รายงานผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ปีการศึกษา 2567

หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์

วันที่ประเมิน: 14 กรกฏาคม 2568, 09:30น.

องค์ประกอบที่ 1 การกำกับมาตรฐาน

[ตัวบ่งชี้ 1.1] การบริหารการจัดการหลักสูตรตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร

เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
1. จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
  • ไม่น้อยกว่า 5 คน และ
  • เป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเกินกว่า 1 หลักสูตรในเวลาเดียวกันไม่ได้ ยกเว้น พหุวิทยาการหรือสหวิทยาการได้อีกหนึ่งหลักสูตร และ
  • ประจำหลักสูตรตลอดระยะเวลาที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรนั้น
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็น
- มีอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูคร 5 คน ครบตามเกณฑ์กำหนด
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
2. คุณสมบัติอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
  • มีคุณวุฒิขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าในสาขาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน หรือมีตำแหน่งทางวิชาการผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในสาขาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน
  • มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง
  • กรณีมีการตกลงร่วมผลิตกับองค์กรภายนอก ต้องมีอาจารย์ประจำหลักสูตรจากสถาบันอุดมศึกษาเจ้าของหลักสูตรนั้นเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อย 3 คน

ระบุชื่ออาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ที่ผลงานวิชาการในรอบ 5 ปี หมดอายุในปีการศึกษาที่ตรวจ (ต้องเพิ่มผลงานชิ้นใหม่ในปีการศึกษาหน้า)

- ไม่มี
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็น
- อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร 5 คนมีผลงานวิชาการในรอบ 5 ปี ครบตามเกณฑ์กำหนด และมีผู้รับผิดชอบหลักสูตร 2 คน มีประสบการณ์ในวิชาชีพ
  • ผศ.ดร.นฤพนธ์ ไชยยศ มีผลงานนำเสนอ 4th National FIT 1 เรื่อง
  • ผศ.ดร.ไพกานต์ รักษาสุทธิพันธ์ มีผลงานนำเสนอ 4th National FIT 2 เรื่อง
  • ผศ.กรพงศ์ กรรณสูต มีผลงานนำเสนอ 5th Conference 1 เรื่อง และ 5th นิทรรศการ 1 เรื่อง
  • ดร.ปาริษา มูสิกะคามะ มีผลงานไม่ตีพิมพ์ 1 เรื่อง (จุฬา)
  • ดร.ศศิการญจน์ ศรีโสภณ มีผลงานนำเสนอ 4th National FIT 3 เรื่อง
conference และนิทรรศการต้องดำเนินมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
[สำหรับประเภทวิชาชีพ/ปฏิบัติการ]
  • อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จำนวน 2 ใน 5 คน ต้องมีประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติการ
  • มีคุณวุฒิขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าในสาขาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน หรือมีตำแหน่งทางวิชาการผู้ช่วยศาสตราจารย์ ในสาขาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน
  • มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง
  • กรณีมีการตกลงร่วมผลิตกับองค์กรภายนอก ต้องมีอาจารย์ประจำหลักสูตรจากสถาบันอุดมศึกษาเจ้าของหลักสูตรนั้นเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อย 3 คน
ระบุข้อคิดเห็น
-  อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีอย่างน้อย 2 คนที่มีประสบการณ์ด้านการปฏิบัติการ 
- ผศ.กรพงศ์  กรรณสูต และ ดร.ปาริษา มูสิกะคามะ ทั้งสองท่านมีประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติการ วิชาชีพสถาปนิก จำนวน 20 ปี และ 19 ปีตามลำดับ  
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
3. คุณสมบัติอาจารย์ประจำหลักสูตร
  • มีคุณวุฒิขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่าในสาขาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน หรือมีตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์หรือเทียบเท่า ในสาขาที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาที่เปิดสอน
  • มีผลงานทางวิชาการอย่างน้อย 1 รายการในรอบ 5 ปีย้อนหลัง
  • ไม่จำกัดจำนวนและประจำได้มากกว่าหนึ่งหลักสูตร
  • กรณีมีการตกลงร่วมผลิตกับองค์กรภายนอกที่ไม่ใช่สถาบันอุดมศึกษาหากจำเป็น บุคคลที่มาจากองค์กรนั้นอาจได้รับการยกเว้นคุณวุฒิปริญญาโทและผลงานทางวิชาการ แต่ต้องมีคุณวุฒิขั้นต่ำปริญญาตรีหรือเทียบเท่าที่ตรงหรือสัมพันธ์กับสาขาวิชาของหลักสูตรและมีประสบการณ์การทำงานในองค์กรแห่งนั้น หรือการทำงานประเภทเดียวกันอย่างต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ปี

ระบุชื่ออาจารย์ประจำหลักสูตร
ที่ผลงานวิชาการในรอบ 5 ปี หมดอายุในปีการศึกษาที่ตรวจ (ต้องเพิ่มผลงานชิ้นใหม่ในปีการศึกษาหน้า

- ไม่มี
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็น
- อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร 10 คนมีผลงานวิชาการในรอบ 5 ปี ครบตามเกณฑ์กำหนด 
  • ผศ.ดร.อวิรุทธ์ เจริญทรัพย์ มีผลงานนำเสนอ 4th conference 2 เรื่อง
  • รศ.ทรงพล อัตถากร มีผลงานนำเสนอ 5th conference 1 เรื่อง
  • ผศ.สมสฤทธิ์ ตาณพันธุ์ ไม่ระบุ 8 ครั้ง
  • ผศ.ไพบูลย์ กิตติกูล มีผลงานนำเสนอ 5th conference 1 เรื่อง
  • อ.มัลลิกา จงศิริ มีผลงานนำเสนอ 5th conference 1 เรื่อง
  • อ.ธนัฐวัสส์ วงศ์ทิมารัตน์ มีผลงานนำเสนอ 4th conference 8 เรื่อง
  • อ.รพีพงศ์ กุลธรรมโยธิน มีผลงานนำเสนอ 4th conference 1 เรื่อง
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
4. คุณสมบัติอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์ประจำ
  • คุณวุฒิขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่า หรือมีตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์หรือเทียบเท่าในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กันหรือสาขาวิชาของรายวิชาที่สอน
  • ในกรณีที่มีอาจารย์ประจำที่มีคุณวุฒิปริญญาตรีหรือเทียบเท่าและทำหน้าที่อาจารย์ผู้สอนก่อนที่เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2565 จะประกาศใช้ให้สามารถทำหน้าที่อาจารย์ผู้สอนต่อไปได้ (มีผลบังคับใช้ 27 กันยายน 2565)
  • สำหรับหลักสูตรที่มีการตกลงร่วมผลิตกับองค์กรภายนอกที่ไม่ใช่สถาบันอุดมศึกษา หากจำเป็นบุคคลที่มาจากองค์กรนั้น อาจได้รับการยกเว้นคุณวุฒิปริญญาโทแต่ต้องมีคุณวุฒิขั้นต่ำปริญญาตรีหรือเทียบเท่าและมีประสบการณ์การทำงานในองค์กรแห่งนั้นหรือการทำงานประเภทเดียวกันอย่างต่อเนื่องมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ปี
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็น
- หลักสูตรมีอาจารย์ผู้สอนที่เป็นอาจารย์ประจำรวม 34 คน ล้วนมีคุณวุฒิตรงหรือสัมพันธ์ทั้งหมด
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
คุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์พิเศษ
  • คุณวุฒิขั้นต่ำปริญญาโทหรือเทียบเท่า หรือมีตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์หรือเทียบเท่าในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่สัมพันธ์กันหรือสาขาวิชาของรายวิชาที่สอน
  • กรณีอาจารย์พิเศษที่ไม่มีคุณวุฒิตามที่กำหนดข้างต้น ต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้และประสบการณ์เป็นที่ยอมรับ ซึ่งตรงหรือสัมพันธ์กับรายวิชาที่สอน โดยผ่านความเห็นชอบจากสภามหาวิทยาลัย
  • ทั้งนี้ หากรายวิชาใดมีความจำเป็นต้องใช้อาจารย์พิเศษ ต้องมีอาจารย์ประจำร่วมรับผิดชอบกระบวนการเรียนการสอนและพัฒนานักศึกษา ตลอดระยะเวลาของการจัดการเรียนการสอนรายวิชานั้น ๆ ด้วย
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็น
- อาจารย์พิเศษทุกคนมีคุณวุฒิปริญญาโท
- มีอาจารย์พิเศษจำนวน 4 ท่าน มีคุณวุฒิตรงทุกท่าน
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
10. การปรับปรุงหลักสูตรตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
  • ต้องไม่เกิน 5 ปี ตามรอบระยะเวลาของหลักสูตร หรืออย่างน้อยทุก ๆ 5 ปี
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็น
-  เป็นหลักสูตร 5 ปี การปรับปรุงหลักสูตรจะเป็น 6 ปี
(ผศ.สมศักดิ์) ครั้งที่ 1 ในปี 2538 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี 2539
ครั้งที่ 2 ในปี 2541 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี 2542
ครั้งที่ 3 ในปี 2543 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี  2544
ครั้งที่ 4 ในปี 2547 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี  2548
ครั้งที่ 5 ในปี 2552 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี 2553
ครั้งที่ 6 ในปี 2554 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี 2555
ครั้งที่ 7 ในปี 2560 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี  2561
ครั้งที่ 8 ในปี 2566 ปรับปรุงเพื่อใช้ในปี  2567
2.จะครบกำหนด 5 ปี ในการปรับปรุงหลักสูตร ปีการศึกษา 2571

