรม การปรับปรุงความเข้าใจในกระบวนการและหลักการทางวิชาการ
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรมีสนับสนุนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแบ่งปันความรู้ร่วมกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายและคุณค่าในการสอน
               - ข้อมูลการได้รับการพัฒนาทางวิชาการ/วิชาชีพของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร หากแต่ละท่านมีการเข้ารับที่แตกต่างกันไป สามารถเพิ่มเติมข้อมูลได้ เพื่อแสดงถึงการพัฒนาของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต่อการจัดการเรียนการสอน/การพัฒนาที่ทันต่อความก้าวหน้าของศาสตร์ในปัจจุบัน

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
10. จำนวนบุคลากรสนับสนุนการเรียนการสอน [ถ้ามี] ได้รับการพัฒนาวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ต่อปี
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
11. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาปีสุดท้าย/บัณฑิตใหม่ที่มีต่อคุณภาพหลักสูตร เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิต มุ่งเน้นไปที่ความพึงพอใจที่สูงของนักศึกษาปีสุดท้ายต่อคุณภาพของหลักสูตรที่มีคะแนนรวมถึงระดับสูงอยู่ที่ 4.35 จากคะแนนเต็ม 5  ซึ่งสามารถสะท้อนได้ว่านักศึกษาปีสุดท้ายรู้สึกพึงพอใจต่อคุณภาพของการสอนและการเรียนรู้ในหลักสูตร ที่มีระดับความคุ้มค่าและสอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของพวกเขา
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้หลักสูตรทำการปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของนักศึกษาและสาขาวิชา และหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรนำข้อมูลจากการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเข้ามาใช้ในการปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

 
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
12. ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - จุดเด่นของหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตที่แสดงถึงความพึงพอใจที่สูงของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.23 จากคะแนนเต็ม 5.00 ได้สะท้อนว่าผู้ใช้บัณฑิตมีความพึงพอใจต่อคุณภาพของบัณฑิตที่เป็นผลผลิตจากหลักสูตร ที่สอดคล้องกับความต้องการและมีความพร้อมในการทำงานในสาขาวิชา
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้สาขาวิชาปรับปรุงหลักสูตรให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงและความต้องการของตลาดงาน และอาจจะจัดให้มีการจัดงานสัมมนาและเสวนาที่เชื่อมโยงระหว่างบัณฑิตเก่าและนักศึกษาใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
13. ร้อยละ 80 ของรายวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอน สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนด
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรมีการจัดทำแผนการสอนที่มีคุรภาพและมีการเตรียมการสอนที่เหมาะสม เพื่อให้เนื้อหาการสอนเป็นไปตามหลักการและมาตรฐานที่กำหนด โดยร้อยละ 100 ของรายวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรมีการเปิดสอนเป็นไปตามแผนที่กำหนด ซึ่งส่งเสริมและสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
14. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอน รวมทุกรายวิชา เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนนเต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอนที่ได้รับทั้งในทุกรายวิชาที่เปิดสอน โดยมีระดับเฉลี่ยอยู่ที่ 4.42 จากคะแนนเต็ม 5.00 ซึ่งแสดงว่า หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตเป็นหลักสูตรที่สามารถเติบโตและพัฒนาคุณภาพการสอนไปในทิศทางที่ดี นั่นคือ หลักสูตรนี้ได้คำนึงถึงความต้องการและความพึงพอใจของนักศึกษาเป็นหัวใจหลักในการออกแบบการสอน และส่งเสริมให้นักศึกษามีส่วนร่วม มีทักษะการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้งด้านทฤษฎีและการปฏิบัติ
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่า่น / ไม่ผ่าน)
15. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอน เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนน เต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนที่ได้รับทั้งในการเรียนและการสอน โดยมีระดับเฉลี่ยอยู่ที่ 4.63 จากคะแนนเต็ม 5.00 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่ว่าหลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการจัดการและให้บริการทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนอย่างมีคุณภาพและตอบสนองความต้องการของนักศึกษาอย่างมีประสิทธิผลพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนรู้
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตควรส่งเสริมให้มีการปรับปรุงสถานที่เรียนการสอนให้เพียงพอและทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิผลในการเรียนรู้
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 5.4
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] รวมจำนวนตัวบ่งชี้ในแต่ละปี 13 4.5
[2] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านเฉพาะตัวบ่งชี้ที่ 1-5 1-5
[3] ร้อยละของตัวบ่งชี้ที่ 1-5 ที่ผ่าน [ถ้าผ่านทั้ง 5 ข้อจะเป็นร้อยละ 100] 100
[4] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านรวม 12
[5] ร้อยละของตัวบ่งชี้ทั้งหมดที่ผ่าน 92.31
*หมายเหตุการกำหนดเงื่อนไขเกณฑ์การประเมิน
ถ้า [3] น้อยกว่าร้อยละ 100 ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 0.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานน้อยกว่า ร้อยละ 80 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 0.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 80 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 3.50
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 80.01 - 89.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 90.00 -94.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.50
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 95.00 -99.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.75
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 100 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 5.00
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 5 (4 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.38 คะแนน

