• รายการหลักฐานมีการแจกแจงคะแนนประเมินผู้ใช้บัณฑิต 5 คน ได้ละเอียดครบถ้วนดี
• ผลสำรวจความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิต 3 ปีการศึกษาต่อเนื่อง มีค่าลดลงตั้งแต่ปี 2565 2566  และ 2567 แม้ว่าอยู่ในเกณฑ์ดีมาก แต่ควรหาสาเหตุ และทำการแก้ไข โดยเฉพาะทักษะทั้ง 5 ด้าน และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 ค่าลดลงทุกปีเช่นกัน 

• ในอนาคตอาจพิจาณณาข้อคำถามประเมินตาม plo เพิ่ม
• ควรส่งเสริมการเรียนการสอนในแนวทางพัฒนาสติปัญญา เช่นเรียนรู้จากการออกทำงานจริงร่วมกับที่ทำงานจริง หรือใช้ประสบการณ์จริงจากผู้สอนเป็นตัวอย่างในการเรียนการสอน เป็นต้น

• มีบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา(ทำงานในองค์กร)จำนวน 4 คน (ทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขนส่งทางราง 2 คน บริษัทเอกชนหรือโรงงานอุตสาหกรรม 2 คน) คิดเป็นร้อยละ 80.00 ของบัณฑิตที่ตอบแบบสอบถาม บัณฑิตที่ทำงานในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขนส่งทางราง 2 คน คิดเป็นร้อยละ 40.00 ของบัณฑิตที่ตอบแบบสอบถาม บัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา(ประกอบอาชีพอิสระ) 1 คน คิดเป็นร้อยละ 20.00

• ในหลักฐานรายชื่อบัณฑิตที่มีงานทำ ถ้าระบุชื่อหน่วยงานและเบอร์ติดต่อหัวหน้างานจะมีความสมบูรณ์มากขึ้น อนาคตสามารถส่งมอบ contact list ให้วิทยาลัยฯ นำส่งการจัดอันดับ qs ได้

• แผนการดำเนินงานและเป้าหมายในการรับนักศึกษาปีการศึกษา 2567 ไม่เป็นไปตามแผนการดำเนินงานและเป้าหมายที่วางไว้ เนื่องจากการปรับปรุงหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมระบบราง หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2567 มีความล่าช้า โดยได้รับอนุมัติการปรับปรุงแก้ไขหลักสูตรฯจากสภามหาวิทยาลัยรังสิต ในการประชุมครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2567 (และกำหนดให้เริ่มใช้หลักสูตรนี้กับนักศึกษาตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 เป็นต้นไป เนื่องจากเลยเวลาเปิดเรียนภาคการศึกษา 3/2567 ไปแล้ว) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นักเรียน ม.6 ส่วนใหญ่ ได้ตอบรับเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเรียบร้อยแล้ว จึงเป็นสาเหตุให้ในปีการศึกษา 2567 ไม่มีนักศึกษาสมัครเข้าเรียน
   

• จำนวนนักศึกษาใหม่ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 มีคุณสมบัติเป็นไปตามที่หลักสูตรกำหนด มีความพร้อมทางความรู้พื้นฐาน สุขภาพกายและจิต มีความมุ่งมั่นที่จะเรียน และการวางแผนการเรียนและการใช้ชีวิต (จะวัดอย่างไร และวัดเมื่อไร สำหรับ การมีความพร้อมเรื่องสุขภาพจิต มีความมุ่งมั่นที่จะเรียน และการวางแผนการเรียนและการใช้ชีวิต)

1. โครงการการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่วิศวกรรมระบบราง เพื่อให้นักศึกษาสามารถปรับตัวและทำความคุ้นเคยกับอาจารย์ที่ปรึกษาและอาจารย์ในหลักสูตรฯ เจ้าหน้าที่ รุ่นพี่ และเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน โดยนักศึกษาปีที่ 1 สามารถเข้าใจและวางแผนการเรียนตลอดระยะเวลา 4 ปีการศึกษา และรู้จักการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยและการใช้ชีวิตขณะเป็นนักศึกษาได้อย่างเหมาะสม หลังเสร็จสิ้นกระบวนการจะมีการประเมินโครงการ โดยคาดหวังผลประเมินโครงการในระดับมากกว่า 4.50 จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน และนำผลจากข้อเสนอแนะเพื่อไปปรับปรุงโครงการในปีการศึกษาต่อไป
2. สาขาวิชาฯได้จัดเตรียมอาจารย์ที่ปรึกษาให้แก่นักศึกษาทุกคน เพื่อให้คำแนะนำเรื่องการศึกษา และการลงทะเบียนเรียนให้เหมาะสมกับความสนใจและศักยภาพของนักศึกษาแต่ละคน โดยนักศึกษาทุกคนจะมีสมุดประจำตัวนักศึกษา 1 เล่ม เพื่อบันทึกข้อมูลที่นักศึกษาเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษา นอกจากนี้ ทางอาจารย์ที่ปรึกษานักศึกษาชั้นปีที่ 1 ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมแนะนำวิธีการค้นคว้าในห้องสมุด และการใช้เครื่องคำนวณทางวิศวกรรมให้แก่นักศึกษาอีกด้วย
3. สาขาวิชาฯได้ขอความร่วมมือ/อาสาสมัครจากรุ่นพี่หรือเพื่อนรุ่นเดียวกันที่มีผลการเรียนดี ในการแนะนำแนวทางการเรียน หรือช่วยทบทวนเนื้อหาบทเรียนที่นักศึกษาใหม่ได้ลงทะเบียนในแต่ละภาคการศึกษา เพื่อช่วยให้นักศึกษาเข้าใจในบทเรียนมากยิ่งขึ้น เป็นการลดปัญหาในเรื่องการตกออกและให้นักศึกษาคงอยู่ในระบบมากขึ้น

• หลักสูตรควรรายงานร้อยละนักศึกษาใหม่ทีมีความพร้อมในด้านต่างๆ หลังผ่านกิจกรรมเตรียมความพร้อมต่างๆ โดยตรง เช่นความพร้อมด้านการวางแผนการเรียน ความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ เป็นต้น เพื่อนำผลประเมินมาปรับปรุงกิจกรรมการเตรียมความพร้อมต่างๆ  

• ในอนาคตเพิ่มเอกสารหลักฐานกิจกรรมการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่

• นอกจากมีอาจารย์ที่ปรึกษาประจำทางด้านการเรียนในแต่ละรายวิชาแล้ว ทางหลักสูตรฯยังมีอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานสหกิจ ซึ่งนักศึกษาเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานสหกิจตามที่นักศึกษาสนใจและเป็นหัวข้อที่ทางหน่วยงานฝึกงานสหกิจต้องการเรียนรู้หรือแก้ปัญหา โดยอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานสหกิจจะทำหน้าที่ให้คำปรึกษาและดูแลการทำโครงงานทุกขั้นตอน  นอกจากนี้ อาจารย์ประจำหลักสูตร มีความร่วมมือกับวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์ ในการส่งเสริมการเรียนรู้ของนักศึกษาร่วมกับอาจารย์  เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเรียนของนักศึกษาเพื่อลดการตกออก หรือการติด Probation หรือเพื่อเพิ่มระดับผลการเรียน (GPA)

• หลักสูตรควรประเมินระบบอาจารย์ที่ปรึกษา และอาจารย์ที่ปรึกษารายบุคคล เพื่อนำผลประเมินมาปรับปรุงกระบวนการ

1. ประชุมวางแผนปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนโดยบรรจุไว้ในRQF.3 และRQF.4 และประเมินผลที่ได้ในRQF.5 และRQF.6 โดยกำหนด literacy ที่ต้องการพัฒนาศักยภาพและส่งเสริม ได้แก่ การใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัย ความรู้ทางด้าน AI และระบบอัตโนมัติ การจัดเก็บข้อมูล การสื่อสารและการนำเสนองาน เป็นต้น
2. ในทุกรายวิชาชีพเลือกของสาขาวิชาวิศวกรรมระบบราง กำหนดให้อาจารย์ผู้สอนมีการประเมินผลการเรียนจากการค้นคว้าบทความวิชาการ จัดทำรายงาน และนำเสนอหน้าชั้น
3. วางแผนการจัดหาอาจารย์พิเศษที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาสอนในรายวิชาชีพเฉพาะเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ
4. วางแผนโครงการต่างๆในการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และทักษะอาชีพ เช่น การศึกษาดูงานนอกสถานที่ การฝึกงานสหกิจทั้งในและต่างประเทศ การจัดทำโครงงานนวัตกรรม เป็นต้น
5. วางแผนการจัดซื้อหรือสร้างสื่อการสอนและอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการที่จำเป็น ให้เพียงพอและเหมาะสมต่อการเรียนการสอนเพื่อส่งเสริมทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์
6. ส่งเสริมและสนับสนุน ให้นักศึกษาเข้าอบรมหลักสูตรระยะสั้น ได้แก่ ความรู้ด้านไอซีที ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ความรู้ด้านสื่อ ความรู้ด้านชีวิต และทักษะอาชีพ ที่มหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายนอกจัดขึ้น

1. 1. ประชุมวางแผนแนวทางการพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรม โดยการปรับปรุงรูปแบบการทำโครงงานปี 4 (วิชา RSE495) และการฝึกงานสหกิจ (RSE496) บรรจุไว้ใน RQF.3 และRQF.4 และประเมินผลที่ได้ในRQF.5 และRQF.6
2. 2. วางแผนโครงการต่างๆในการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ ได้แก่ การศึกษาดูงานนอกสถานที่ การอบรม startup เป็นต้น
3. 3. วางแผนการจัดหาแหล่งสนับสนุนเงินทุน และรายการประกวดแข่งขันเพื่อส่งผลงานสร้างสรรค์ นวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์เข้าประกวด
4. ​​​​​​​

• หลักสูตรควรประเมินค่าร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ทักษะการวิจัยผ่านรายวิชาโครงงานและสหกิจ หรือ กิจกรรมเสริมอื่นๆ เพื่อนำผลประเมินมาใช้ปรับปรุงกระบวนการต่อไป

1. การขัดข้องของระบบการลงทะเบียน ซึ่งมีนักศึกษาร้องเรียนให้แก้ปัญหาทุกภาคการศึกษาเพราะเข้าใจว่าทางหลักสูตรฯหรือหน่วยงานเจ้าของวิชายังไม่เปิดรายวิชานั้นๆให้ลงทะเบียน ทางหลักสูตรฯจึงได้ทำการอธิบายถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นให้กับนักศึกษาทราบและประสานงานกับสำนักทะเบียนเพื่อแก้ปัญหาการขัดข้องของระบบที่เกิดขึ้น
2. นักศึกษามีความกังวลในการเตรียมความพร้อมเพื่อไปฝึกงานสหกิจในภาคการศึกษา 2/2567 ดังนั้น หัวหน้าหลักสูตรได้ดำเนินการชี้แจงให้นักศึกษาเข้าใจว่า นักศึกษาต้องเตรียมความพร้อมก่อนเข้าฝึกงานอย่างไร มีเอกสารอะไรที่ต้องใช้ในการรายงานผลการฝึกงาน และสามารถปรึกษาหรือติดต่อกับอาจารย์ผู้ดูแลการฝึกงานได้อย่างไรบ้าง
3. นักศึกษาบางคนมีความกังวลเรื่องการจบการศึกษาด้วยเงื่อนไขการได้เกียรตินิยม เนื่องจากเป็นกังวลเรื่องการสอบโครงงานและการส่งเล่มรายงานโครงงานให้ทันกำหนดเวลา หรือบางคนมีความกังวลเรื่องการจบการศึกษาให้ทันรับปริญญาในเดือนธันวาคมปี 2568 เนื่องจาก บางคนยังอยู่ระหว่างการทำโครงงานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ดังนั้น หัวหน้าหลักสูตรและอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานได้ร่วมกันดำเนินการเร่งรัดและวางแผนการทำงานของนักศึกษาให้เร็วขึ้น โดยจัดตารางการทำงานและแบ่งงานให้กับสมาชิกในกลุ่มเพื่อเพิ่มเวลาในการทำงานมากขึ้น