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 1.1

องค์ประกอบที่ 2 การผลิตบัณฑิต

[ตัวบ่งชี้ 2.1] คุณภาพบัณฑิตตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2565

หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด หมายถึง ผู้รับปริญญา ในปี พ.ศ. 2567 ประกอบด้วย บัณฑิตที่จบภาคการศึกษา 1/2566 , 2/2566 และ S/2567 [** ปีต้องอัพเดตตามปีการศึกษาที่ประเมินย้อนหลัง 1 ปี]
(2) จำนวนบัณฑิตที่รับการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาตาม (ข้อ1)

ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] จำนวนบัณฑิตทั้งหมด 109 4.24
[2] จำนวนบัณฑิตที่ได้รับการประเมิน 28
[3] ผลรวมของค่าคะแนนที่ได้จากการประเมินบัณฑิตมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 4.24
[4] ผลรวมของค่าคะแนนที่ได้จากการประเมินบัณฑิตด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 4.24
[5] ผลรวมคะแนนเฉลี่ยคุณภาพบัณฑิตตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2565
[5] = ([3] + [4]) / 2
4.24
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการดำเนินการผลิตบัณฑิตที่มีคุณลักษณะตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาและมีผลลัพธ์ผู้เรียนที่ใกล้เคียงกันในทุกด้าน
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-

[ตัวบ่งชี้ 2.2] ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี

หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด จะต้องตรงกับตาราง ตัวบ่งชี้ 2.1
(2) จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา

ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] จำนวนบัณฑิตทั้งหมด 109 4.40
[2] จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจ 89
[3] จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [มีงานทำในองค์กร] 39
[4] จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบอาชีพอิสระ] 21
[5] จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบกิจการส่วนตัว/ธุรกิจครอบครัว] 13
[6] จำนวนบัณฑิตที่ไม่ได้งานทำ 10
[7] จำนวนบัณฑิตที่ศึกษาต่อ 2
[8] จำนวนบัณฑิตที่อุปสมบท 1
[9] จำนวนบัณฑิตที่เกณฑ์ทหาร 3
[10] จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มีงานทำก่อนเข้าศึกษา 0
[11] ร้อยละที่ได้
[11] = (([3] + [4] + [5]) x 100) / ([2] – ([7] + [8] + [9] + [10]))
87.95
[12] ผลลัพธ์ที่ได้
[12] = ([11] x 5) / 100
4.40
[13] เงินเดือนหรือรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยของผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้งานทำ หรือประกอบอาชีพอิสระ (บาท) 20000.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ในจำนวนบัณฑิตที่ไม่ได้งานทำ จำนวน 10 คน ควรมีการอธิบายถึงสาเหตุของการไม่ได้งานทำเพื่อจะทำให้เห็นภาพการได้งานทำของหลักสูตรมากยิ่งขึ้น
- ร้อยละของบัณฑิตที่ได้งานทำมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากร้อยละ 81.65 ในปีการศึกษา 2566 มาเป็นร้อยละ 87.95 ในปีการศึกษา 2567 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 2 (2 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 4.32 คะแนน

องค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา

[ตัวบ่งชี้ 3.1] การรับนักศึกษา

คะแนนที่ได้ 3
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การรับนักศึกษา:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ในการชี้แจงปัจจัยที่มีผลต่อการรับนักศึกษาค่อนข้างชัดเจนและเห็นปัญหาโดยรวม 
- หลักสูตรมีกลไกในการดำเนินงานรับนักศึกษา แต่จำนวนการรับในปีการศึกษา 2567 ยังต่ำกว่าเป้าที่กำหนด อาจจะต้องใช้กระบวนการสื่อสารภายนอกเพื่อเน้นจุดเด่นของหลักสูตรมากขึ้น
- 1. หลักสูตรมีการทำ SWAT Analysis วิเคราะห์ปัจจัยและสาเหตุที่มีผลกระทบต่อจำนวนนักศึกษาใหม่ตามแผนการรับนักศึกษา และปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อการคงอยู่ของนักศึกษา สามารถจำแนกได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1)ปัจจัยภายในตัวนักศึกษา 2)ปัจจัยจากระบบสนับสนุนและการบริหารจัดการ 3)ปัจจัยภายในหลักสูตรที่อาจส่งผลต่อการรับนักศึกษา และ 4)การวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบ
2. ในปีการศึกษา 2567 ผลการดำเนินงานบรรลุตามเป้าหมาย โดยสามารถรับนักศึกษาใหม่ได้ทั้งหมด 184 คน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 16 คน สะท้อนถึงประสิทธิภาพของกลไกแนะแนว ประชาสัมพันธ์ และการบริหารจัดการการรับนักศึกษาที่ยังต้องปรับปรุงเชิงกลยุทธ์ต่อไป
จากการวิเคราะห์ข้อมูลการรับนักศึกษายังพบว่า นักศึกษาใหม่ส่วนใหญ่มีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม (GPA ≥ 2.00) มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์เพิ่มเติม ทั้งนี้ หลักสูตรได้จัดเก็บข้อมูลและประเมินผลเพื่อ ทบทวนเกณฑ์การรับนักศึกษา และปรับปรุงระบบแนะแนวในรอบปีถัดไป โดยให้ความสำคัญกับการสื่อสารจุดเด่นของหลักสูตรและการส่งเสริมความพร้อมของผู้เรียน
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรอาจพิจารณาเข้าร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัยรังสิตตามโครงการ Academic as Marketing โดยการพิจารณาการประชาสัมพันธ์ภาพความสำเร็จที่เกิดกับนักศึกษาที่บรรลุ ALO, CLO, SLO, YLO และ PLO ผ่านสื่อโซเชี่ยวออนไลน์ต่าง ๆ หรือส่งข้อมูลดังกล่าวให้กับ Brand Ambassadors หรือสร้างกิจกรรมผ่านแอพลิเคชั่น RSYOU เพื่อเข้าถึง Target Marketing และเพิ่มโอกาสในการรับสมัครนักศึกษาใหม่ให้มากขึ้น  
การเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีการทำ  one stop service / SMART team ซึ่งเป็นข้อในการที่ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับหลักสูตรได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ (อยากให้เพิ่มรายละเอียดคร่าวๆว่า ดำเนินการอย่างไรและผลลัพธ์ที่ได้มีอะไร เช่น แบบประเมินความพึงพอใจ ผลจากการได้ยอดนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นจากการให้ข้อมูลอย่างใกล้ชิด) 
- หลักสูตรมีกลไกในการเตรียมความพร้อม โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง และกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น First Date การปรับตัวการทำงานเป็นทีม เป็นต้น 
- หลักสูตรมีการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่ทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติที่จำเป็นในการเรียนในสายวิชาชีพสถาปัตยกรรม ประกอบด้วย 
1. ระบบและแนวปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมผ่านการเรียนในรายวิชาต่าง ๆ ระบบการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่ของหลักสูตร ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 3 ระยะในปีการศึกษา โดยเริ่มจากเทอม S/2566 ผ่านกระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง โดยมีการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น โครงการ “First Date” และ ปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ (รหัส 67) กิจกรรมพี่ช่วยน้องออนไลน์ ผ่านกลุ่ม Facebook และ LINE
บูรณาการการเรียนรู้ในรายวิชาหมวดศึกษาทั่วไป (RSU111 RSU243 และ RSU108) โดยใช้อาจารย์ผู้สอนจากคณะฯ เป็นผู้ออกแบบเป้าหมายและกิจกรรมที่บูรณาการเนื้อหาของสาขาวิชา ซึ่งช่วยปรับทักษะพื้นฐานทางวิชาการ วิชาชีพ และทัศนคติในการเรียนของนักศึกษาอย่างครอบคลุม โดยกิจกรรมต่างๆ ถูกออกแบบให้มุ่งเน้น การปรับพื้นฐานการรับรู้มิติสัมพันธ์ การส่งเสริมทักษะการคิดในการออกแบบขั้นต้น การมีวินัย การปรับตัวในการทำงานระบบทีม และการสื่อสารเชิงสร้างสรรค์ โดยในภาคเรียน 1/2567 และ 2/2567 จะเน้นการเสริมพื้นฐานทางวิชาชีพโดยตรง ผ่านแบบฝึกในรายวิชา ARC111 Architectural presentation ที่บูรณาการกับรายวิชาออกแบบ ARC 103 และรายวิชา ARC142 Design communication ที่บูรณาการกับรายวิชาการออกแบบ ซึ่งมีแบบฝึกเสริมพร้อมเฉลยให้นักศึกษาฝึกซ้ำได้ตลอดเวลา เพิ่มระดับความซับซ้อนอย่างต่อเนื่อง