องค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้

[ตัวบ่งชี้ 6.1] สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ระบบการดำเนินงานของภาควิชา/คณะ/สถาบัน โดยมีส่วนร่วมของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เพื่อให้มีสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรรัฐศาสตรบัณฑิตมีการจัดห้องเรียนและสถานที่เรียนรู้ที่เตรียมอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพื่อให้นักศึกษามีประสิทธิภาพในการเรียนรู้
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
จำนวนสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรสามารถพัฒนาห้องสมุดของคณะเพื่อให้เป็นที่พักค้นคว้าข้อมูลและทำงานวิชาการที่มีคุณภาพได้
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
กระบวนการปรับปรุงตามผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
               - หลักสูตรได้ใช้ข้อมูลและผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ในการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้และสิ่งสนับสนุนให้เหมาะสมต่อความต้องการ และมีการพัฒนาทรัพยากรการเรียนรู้เพื่อตอบสนองความต้องการของนักศึกษาและอาจารย์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 6 (1 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.00 คะแนน

รายงานผลการวิเคราะห์จุดเด่น/จุดแข็ง แนวทางเสริม จุดที่ควรพัฒนา และแนวทางปรับปรุง

จุดเด่นและแนวทางเสริม

  1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร มีคุณวุฒิปริญญาเอก ตรงกับสาขา 60% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานมาก และมีผลงานทางวิชาการในระดับนานาชาติ
  2. จำนวนนักศึกษาแรกเข้าปีการศึกษา 2565 มีจำนวนสูงที่สุดในรอบ 6 ปีของหลักสูตร จำเป็นต้องส่งเสริมการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องเพื่อรักษายอดนักศึกษา
  3. หลักสูตรเอื้อต่อการเรียนควบ 2 ปริญญา ซึ่งเป็นศาสตร์ สาขาที่มีความสัมพันธ์อย่างชัดเจน

จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

  1. การเสริมสร้างความร่วมมือของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ในการบริหารหลักสูตรให้มีคุณภาพ ทั้งนี้จากรายงานและข้อสังเกตเกี่ยวกับระบบและกลไกการดำเนินงานที่รายงาน ไม่พบเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ในแต่ละองค์ประกอบคุณภาพ และการทบทวนกระบวนการดำเนินงาน โดยเฉพาะด้านการส่งเสริมพัฒนานักศึกษา การจัดการเรียนการสอน และการประเมินผู้เรียน
  2. ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร อยุ่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์มาก ควรทบทวนการดำเนินงาน เพื่อค้นหาจุดอ่อนของระบบและกลไกการพัฒนาอาจารย์ และวางแผนดำเนินการปรับปรุง
  3. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ควรศึกษาให้เข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษาของมหาวิทยาลัย เพื่อใช้เป็นแนวทางการบริหารหลักสูตรอย่างมีคุณภาพ และ การรายงานการประเมินตนเอง เพื่อให้ผู้ประเมินได้มีความมั่นใจในคุณภาพของการบริหารหลักสูตร เนื่องจากผลการดำเนินงานหลักสูตรจะส่งผลต่อผลการดำเนินงานของคณะและมหาวิทยาลัย ดังนั้นผู้รับผิดชอบหลักสูตรควรตระหนักรู้ถึงความสำคัญในเรื่องนี้

สรุปผลการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้

ตัวบ่งชี้คุณภาพ ผลดำเนินการ
กรรมการ
1.1 การบริหารจัดการหลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรที่กำหนดโดยสกอ. ผ่าน
2.1 คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ.2561 4.23
2.2 ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี 4.17
3.1 การรับนักศึกษา 4.00
3.2 การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา 3.00
3.3 ผลที่เกิดกับนักศึกษา 3.00
4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์ 3.00
4.2 คุณภาพอาจารย์ 3.89
4.3 ผลที่เกิดกับอาจารย์ 4.00
5.1 สาระของรายวิชาในหลักสูตร 3.00
5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน 3.00
5.3 การประเมินผู้เรียน 3.00
5.4 ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ 4.50
6.1 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ 3.00
ผลการประเมินเฉลี่ยรวม [13 ตัวบ่งชี้] 3.52

การวิเคราะห์คุณภาพการศึกษาภายใน ของคณะกรรมการประเมิน ฯ

องค์ประกอบ ตัวบ่งชี้ I P O คะแนนเฉลี่ย ผลการประเมิน
1 ผ่านการประเมิน หลักสูตรได้มาตรฐาน
2 2 - - 4.20 4.20 ระดับคุณภาพดีมาก
3 3 3.33 - - 3.33 ระดับคุณภาพดี
4 3 3.63 - - 3.63 ระดับคุณภาพดี
5 4 3.00 3.50 - 3.38 ระดับคุณภาพดี
6 1 - 3.00 - 3.00 ระดับคุณภาพปานกลาง
ผลการประเมิน 3.41 3.38 4.20 3.52 ระดับคุณภาพดี
ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพดี ระดับคุณภาพดี ระดับคุณภาพดีมาก