• ปีการศึกษา 2567 ซึ่งมีการปรับปรุงหลักสูตรฯ ไม่มีอาจารย์ใหม่มารับหน้าที่เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ในการปรับปรุงครั้งนี้ การแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2565 ประกอบด้วยอาจารย์ที่มีคุณวุฒิระดับปริญญาเอก 2 คน คุณวุฒิระดับปริญญาโท 3 คน  อาจารย์ทั้ง 5 คนมีคุณวุฒิในสาขาที่สัมพันธ์กับสาขาวิชาวิศวกรรมระบบราง และมีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการต่อคนในรอบ 5 ปี ย้อนหลัง

• ควรมีอาจารย์ประจำหลักสูตร ที่สอนนักศึกษา ที่เป็นสายตรง เพิ่มขึ้น โดยวางแผนการรับอาจารย์ประจำหลักศูตรอย่างน้อย 5 ท่าน
  และต้องมีหน้าที่ภาระในการสอนวิชาการ การบริการวิชาการ  และงานวิจัย เพื่อพัฒนาศักยภาพของสาขา

• ปีการศึกษา 2567 อาจารย์และบุคลากรสายสนับสนุนได้เข้าร่วมการฝึกอบรม สัมมนา เพื่อพัฒนาวิชาชีพ และทักษะความรู้ ดังแสดงในตารางที่ 4.2

1. เป็นหลักสูตรที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ในงานจริงได้ภายหลังจบการศึกษา มีความรู้ในสาขาวิชาที่เรียน มีความรอบรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำ โดยเชิญบุคลากรของหน่วยงานภายนอกมาเป็นวิทยากรหรืออาจารย์พิเศษสอนในบางรายวิชา และพานักศึกษาไปศึกษาดูงาน ณ หน่วยงานนั้นๆ
2. สอนให้นักศึกษาสามารถคิดวิเคราะห์ สรุปประเด็นและแก้ปัญหา บูรณาการความรู้ในหลักสูตรที่ศึกษากับความรู้ในศาสตร์อื่นๆที่เกี่ยวข้อง สามารถเรียนรู้ศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพัฒนางานได้ มีความคิดริเริ่ม และสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ
3. สร้างให้ผู้เรียนมีคุณธรรมจริยธรรม มีจิตสำนึกด้านความสำคัญของวิชาชีพ เช่น ความปลอดภัยของผู้โดยสารและประชาชน จิตสำนึกในการให้บริการระบบขนส่งสาธารณะ รู้จักการวางแผนออกแบบ การบริหารจัดการ และการควบคุมการปฏิบัติการเดินรถที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม
4. นักศึกษามีความสามารถในการทำงานเป็นทีม รู้วิธีการบริหารจัดการ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ และมีภาวะผู้นำ
5. เป็นหลักสูตรที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีระบบรางสมัยใหม่ สามารถปรับเปลี่ยนตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาได้ นักศึกษามีโอกาสเลือกเนื้อหาที่สนใจจะเรียนเพิ่มเติมรวมทั้งเลือกสถานประกอบการที่สนใจจะไปศึกษาดูงาน และมีรายวิชาที่มีการเรียนการสอนร่วมกับสถานประกอบการ
6. เป็นหลักสูตรที่ผลิตบัณฑิตให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ
7. เป็นไปตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ โดยการกำหนดเป้าหมายและการวัดผลสัมฤทธิ์ของหลักสูตร และสาระของรายวิชาให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้มีส่วนได้เสีย