2. เป้าหมายและตัวชี้วัด หลักสูตรเป้าหมายการเตรียมความพร้อมอย่างชัดเจน ดังนี้
(1) นักศึกษาใหม่ที่ลงทะเบียนเรียนหมวดวิชาศึกษาทั่วไปในภาคการศึกษาที่ S/2567 ร้อยละ 100 ต้องได้รับการปูพื้นฐานในทักษะที่จำเป็น โดยเฉพาะความรู้เบื้องต้นด้านการออกแบบและการมองมิติสัมพันธ์ ก่อนเริ่มเรียนในวิชาออกแบบเบื้องต้น (ARC103) ในภาค 1/2567
(2) นักศึกษาใหม่ ร้อยละ 100 จะต้องเข้าร่วมกิจกรรมเตรียมความพร้อมในช่วงเทอม S/2567
(3) นักศึกษาใหม่ ต้องผ่านการวัดผลการเรียนและการประเมินพฤติกรรมการเรียนรู้ (โดยอาจารย์ผู้สอน การประเมินด้วยระบบกลุ่ม และการประเมินตนเอง) เพื่อประเมินความพร้อมเชิงองค์รวมของนักศึกษา

3. ผลลัพธ์และข้อมูลสะท้อนกลับ ผลการดำเนินงานในปีการศึกษา 2567 พบว่า 
(1) นักศึกษาใหม่ส่วนใหญ่มี สมรรถนะด้านพื้นฐานเพิ่มขึ้น (วัดอย่างไร อิงกับอะไร) โดยเฉพาะในเรื่องการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ การรับรู้มิติสัมพันธ์ และการสื่อสารความคิดสร้างสรรค์ 
(2) การผนวกแบบฝึกเสริมในวิชา ARC111 และ ARC142 โดยการสื่อสารเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้ของชั้นปีที่ชัดเจน ทำให้ได้รับการตอบรับที่ดี และนักศึกษาสามารถฝึกฝนได้ทุกที่ทุกเวลา และช่วยลดความกังวลต่อการเรียนในวิชาออกแบบ
(3) กิจกรรมระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้แบบไม่เป็นทางการ ทำให้ผู้เรียนมีความมั่นใจและกล้าแสดงออกมากขึ้น
(4) นักศึกษาที่มีผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดในการรับเข้า ได้รับการดูแลและติดตามต่อเนื่องจากอาจารย์ที่ปรึกษา ทำให้สามารถปรับตัวเข้าสู่ระบบการเรียนของหลักสูตรได้ในระยะเวลาอันเหมาะสม

4. กลไกการดำเนินงานและการจัดการ ระบบการเตรียมความพร้อมของหลักสูตร ดำเนินงานโดยกลไก 3 ระดับ คือ 
(1) Manpower ได้แก่ ทีมอาจารย์ผู้สอนรายวิชาพื้นฐานและศึกษาทั่วไป ทีมสโมสรนักศึกษา ทำหน้าที่บริหารจัดการกิจกรรมระหว่างนักศึกษา นักศึกษารุ่นพี่ทำหน้าที่พี่เลี้ยงและวิพากษ์งานในกิจกรรมร่วม
(2) Timeframe เป็นการดำเนินงานต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ในภาคเรียน S/2567 และต่อเนื่องในเทอม 1/2567 และ 2/2567 เพื่อให้ครอบคลุมกระบวนการปรับพื้นฐาน
(3) Cost เป็นการใช้งบประมาณร่วมกับโครงการพัฒนานักศึกษาที่ได้รับการจัดสรรจากมหาวิทยาลัย และมีการบูรณาการกับกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อลดความซ้ำซ้อน

5. การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลการประเมินผลจากอาจารย์ผู้สอนและรุ่นพี่ ถูกนำมาใช้ในการ ปรับปรุงรูปแบบกิจกรรมในแต่ละปี เช่น การเพิ่มรูปแบบ Online Learning เสริมระหว่างเทอม การปรับรูปแบบโจทย์ฝึกทักษะให้เหมาะกับบริบทการเรียน และการจัดทำ แบบฝึกสำเร็จรูปพร้อมเฉลย (Self-Learning Modules) ที่นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
การพัฒนาระบบการเตรียมความพร้อมนี้ คาดหวังให้อัตราการคงอยู่ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ไปยังชั้นปีที่ 2 มีแนวโน้มดีขึ้น และช่วยลดอัตราการ Drop-out จากปัญหาความไม่พร้อมทางวิชาชีพในช่วงปีแรก
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
(ผศ.สมศักดิ์) 1. กิจกรรมการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่ที่หลักสูตรรายงานด้านบนล้วนเป็นกิจกรรมผ่านการเรียนในรายวิชาทั้งสิ้น โดยมีการระบุวัตถุประสงค์การเรียนรู้และมีการระบุตัวชี้วัดเชิงปริมาณ ยังขาดตัวชี้วัดด้านผลลัพธ์การเรียนรู้ ในการเตรียมความพร้อมแต่ละด้าน
2. หลักสูตรควรออกแบบเครื่องมือวัดและวิธีการประเมินผลลัพธ์การเรียนรู้ในรายความรู้หรือทักษะหรือเจตคติแล้วกำหนดค่าเป้าหมายตามตัวชี้วัดความสำเร็จ เช่น ร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ของนักศึกษาในด้านความรู้หรือทักษะหรือเจตคติ ทำการวิเคราะห์หา Quality Gap เพื่อออกแบบแนวทางการปรับปรุงกระบวนการ/กิจกรรม/โครงการในรอบปีการศึกษาถัดไป
3. หลักฐานชิ้นที่ 1 (สถบ.3.1.01 โครงการกิจกรรมพัฒนานักศึกษาเพื่อสร้างเสริมประสบการณ์) เป็น 7 กิจกรรมย่อย ๆ เชิงสันทนาการและไม่ได้นำมารายงานใน RQF.7 และหลักฐานชิ้นที่ 2 (สถบ.3.1.02 โครงการปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ (รหัส 66)) ควรนำรายละเอียด วัตถุประสงค์การเตรียมความพร้อมของโครงการดังกล่าวมารายงานความสำเร็จตามเป้าหมายตัวชี้วัดด้วย

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 3.2] การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา

คะแนนที่ได้ 3
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
 
  1. มีระบบอาจารย์ที่ปรึกาาส่วนตัวผ่านเว็บไซต์ (แยกออกจากทางคณะ/หลักสูตร) ทำให้ นักศึกษากล้าที่จะแสดงความเห็น ข้อสงสัยและปรึกษาเรื่องส่วนตัวได้ 
  2. ระบบอาจารย์ที่ปรึกษาวางระบบที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ 
- หลักสูตรมีระบบและกลไกในการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี โดยมีระบบอาจารยืที่ปรึกษาประจำตัว ระบบอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้นปี และระบบอาจารย์ที่ปรึกษากิจกรรมพัฒนานักศึกษา และจะปรับปรุงที่ปรึกษาเชิบูรณาการ ถ้ามีการประเมินผลให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากขึ้นจะดีมาก

1. ระบบอาจารย์ที่ปรึกษาประจำตัว ผลลัพธ์การดำเนินงาน ได้คะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยจากผู้ประเมิน 40 คน ที่ระดับคะแนน 4.41 อยู่ในระดับดี แม้ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนหน้าที่ได้ 4.63 แต่ยังเป็นภาพสะท้อนถึงระบบที่มีประสิทธิภาพที่ทำให้นักศึกษารู้สึกปลอดภัยและผูกพันกับอาจารย์แม้ไม่ใช่ที่ปรึกษาประจำตัว
2. ระบบอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้นปี ผลลัพธ์การดำเนินงาน พบว่า ระบบอาจารย์ที่ปรึกษาประจำชั้นปี ช่วยเพิ่มโอกาสและเวลาในการดูแลนักศึกษาได้อย่างใกล้ชิด สามารถสังเกตจพฤติกรรมระหว่างการเรียนที่แสดงถึงความสม่ำเสมอหรือผิดปกติ รวมทั้งกรณีนักศึกษาที่มีปัญหาการเรียนของแต่ละรายวิชาในแต่ละชั้นปี ช่วยเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างนักศึกษากับอาจารย์ ส่งเสริมการเฝ้าระวังความเสี่ยงเชิงพฤติกรรม และลดอัตราการเรียนตกหรือออกกลางคัน
3. ระบบ One Stop Service และ SMART TEAM ผลลัพธ์การดำเนินงาน พบว่า เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพและสนับสนุนการอำนวยความสะดวก ให้บริการแก่นักศึกษาแบบออนไลน์ และ ออนไซท์ ในการติดต่อประสานงานกับหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง เช่นการยื่นคำร้องต่างๆ ต่อสำนักงานทะเบียน สถาบันภาษา การหาคำตอบให้กับนักศึกษา การประสานงานอาจารย์ที่ปรึกษา เป็นต้น 
4. ระบบอาจารย์ที่ปรึกษากิจกรรมพัฒนานักศึกษา ผลการดำเนินงานพบว่า นักศึกษาสโมสรนักศึกษา มีความสะดวกและคล่องตัวในการวางแผนการดำเนินงาน และบริหารจัดการ คน สถานที่ งบประมาณ รวมทั้งช่วยงานคณะฯ ในการรวบรวมคน ในการแจกแบบประเมิน ในการสื่อสารประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆ ผ่านช่องทางเฉพาะของนักศึกษา ช่วยเพิ่มความคล่องตัวของนักศึกษาในกิจกรรม ส่งผลให้กิจกรรมมีความสำเร็จในทุกด้านอย่างเป็นรูปธรรม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
1. หลักสูตรควรประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อระบบอาจารย์ที่ปรึกษาให้ครบทั้ง 4 ระบบ เนื่องจากมีการรายงานผลการประเมินแค่ระบบที่ 1 เพียงระบบเดียวเท่านั้น
2. เห็นด้วยกับหลักสูตรที่มีแนวทางการปรับปรุงระบบอาจารย์ที่ปรึกษาในปีการศึกษาต่อไป คือ การพัฒนาแนวทาง “ที่ปรึกษาเชิงบูรณาการ” ที่ผสานบทบาทการเรียน การออกแบบ และการแนะแนวไปพร้อมกันในบริบทของหลักสูตรสถาปัตยกรรม ด้วยการจัดอาจารย์ที่ปรึกษาประจำตัวจากอาจารย์ผู้สอนในแต่ละชั้นปี เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสพบอาจารย์ที่ปรึกษาทุกครั้งที่มาเข้าเรียน ทั้งยังได้มีโอกาสเข้ารับการตรวจแบบจากอาจารย์ที่ปรึกษาด้วย ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวการศึกษา มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการกำหนดทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ใน 5 ด้าน โดยผ่านกิจกรรม 6 โครงการ แต่ขาดการประเมิน
1. หลักสูตรมีโครงการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ใน 5 กลุ่มโครงการรวม 17 กิจกรรมย่อย และมีการทำ Mapping เชื่อมโยงกับการพัฒนาใน 5 ด้านประกอบด้วยด้านความคิดสร้างสรรค์ ด้านเทคโนโลยี/สารสนเทศ ด้านการเป็นผู้นำและการทำงานเป็นทีม ด้านจิตอาสา และด้านอาชีพอย่างชัดเจน 
2. หลักสูตรมีการรายงานความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ที่ 4.47 คะแนน 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
1. หลักสูตรยังไม่ได้รายงาน ALO ใน 17 กิจกรรมแยกตาม 5 ด้านการพัฒนา 
2. หลักสูตรควรกำหนดเครื่องมือวัดและประเมินผลในรายทักษะให้ชัดเจนเพื่อวิเคราะห์ร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ (ร้อยละนักศึกษาที่มี ALO รายกิจกรรม) ว่าเป็นไปตามเป้าหมายการเรียนรู้หรือไม่ ยังมี Quality Gap ในรายทักษะเหลืออยู่เท่าไหร่ เพื่อนำผลประเมินไปปรับปรุงกิจกรรม/กระบวนการอย่างมีนัยสำคัญ 
การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- พัฒนาผลงานทางวิชาการและส่งเข้าประกวดเวทีระดับชาติ / นานาชาติ สะท้อนถึงความเข้มแข็งในทางด้านการวิจัยและพัฒนาของหลักสูตร 
- หลักสูตรส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลงานวิจัยผ่าน 4 รายวิชา โดยผลงาน 3 ผลงานได้รับการคัดเลือกและเสนอประชุมวิชาการระดับนานาชาติ นอกจากนี้ผลงานวิทยานิพนธ์จำนวน 102 ผลงาน ยังตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ 6 ด้าน
1. ในปีการศึกษา 2567 หลักสูตรฯ ได้ดำเนินการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในด้านการวิจัยและนวัตกรรมผ่านการเรียนการสอนในรายวิชาหลัก ได้แก่
รายวิชา ARC202 การออกแบบสถาปัตยกรรม 3
รายวิชา ARC423 หัวข้อพิเศษเพื่อการออกแบบสถาปัตยกรรม
รายวิชา ARC572 สหกิจศึกษา
รายวิชา ARC599 วิทยานิพนธ์

2. รายวิชา ARC599 วิทยานิพนธ์ ได้รับการออกแบบให้ใช้กระบวนการศึกษาภาคสนาม การวิเคราะห์ประเด็นปัญหา และการประยุกต์องค์ความรู้ เพื่อออกแบบงานสถาปัตยกรรมโดยใช้ ระเบียบวิธีวิจัย อย่างเป็นระบบ ซึ่งในปีการศึกษา 2567 มีผลงานวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาจำนวน 102 โครงการ ครอบคลุมประเด็นที่ตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติทั้ง 6 ด้านอย่างชัดเจน โดยสามารถจัดกลุ่มผลงานตามความสอดคลังเชิงยุทธศาสตร์