• หลักสูตรควรระบุชื่อรายวิชาที่มี สาระรายวิชาที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน มีรายวิชาใดที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ เพื่อนำผลประเมินร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ และ clo รายวิชาดังกล่าวมาพิจารณาปรับปรุงกระบวนการ

• หลักสูตรฯ มีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Co-creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร  เพื่อใช้เป็นกรอบผลลัพธ์ที่เป็นคุณลักษณะ ทั้งในระหว่างที่กำลังศึกษาและหลังสำเร็จการศึกษา ทั้งในบทบาทการเป็นผู้ร่วมสร้างความมั่นคงมั่งคั่ง และเป็นพลเมืองไทยที่สร้างความยั่งยืนให้กับประเทศ โดยกำหนดผลลัพธ์ของการศึกษาในรูปของคุณลักษณะของบัณฑิต

• หลักสูตรควรแสดงตาราง mapping ระหว่าง plo ตาม KSEC  ที่ mapping กับ DOE3 (สมัยก่อนตอนเกณฑ์58 เป็น tqf5 map กับ doe3) กำหนดกลุ่มรายวิชาแยกตาม doe3 ท้ายที่สุดนำผลประเมินผู้ใช้บัณฑิต และการทวนสอบผลสัมฤทธิ์หลักสูตร มาประกอบการปรับปรุงกระบวนการ mapping ดังกล่าว

• หลักสูตรฯได้มีการประเมินกระบวนการของการออกแบบหลักสูตรและสาระรายวิชาในหลักสูตร ตลอดจนปรับปรุงหลักสูตร ให้ทันสมัยตามความความก้าวหน้าในหลักสูตรฯ โดยได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรและมาตรฐานการศึกษา เกี่ยวกับความรู้ ความเชี่ยวชาญ และทักษะที่นักศึกษาควรจะได้รับ เพื่อให้นักศึกษาสามารถประกอบวิชาชีพทางด้านวิศวกรรมระบบรางได้สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่จะถูกนำมาใช้งานภายหลังจบการศึกษา เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้ในอุตสาหกรรมระบบรางมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และดูจากผลการประเมินด้วยแบบสอบถามผู้ประกอบการจากการนิเทศนักศึกษาฝึกงานสหกิจ พบว่ามีความพึงพอใจต่อนักศึกษาที่ฝึกงานเป็นอย่างมาก
• จุดเด่น แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาหลักสูตรและมาตรฐานการศึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การรถไปแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช) บริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมขนส่งทางราง

• หลักสูตรควรนำผลประเมิน หรือ feedback รายปี มาปรับปรุงความทันสมัยของรายวิชาฯ โดยสม่ำเสมอ และให้มีผลลัพธ์การปรับปรุงเป็นไปตามเกณฑ์ key result ที่ 1.2.1 (เป้าหมายร้อยละ 80 ของรายวิชาที่เปิดสอนต่อปีการศึกษา)

• อาจารย์ประจำหลักสูตรถูกกำหนดให้สอนวิชาพื้นฐานทางวิศวกรรม และวิชาชีพเลือกบางส่วน ได้แก่ รหัสวิชา TNGxxx และ MCTxxx โดยจำนวนวิชาที่สอนของอาจารย์ประจำในแต่ละภาคการศึกษาถูกกำหนดโดยภาระงานไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต  และหลักสูตรฯกำหนดให้ อาจารย์พิเศษจากหน่วยงานภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านในแต่ละรายวิชา เป็นผู้ร่วมสอนรายวิชาชีพเฉพาะและรายวิชาชีพเลือกบางส่วนที่มีรหัส RSExxx
• มีอาจารย์พิเศษจากหน่วยงานภายนอกเป็นผู้ร่วมสอน

• หลักสูตรควรรายงานตารางความเชื่อมโยงระหว่างรายวิชาต่างๆ กับการแจกแจงคุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอนทั้งคุณวุฒิ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์สอน ผลงานวิชาการ และการบริการวิชาการ และมีการรายงานการทบทวนความเหมาะสมของการวางระบบผู้สอน