3. ผลงานวิจัยและการสร้างสรรค์ของนักศึกษาในรายวิชาเหล่านี้บางส่วนได้รับการพัฒนาและเผยแพร่ร่วมกับคณาจารย์ในเวทีประชุมวิชาการระดับนานาชาติ อาทิ Art & Design Symposium “WORK IN PROGRESS” 2025: Architecture Session ซึ่งในปีการศึกษา 2567 มีผลงานของนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกและนำเสนอจำนวน 3 ผลงาน ถือเป็นผลสัมฤทธิ์ที่สะท้อนถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของหลักสูตรในการส่งเสริมความสามารถเชิงวิจัยที่มีศักยภาพ

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรควรรายงานร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้รายวิชา ARC202, ARC203, ARC572, ARC599 ว่าสามารถส่งเสริมให้นักศึกษาทุกคนเกิด Research Skill และมีตัวชี้วัดความสำเร็จในการเกิดการสร้างผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ (ร้อยละ ระบุตัวเลข)
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-

[ตัวบ่งชี้ 3.3] ผลที่เกิดกับนักศึกษา

ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การคงอยู่
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 78.99
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 82.67
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 75.00
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรควรรายงานเรื่องการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษาว่ามีการร้องขอในเรื่องใดบ้าง และหลักสูตรได้แก้ไขปัญหาอย่างไรในเรื่องร้องขอเหล่านั้น 
การสำเร็จการศึกษา
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 69.75
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 75.33
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 67.76
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ความพึงพอใจและผลการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 4.44
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 4.37
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 4.26
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
คะแนนที่ได้ 2
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 3 (3 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 2.67 คะแนน

องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์

[ตัวบ่งชี้ 4.1] การบริหารและพัฒนาอาจารย์

คะแนนที่ได้ 4
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
- หลักสูตรมีกระบวนการบริหารและพัฒนาอาจารย์ที่ส่งผลให้เกิดคุณภาพอาจารย์ (ระดับ 4 ในตัวบ่งชี้ 4.2) และส่งผลให้เกิดแนวโน้มที่ดีต่อผลที่เกิดขึ้นกับอาจารย์ในเรื่องอัตราคงอยู่ แต่ควรปรับปรุงผลการดำเนินงานของแนวโน้มความพึงพอใจของอาจารย์ที่มีต่อคุณภาพหลักสูตร (ระดับ 3 ในตัวบ่งชี้ 4.3)
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ระบบการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีระบบและกลไกการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ทำให้มีจำนวนอาจารย์และคุณสมบัติครบตามที่กำหนด (ในเล่มที่การเขียนรับอาจารย์ใหม่ 1 คน น่าจะรับเป็นอาจารย์ประจำ) 
-       การวางแผนระยะยาวด้านอัตรากำลังอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรให้เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร จาการปรับปรุงหลักสูตร ปี พ.ศ. 2567 เป็นโอกาสในการปรับเปลี่ยนรายชื่ออาจารย์ที่ใกล้จะเกษียณอายุและเพิ่มจำนวนอาจารย์รุ่นใหม่ ที่มีตำแหน่งทางวิชาการ ที่มีศักยภาพในการพัฒนาตามคุณสมบัติของการเป็นผู้รับผิดชอบหลักสูตร เข้ามาเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตร จากเดิมจำนวน 8 คน เพิ่มเป็น 10 คน เพื่อในระยะยาว อาจารย์ประจำหลักสูตรที่เป็นคนรุ่นใหม่ จะได้พัฒนาเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในโอกาสต่อไป 
       ในปีการศึกษา 2567 หลักสูตรมีจำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรฯ คงเดิม เป็นไปตามคุณสมบัติ ด้านวุฒิการศึกษา ตำแหน่งทางวิชาการ ผลงานวิชาการย้อนหลังในรอบ 5 ปี รวมถึงประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติการวิชาชีพ ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรที่กำหนดโดย สป.อว. 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ระบบการบริหารอาจารย์:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีระบบและกลไกในการกำหนดภาระงาน ทั้งภาระงานสอน ภาระงานให้คำปรึกษา และอื่นๆ  แตไม่มีการกำหดภาระงานด้านการวิจัย การบริการทางวิชาการและการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมด้วย 
- หลักสูตรฯ กำหนดหน้าที่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรฯ ไว้ดังนี้
     1) จัดให้มีการประชุมหลักสูตรฯ ทุกภาคการศึกษาอย่างน้อยภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง (มหาวิทยาลัยรังสิต จะมีภาคการศึกษาปกติ 2 ภาค และภาคฤดูร้อน 1 ภาค) เพื่อให้สามารถดำเนินการวางแผน ติดตาม และตรวจสอบการดำเนินงานของหลักสูตรฯ ตลอดปีการศึกษา
     2) ติดตามและตรวจสอบการจัดทำและส่ง มคอ.3 และมคอ.4 ของอาจารย์ผู้สอนทุกคนให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภาคเรียน โดยจัดทำ มคอ.5 และมคอ.6 ให้แล้วเสร็จหลังสิ้นสุดภาคการศึกษาภายใน 30 วัน
     3) จัดทำ มคอ.7 ให้แล้วเสร็จหลังสิ้นสุดปีการศึกษาภายใน 60 วัน
     4) ทวนผลสัมฤทธิ์ของรายวิชาตามที่กำหนดไว้ใน มคอ.3 ในแต่ละภาค
     5) ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนและประเมินผลโดยรายงานใน มคอ.7 ปีการศึกษาที่ผ่านมา
     6) มีการมอบหมายภาระหน้าที่อื่นๆ ตามความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญของอาจารย์ รวมไปถึงความสมัครใจในการทำงานอื่นโดยผ่านกระบวนการประชุมของฝ่ายวิชาการ
     7) กำหนดให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรฯ ต้องเข้าร่วมประชุม อบรม สัมมนาทางวิชาการอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง โดยทางมหาวิทยาลัยออกค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียน ตามระเบียบมหาวิทยาลัย
     8) เก็บรวบรวมข้อมูลการได้งานทำของบัณฑิต และประเมินความพึงพอใจของบัณฑิต/นายจ้าง
     9) จัดการเรียนการสอนที่มีการบูรณาการกับงานวิจัย การบริการทางสังคมและการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม

       ในปีการศึกษา 2567 อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรฯ ได้มีการดำเนินการตามหน้าที่ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
    1) มีการจัดประชุมอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรฯ ร่วมกับคณะกรรมการคณะฯ อย่างน้อยภาคการศึกษาละ 1 ครั้ง หรือมากกว่า เพื่อการวางแผนการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
    2) กำหนดวัน-เวลาให้อาจารย์ผู้สอนทุกรายวิชานำส่ง มคอ. 3 และ มคอ. 4 ก่อนเปิดภาคการศึกษาและกำหนดเวลาส่ง มคอ.5 และ มคอ.6 หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาให้กับหัวหน้าหลักสูตรฯ เพื่อรวบรวมส่งสำนักงานมาตรฐานวิชาการตามกำหนดการที่คณะได้แจ้งให้ทราบ

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ระบบการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ให้มีคุณภาพทั้งด้านความรู้ ความสามารถในเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ สามารถก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่ มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาศาสตร์ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ส่งเสริมให้อาจารย์ลาเรียนต่อพื่อเพิ่มศักยภาพการสอนและวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้น
- หลักสูตรจะเน้นการผลิตผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ ควรเพิ่มด้านการจัดการเรียนรู้มีความก้าวหน้าอย่างไรด้วย
- หลักสูตรมีระบบกลไกและแผนในการพัฒนาตนเองเป็นรายบุคคลที่ชัดเจน มีโครงการพัฒนาขีดความสามารถของอาจารย์คณะสถาปัตยกรรมและมีการรายงานผลการพัฒนาตนเองเป็นรายบุคคล 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรอาจกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จในการพัฒนาอาจารย์รายด้าน เช่น ด้านการวิจัย (อาจเป็นจำนวนหัวข้อการวิจัยหรือทุนวิจัย) ด้านบริการวิชาการ (อาจเป็นจำนวนกิจกรรมหรือบริการวิชาการ) ด้านการพัฒนาความรู้ตามศาสตร์สาขาหรือศาสตร์การสอน (อาจเป็นจำนวนครั้งการเข้าร่วมอบรมสัมมนาต่าง ๆ ) เพื่อทำการประเมินความสำเร็จและนำไปสู่การปรับปรุงการดำเนินการต่อไป 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-

[ตัวบ่งชี้ 4.2] คุณภาพอาจารย์

4.2.1 ร้อยละของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5 5.00
[2] จำนวนอาจารย์ที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก 4
[3] ร้อยละที่ได้
[3] = [2] X 100 / [1]
80.00
[4] ผลลัพธ์ที่ได้
[4] = [3] X 5 / 20
5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
4.2.2 ร้อยละของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5 5.00
[2] ไม่มีตำแหน่งทางวิชาการ [อาจารย์] 2
[3] ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ 3
[4] ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ 0
[5] ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ 0
[6] ดำรงตำแหน่งทางวิชาการทั้งหมด
[6] = [3] + [4] + [5]
3
[7] ร้อยละที่ได้
[7] = [6] X 100 / [1]
60.00
[8] ผลลัพธ์ที่ได้
[8] = [7] x 5 / 60
5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
4.2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
จำนวนผลงานทางวิชาการตามค่าถ่วงน้ำหนัก
ค่าถ่วงน้ำหนัก 0.20 0.40 0.60 0.80 1.00
จำนวนผลงาน (ชิ้น) 0 2 0 0 0
จำนวนผลงานสร้างสรรค์ตามค่าถ่วงน้ำหนัก
ค่าถ่วงน้ำหนัก 0.20 0.40 0.60 0.80 1.00
จำนวนผลงาน (ชิ้น) 0 0 0 0 4
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] ผลรวมถ่วงน้ำหนักที่ได้ 4.80 5.00
[2] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5
[3] ร้อยละที่ได้
[3] = [1] X 100 / [2]
96.00
[4] ผลลัพธ์ที่ได้
[4] = [3] X 5 / 20
5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ควรพัฒนาผลงานทางด้านวิชาการ และ ผลงานสร้างสรรค์ให้เพิ่มมากขึ้น 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
รายการหลักฐาน ตัวบ่งชี้ 4.2 คุณภาพอาจารย์
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-

[ตัวบ่งชี้ 4.3] ผลที่เกิดกับอาจารย์

หมายเหตุ :
(1) ยกเว้นกรณี การเกษียณอายุงาน และการเสียชีวิต
(2) หากรายชื่อมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากปรับเข้าเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2565 ให้ถือว่าอัตราการคงอยู่ครบในปีการศึกษาแรกที่ปรับเข้าเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2565
(3) หากรายชื่อที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบท่านใหม่ต้องมีประสบการณ์ร่วมบริหารหลักสูตรมาไม่น้อยกว่า 9 เดือน (ต้องมีหลักฐานรายงานการประชุมภาควิชาหรือการประชุมหลักสูตร)
(4) หากคะแนนความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรต่อการบริหารหลักสูตร เฉลี่ยของแต่ละปีการศึกษาที่นำมาวิเคราะห์แนวโน้มอยู่ในช่วงคะแนน 4.51 - 5.00 คะแนน ถือว่าแนวโน้มดี
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 100.00
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตร
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 4.42
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 4.20
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2567 ร้อยละ 4.15
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
คะแนนที่ได้ 3
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 4 (3 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 4.00 คะแนน

องค์ประกอบที่ 5 หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน

[ตัวบ่งชี้ 5.1] สาระของรายวิชาในหลักสูตร

40
32
80.00
คะแนนที่ได้ 4
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
- หลักสูตรจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการของกลุ่มวิชาเพื่อให้นักศึกษามีทักษะในการทำงานตามเป้าหมาย YLOs โดยผลที่เกิดขึ้นนักศึกษามีผลงานที่เกิดจากการเรียนรู้ตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
- หลักสูตร  วางแผนกลยุทธ์ และนโยบายการจัดการเรียนการสอนของหลักสูตร (PLOs) โดยมีคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์คณะฯกำกับ ติดตามสาระการเรียนรู้และประเมินผลการเรียนรู้ การจัดการเรียนการสอนร่วมกับอาจารย์ผู้รับผิดชอบวิชาและอาจารย์ผู้สอนในทุกชั้นปีให้เป็นไปตาม(CLOs) โดยมี Director แต่ละชั้นปี ควบคุมดูแลเป้าหมายการบูรณาการของกลุ่มวิชา ผ่านการบูรณาการรายวิชา(Sandbox Model)ในชั้นปี โดยกำหนดผลรับการเรียนรู้ร่วมกัน(YLOs) โดยมีคณะกรรมการกำกับมาตรฐานวิชาการ พิจารณาผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักศึกษา ร่วมถึงได้มีการปรับปรุงหลักสูตรให้มีความทันสมัยตามความก้าวหน้า เชื่อมโยงกับการนำไปใช้ได้จริง รวมทั้งมีการปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน และสอดคล้องกับความร่วมมือกับสถานประกอบการ

 
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การออกแบบหลักสูตร และสาระรายวิชาในหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน มีหลักสูตรหรือรายวิชาที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มีการสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชน มหาวิทยาลัย ฯลฯ
- หลักสูตรได้ออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยเน้น OBE โดยกำหนดคุณลักษณะของบัณฑิตให้สอดคล้องกับ KSEC ออกแบบการเรียนรู้เชิงบูรณาการระหว่างชั้นปี และองค์กรภายนอก 
- กลไกสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จของการออกแบบหลักสูตรคือ การบูรณาการข้อมูลจากหลายภาคส่วน ได้แก่
  • การสำรวจความต้องการของผู้เรียนผ่านแบบสอบถามและการสัมภาษณ์ในชั้นเรียน
  • การรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้บัณฑิตและสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง
  • การสะท้อนผลการเรียนรู้จากนักศึกษาและอาจารย์ผู้สอน
  • การประเมินผลสัมฤทธิ์ทั้งในรูปแบบ Formative และ Summative Assessment
             ผลจากกระบวนการนี้ ทำให้หลักสูตรสามารถกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนารายวิชาได้อย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น
-รายวิชา ARC402 การออกแบบสถาปัตยกรรม 6 ในระดับชั้นปีที่ 4  ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีโครงงานที่เชื่อมโยงกับสถานการณ์จริง โดยมีการจัดกิจกรรมภาคสนาม การบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญ และการวิเคราะห์กรณีศึกษาจากสถานที่จริง
-รายวิชา ARC423 หัวข้อพิเศษเพื่อการออกแบบสถาปัตยกรรม ยังเปิดพื้นที่ให้นักศึกษาเลือกโจทย์ตามความสนใจและความถนัด โดยมีระบบที่ปรึกษาร่วมจากทั้งอาจารย์ภายในและผู้เชี่ยวชาญภายนอก เพื่อส่งเสริมทักษะเชิงบูรณาการและความคิดสร้างสรรค์