• หลักสูตรควรใช้ template RQF.3 VER.OBE เพื่อให้สามารถระบุกิจกรรม เครื่องมือวัด และเกณฑ์ประเมินตาม clo ที่รายวิชานั้น ๆ รับผิดชอบตาม plo

• หลักสูตรควรรายงานค่าร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์การบูรณาการรายวิชากับพันธกิจต่าง ๆ เพื่อนำผลประเมินมาปรับปรุงกระบวนการ

• หลักสูตรควรมีการรายงานผลการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ของนักศึกษาที่สอดคล้องและครอบคลุมผลการเรียนรู้ของหลักสูตรตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา 4 ด้าน (KSEC) และผลลัพธ์ผู้เรียน (DOE 3)  ทั้งระดับรายวิชา (CLO) รายชั้นปี (YLO) และหลักสูตร (PLO)  และมีค่าร้อยละของนักศึกษาที่มีผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ในทุกระดับ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80  เป็นต้น

• การประเมินผลการเรียนรู้นักศึกษามีค่าที่สูงทั้งทางด้านทักษะการคำนวณนั้นควนประเมิน และหาสาเหตุ การแก้ปังญหา การวางแผน แต่ไม่สอดคล้องกับคะแนนผู้ใช้บัณฑิต ดังนั้นควรประเมิน และหาสาเหตุ เพื่อแก้ไข

• หลักสูตรควรมีการรายงานผลการพิจารณาความเหมาะสมของเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษาผ่านการวิพากษ์ การปรับปรุงข้อสอบ และการการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา

• หลักสูตรฯได้ทำการสรุปผลคะแนนประเมินการเรียนการสอน ปัญหา และแนวทางในการแก้ปัญหา โดยคะแนนเฉลี่ยของการประเมินคุณภาพการสอนปีการศึกษา 2567  มีค่าเท่ากับ 4.85 จากคะแนนเต็ม 5 สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพการสอนโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ผลการพิจารณาแบบประเมินตนเองของนักศึกษาเพื่อทวนสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจำนวน 4  วิชา มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.50 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดี ก็เป็นการยืนยันได้อีกทางหนึ่งถึงผลการเรียนรู้ของนักศึกษา ผลการประเมินตนเองของหลักสูตรจากรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตร (RQF.7) มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 3.48  ซึ่งอยู่ในระดับคุณภาพดี นอกจากนี้ยังไม่พบข้อร้องเรียนจากนักศึกษาในรายวิชาใดๆ อย่างไรก็ตามด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในโลกปัจจุบัน การปรับปรุงรายวิชาในหลักสูตรฯ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องกระทำต่อไปในอนาคตอันใกล้เพื่อผลิตบัณฑิตที่ตอบโจทย์กับความต้องการของประเทศ

• หลักสูตรควรมีการกำกับการประเมินการจัดการเรียนการสอน (RQF.5 และRQF.6) ที่สอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนการสอน (RQF.3 และRQF.4) และการประเมินหลักสูตร (RQF.7) โดยใช้ template RQF.5  ที่เป็น OBE version เพื่อให้สามารถรายงานการประเมินค่าร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ของนักศึกษาทั้งในระดับรายวิชา (CLO) ระดับรายชั้นปี (YLO) เปรียบเทียบผลดำเนินการแต่ละปีการศึกษาเพื่อประกอบการพิจารณาการปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนที่มุ่งสู่ outcome base eduction และเตรียมความพร้อมรับการตรวจ post audit

1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ผู้สอนประชุมร่วมกัน เพื่อกำหนดลำดับความจำเป็นในการจัดซื้อจัดสร้าง หรือซ่อมแซมสื่อการสอนและอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานและปลอดภัย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามเกณฑ์
2. อาจารย์ผู้สอนดำเนินการสำรวจสภาพของสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ จากนั้นนำผลการสำรวจมาพิจารณาถึงความเพียงพอและเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอน และเสนอความต้องการในการจัดซื้อจัดสร้างหรือซ่อมแซมในที่ประชุมหลักสูตรฯ โดยนำข้อเสนอแนะจากผลการประเมินสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ในปีการศึกษาก่อนหน้ามาร่วมพิจารณา