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หน้า 146 หัวข้อ 2.1 ขอให้พิจารณาเนื่องจากการบูรณาการอาจจะมีปัญหาเรื่องการรับรู้ที่แตกต่างกัน และการถ่ายทอดดังกล่าวต้องมั่นใจว่าเป็นการถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้อง 
- การจัดทำความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ที่เพิ่มเติมในปีการศึกษา 2567 ระหว่าง หลักสูตรกับองค์กรภายนอก มีเนื้อหาการดำเนินการที่สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ของรายวิชาต่างๆ สรุปได้ดังนี้
  • สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์
  • บริษัท สยามมั่นคง จำกัด
  • JOSAI UNIVERSITY SAKADO, JAPAN
    ในการบูณณาการองค์กรภายนอกทั้งสามองค์กรดังกล่าวควรระบุวิชาและเป้าหมายที่เป็นความร่วมมือให้ชัดเจน เพื่อนำผลประเมินการเรียนรู้ในรายวิชาดังกล่าวสู่การปรับปรุงกระบวนการ
มีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้มาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการกำหนดครอบคลุมผลลัพธ์การเรียนรู้มาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน และเชื่อมโยงไปยัง PLO แต่อย่างไรก็ตามควรมีการนำเสนอกิจกรรมโครงการต่างๆที่ทำให้เกิกผลลัพธ์การเรียนรู้นั้นๆด้วย
- 1.หลักสูตรดำเนินการ mapping ระหว่าง plo , ksec และ doe3
2.ตาราง mapping ระหว่าง plo กับ doe3 ในหน้า 154-155 สามารถนำมาประยุกต์จัดทำแบบประเมินผู้ใช้บัณฑิต และการคำนวณคะแนนความพึงพอใจทั้งคะแนนราย plo และ เทียบเป็นคะแนน doe3 ตามการ mapping
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ควรมีตารางสรุปรายวิชาที่ปรากฏใน doe3 แต่ละตัว เพื่ออนาคตนำผลประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตมาพิจารณาปรับปรุงรายวิชาใน doe3
การปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยตามความก้าวหน้าในศาสตร์สาขานั้นๆ และเชื่อมโยงกับการนำไปใช้ได้ในชีวิตจริง
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรได้ออกแบบการเรียนรู้ที่มีความเชื่อมโยงตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 ถึงชั้นปีที่ 4 ตั้งแต่ออบแบบบนพื้นฐานทฤษฎีและความคิดสร้างสรรค์ ออกแบบบนพื้นฐานการก่อสร้างจริง ออกแบบบนพื้นฐานเพื่อการทำธุรกิจ จนถึงการออกแบบอาคารขนาดใหญ่ หรืออาคารพิเศษ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเรียนรู้สู่การทำงานจริงของหลักสูตร
1. ปีการศึกษา2567 หลักสูตรได้ดำเนินการตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรีสาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ (มคอ.2) ได้มีการปรับปรุงให้การจัดการเรียนรู้แต่ละรายวิชาของหลักสูตรมีความสอดคล้องกับ เป้าหมายสัมฤทธิ์ของหลักสูตร (PLOs) และสาระของรายวิชา (CLOs) ในรูปแบบบูรณาการ (Sandbox Model) หรือการบูรณาการการจัดการเรียนการสอนของกลุ่มวิชาในแต่ละชั้นปี (YLOs) ดำเนินการสอนแบบรายชั้นปีในแนวทางการออกแบบสถาปัตยกรรมบนพื้นฐานของทฤษฎีและความคิดสร้างสรรค์ และแนวทางการออกแบบสถาปัตยกรรมบนพื้นฐานของการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ร่วมกับองค์กรภายนอก โดยมีรายละเอียดกลุ่มรายวิชาแต่ละชั้นปีแบบ sandbox model ที่ mapping ไปสู้ yearly learning outcome ที่ชัดเจน(ตาราง p.157)
2. ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรมีการปรับปรุงเนื้อหารายวิชาให้ทันสมัยฯ รวม 32 วิชา จาก 40 วิชา คิดเป็นร้อยละ 80 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ในปีการศึกษาถัดไปหลักสูตรอาจพิจารณาผลสัมฤทธิการเรียนรู้รายชั้นปี ylo ที่เกิดขึ้นจริงกับนักศึกษา มาใช้ประกอบการพิจารณาปรับปรุงกระบวนการเช่น การ mapping รายวิชาใน sandbox หรือปรับเนื้อหา กิจกรรม หรือ วิธีประเมิน เป็นต้น
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-

[ตัวบ่งชี้ 5.2] การวางระบบผู้สอน และกระบวนการจัดการเรียนการสอน

คะแนนที่ได้ 3
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดผู้สอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีระบบและกลไกในการกำหนดผู้สอน มีการดำเนินงานและการประเมิน
- ปีการศึกษา2567 หลักสูตรได้ดำเนินการจัดสรรอาจารย์ผู้สอนให้เหมาะสมกับรายวิชาโดยยึดหลัก Sandbox Model เป็นแนวทางหลักในการออกแบบการเรียนรู้ ซึ่งส่งผลให้เกิดการบูรณาการระหว่างผลลัพธ์การเรียนรู้ของหลักสูตร (PLOs), รายวิชา (CLOs) และระดับชั้นปี (YLOs) อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรควรรายงานผลตามระบบกลไกการกำหนดอาจารย์ผู้สอนตามความเชี่ยวชาญโดยอาจนำเสนอในรูปแบบตาราง mapping รายวิชา รายชื่อผู้สอน และความเชี่ยวชาญ และควรแสดงให้เห็นกระบวนการตาม PDCA ว่ามีการปรับเปลี่ยนการกำหนดทีมสอนหรือความร่วมมือผู้สอนตาม sandbox model หรือมีการดึงวิทยากรพิเศษเพิ่มเติมตามความเหมาะสมของ CLOs อย่างไร
การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (RQF3 และRQF4) และการจัดการเรียนการสอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- คณะกรรมการกำกับมาตรฐานวิชาการ ซึ่งประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายในและภายนอก ได้เข้ามาร่วมให้ข้อคิดเห็นต่อ RQF.3 รวมถึงเสนอแนะแนวทางการพัฒนารายวิชาในมิติต่าง ๆ เช่น ความทันสมัยของเนื้อหา การบูรณาการเทคโนโลยีใหม่ หรือวิธีการวัดผลที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
        
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
การจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีที่มีการบูรณาการกับการวิจัย การบริการวิชาการทางสังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการบูรณาการครบ แต่ขาดการประเมิน
1. การบูรณาการรายวิชากับบริการวิชาการทางสังคม ได้แก่ โครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงปฏิบัติการ 4+1 ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างรายวิชา ARC104 การออกแบบสถาปัตยกรรม 1 และรายวิชา ARC402 การออกแบบสถาปัตยกรรม 7 ถูกบูรณาการผ่านโครงการ "4+1" ซึ่งเป็นการจับคู่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เพื่อร่วมกันลงพื้นที่จริงในชุมชนที่นักศึกษาสนใจทั่วประเทศ โดยมีอาจารย์ผู้สอนเป็นที่ปรึกษาตลอดกระบวนการ
2. การบูรณาการรายวิชากับการวิจัยได้แก่การผลิตองค์ความรู้จากห้องเรียนตามแนวคิดการบูรณาการรายวิชา Special Project และ Special Topic (Urban Planning) เข้ากับการสร้างผลงานวิจัยร่วมระหว่างนักศึกษาและอาจารย์ผู้สอน โดยมีการเผยแพร่ผลงานในเวทีระดับนานาชาติ เช่น 12th International Symposium ซึ่งเป็นหลักฐานของการพัฒนาศักยภาพการวิจัยเชิงออกแบบ (Research by Design) ตั้งแต่ในระดับปริญญาตรี


 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
1.หลักสูตรควรรายงานรายวิชาที่บูรณาการกับการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม
2.หลักสูตรควรนำผลประเมิน CLOs ของรายวิชาที่บูรณาการตามพันธกิจต่าง ๆ มาประกอบการพิจารณาปรับปรุง RQF.3 ของรายวิชาดังกล่าว
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-