• หลักสูตรควรรายงานตามข้อ 1 และ ข้อ 2 ว่าตลอดปีการศึกษา 2567 นั้นมีผลมีการส่วนร่วมของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เพื่อให้มีสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลเพิ่มเติมในด้านใดบ้าง รายการใดบ้าง

1. หลักสูตรฯมีระบบอาณัติสัญญาณและการควบคุมรถไฟจำลองอัตโนมัติ(แบบจำลองรถไฟฟ้าเพื่อการเรียนรู้) เพื่อใช้ในการเรียนการสอนในรายวิชา RSE301 ปฏิบัติการเทคโนโลยีระบบราง1 และจัดสร้างระบบกลไกต่างๆที่เกี่ยวกับระบบล้อเลื่อน (Rolling Stock) เพื่อใช้ในการเรียนการสอนในรายวิชา RSE302 ปฏิบัติการเทคโนโลยีระบบราง2

2. หลักสูตรฯ ได้ดำเนินการจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอนในห้องปฏิบัติการทางด้านระบบออโตเมชั่นที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรมเทคโนโลยีระบบราง ได้แก่ อุปกรณ์ระบบ SCADA ระบบควบคุม เครื่อง Programmable Logic Controller (PLC) อุปกรณ์ทางด้าน Machine Learning (Husky Lens) และอุปกรณ์ทางด้านหุ่นยนต์เคลื่อนที่ระบบอัตโนมัติ เป็นต้น

3. ระบบอินเทอร์เน็ต และ WIFI ดำเนินการโดยสำนักบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ครอบคลุมบริเวณทั่วมหาวิทยาลัย  เพื่อใช้ในการเรียนการสอน   มีหน่วยบริการรับคำร้องเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป

4. ระบบสนับสนุนการเรียนรู้โดยศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้ให้บริการระบบสนับสนุนการเรียนรู้ผ่านเครือข่าย เช่น ระบบการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ (E-learning) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-book) และห้องเรียนอัจฉริยะ (Smart Classroom) เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของนักศึกษาและอาจารย์ในหลักสูตร

5. หลักสูตรฯได้มีการพัฒนาสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้สำหรับนักศึกษา เช่น การพัฒนาสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ หนังสือ เอกสารคำสอน เอกสารประกอบการสอนในรายวิชาต่างๆ การพัฒนาการสอนโดยใช้ applications เช่น Microsoft Team, Zoom, Google Meet, Google Classroom เพื่อให้นักศึกษามีความสะดวกสามารถติดตามบทเรียนและทบทวนได้ตลอดเวลา

6. หลักสูตรฯมีห้องเรียนประจำหลักสูตรฯ สำหรับใช้เป็นห้องปฏิบัติการและห้องเรียนทฤษฎี 2 ห้อง คือ ห้อง 5–103 และ 5/2-401

นอกจากนี้ ในปีการศึกษา 2567 หลักสูตรฯได้จัดสร้างสื่อการสอน และอุปกรณ์ในห้องปฏิบัติการ ภายใต้รายวิชา RSE499 หัวข้อพิเศษทางด้านวิศวกรรมเทคโนโลยีระบบราง ได้สื่อการสอนจำนวน 2 ชุด

• หลักสูตรอาจ mapping สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้กับรายวิชาที่จัดการเรียนการสอนเพื่อวิเคราะห์ความครบถ้วน เพียงพอ และทันสมัย เพื่อนำผลวิเคราะห์มาปรับปรุงกระบวนการ

• หลักสูตรควรให้ความสำคัญกับความเพียงพอในการใช้งานของเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการในวิชาปฏิบัติการและการทำโครงงานสหกิจเนื่องจากมีผลประเมินความพึงพอใจในด้านดังกล่าวจากนักศึกษาต่ำกว่าด้านอื่นมาก คือมีคะแนนประเมินที่ 2.80