[ตัวบ่งชี้ 5.3] การประเมินผู้เรียน

คะแนนที่ได้ 3
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การประเมินผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 และผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์ และจุดเน้นของหลักสูตรตลอดจนมาตรฐานวิชาชีพ (ถ้ามี)
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีการประเมินผู้เรียนที่หลากหลาย สอดคล้อง CLOs YLOs และ PLOs และมีการประเมินปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับมาตรฐานจากผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก เพื่อวิพากษ์รูปแบบการประเมินและเสนอแนะแนวทางการปรับปรุงที่เหมาะสมกับลักษณะการเรียนรู้แบบบูรณาการ ผลการดำเนินงานพบว่า นักศึกษาสามารถบูรณาการความรู้ ทักษะ และการออกแบบภายใต้สถานการณ์จริง โดยมีค่าร้อยละของนักศึกษาที่ผ่านเกณฑ์ความคาดหวังในแต่ละ CLO และ YLO ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 (ควรแสดงรายละเอียดและหลักฐานเพิ่มเติม)
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรควรปรับ template การรายงานทั้ง RQF.3 และ RQF.5 ที่เป็น obe version เพื่อการรายงานร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้รายวิชาของนักศึกษาให้ชัดเจน และเป็นการเตรียมการรายงานค่าแนวโน้มสัมฤทธิผลการเรียนรู้ของนักศึกษาที่จะรองรับการ post audit ต่อไป 
การตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ควรเขียนให้ชัดเจนและอธิบายสิ่งที่วางแผนการประเมิน อย่างเหมาะสมและเป็นระบบ ผ่านกระบวนการ วิพากษ์โดยคณะกรรมการบริหารหลักสูตร (ปกติต้องผ่านสาขาวิชาก่อนหรือเปล่าครับถึงเอาเข้ากรรมการบริหารหลักสูตร) และมีการปรับปรุงข้อสอบและกิจกรรมประเมินอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ทุกภาคการศึกษา
- หลักสูตรมีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษา หลักสูตรได้จัดให้มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในรายวิชาการออกแบบที่ครอบคลุมการเรียนรู้ในแต่ละชั้นปี
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
การกำกับการประเมินการจัดการเรียนการสอนและประเมินหลักสูตร (RQF5 RQF6 และ RQF7)
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- หลักสูตรควรกำกับติดตามให้รายวิชาต่าง ๆ ปรับปรุงการเขียน RQF.3 และ RQF.5 ตาม template version outcome base education 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-

[ตัวบ่งชี้ 5.4] ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565

หมายเหตุ: KPI ให้สอดคล้องและเป็นไปตามที่ระบุใน RQF.2
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร และผู้บริหารหลักสูตร อย่างน้อยร้อยละ 80 มีส่วนร่วมในการประชุมเพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนินงานหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ในปีการศึกษา 2567 อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีส่วนร่วมในการประชุม จำนวน 2 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 100
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- เอกสารหลักฐานการประชุมบางรายการจะไม่มีรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุม
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
2. มีรายละเอียดของหลักสูตร ที่สอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตรบัณฑิต เป็นหลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2567 โดยได้รับการรับทราบจาก สป.อว.
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
3. มีรายละเอียดแผนการจัดการเรียนการสอนรายวิชา และรายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม (ถ้ามี) ก่อนการเปิดสอนในแต่ละภาคการศึกษาให้ครบทุกรายวิชา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรได้จัดทำ RQF.3 และ RQF.4 ร้อยละ 100 ก่อนเปิดภาคการศึกษา
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
4. จัดทำรายงานผลการดำเนินการการจัดการเรียนการสอนรายวิชา และรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม ภายใน 30 วัน หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาที่เปิดสอนให้ครบทุกรายวิชา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรได้จัดทำ RQF.5 และ RQF.6 ร้อยละ 100 ภายใน 30 วัน หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาที่เปิดสอนครบทุกรายวิชา
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
5. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตร ภายใน 60 วัน หลังสิ้นสุดปีการศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
 - หลักสูตรได้จัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตร และรายงานต่อคณะ/ มหาวิทยาลัย เพื่อดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาภายใน ระดับหลักสูตร วันที่ 4 กรกฎาคม 2568
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
6. มีการทวนสอบผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่กำหนดในรายวิชา อย่างน้อยร้อยละ 25 ของรายวิชาที่หลักสูตรเปิดสอนในแต่ละปีการศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ในปีการศึกษา 2567 หลักสูตรเปิดทำการสอนจำนวน 40 รายวิชา มีการทวนสอบผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่กำหนดในรายชั้นปี จำนวน 10 วิชา คิดเป็นร้อยละ 25
 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
7. มีการทวนสอบผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่กำหนดในรายชั้นปี
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
8. มีการพัฒนา/ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน หรือ การประเมินผลการเรียนรู้ จากผลการประเมินการดำเนินงานที่รายงานปีที่แล้ว
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรได้ดำเนินงานปรับปรุงตามองค์ประกอบ นับว่าเป็นสิ่งที่ดี
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรมีการพัฒนา ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน และการประเมินผลการเรียนรู้ ตามข้อเสนอแนะใน RQF.7 ของปีการศึกษา 2566 ซึ่งได้ดำเนินการเรียบร้อยเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
9. อาจารย์ใหม่ (ถ้ามี) ทุกคนได้รับการปฐมนิเทศหรือคำแนะนำด้านหลักสูตร การเรียนการสอน และการประเมินผู้เรียน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
10. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคนได้รับการพัฒนาทาง ด้านวิชาการและ/หรือวิชาชีพอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ปีการศึกษา 2567 อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคน ได้มีการพัฒนาคุณภาพอาจารย์ทางวิชาการ/ วิชาชีพ ดังต่อไปนี้
1. ผศ.ดร.นฤพนธ์  ไชยยศ โครงการพัฒนาขีดความสามารถของคณาจารย์คณะสถาปัตยฯ ผ่านกรณีศึกษาวิชาเตรียมวิทยานิพนธ์ 13 มิ.ย.2567- 1ส.ค.2567
2. ผศ.ดร.ไพกานท์  รักษาสุทธิพันธ์ โครงการพัฒนาขีดความสามารถของคณาจารย์คณะสถาปัตยฯ ผ่านกรณีศึกษาวิชาเตรียมวิทยานิพนธ์ 13 มิ.ย.2567- 1ส.ค.2567
3. ผศ.กรพงศ์  กรรณสูต โครงการพัฒนาขีดความสามารถของคณาจารย์คณะสถาปัตยฯ ผ่านกรณีศึกษาวิชาเตรียมวิทยานิพนธ์ 13 มิ.ย.2567- 1ส.ค.2567
4. ดร.ปาริษา  มูสิกะคามะ โครงการพัฒนาขีดความสามารถของคณาจารย์คณะสถาปัตยฯ ผ่านกรณีศึกษาวิชาเตรียมวิทยานิพนธ์ 13 มิ.ย.2567- 1ส.ค.2567
5. ดร.ศศิกาญจน์  ศรีโสภณ โครงการพัฒนาขีดความสามารถของคณาจารย์คณะสถาปัตยฯ ผ่านกรณีศึกษาวิชาเตรียมวิทยานิพนธ์ 13 มิ.ย.2567- 1ส.ค.2567

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
11. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาปีสุดท้ายที่มีต่อคุณภาพหลักสูตร เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรได้ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาชั้นปีสุดท้าย 6 ด้านละเอียดดีมาก ถ้าจะสรุปเพิ่มในเชิงสถิติก็จะดีมากยิ่งขึ้น
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตร์บัณฑิต จัดทำแบบสอบถามเพื่อประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาชั้นปีสุดท้ายที่มีต่อคุณภาพหลักสูตร โดยมีคะแนนเฉลี่ย 4.08
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
12. ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตร์บัณฑิต จัดทำแบบสอบถามเพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ โดย มีคะแนนเฉลี่ย 4.25
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
13. ร้อยละ 80 ของรายวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอน สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนด
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตร์บัณฑิต มีการจัดการเรียนการสอน จำนวน 40 รายวิชา โดยสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนด คิดเป็นร้อยละ 100
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
14. “ระดับความพึงพอใจของนักศึกษา ต่อคุณภาพการเรียนการสอน” การสอนรวมทุกรายวิชา เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนน เต็ม 5.0
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- มาตรการในการให้นักศึกษาเข้าประเมินรายวิชาอย่างน้อยเกิน 60% เนื่องจากผู้ประเมินมีน้อยทำให้ผลประเมินที่เกิดขึ้นอาจไม่ใช่ค่าที่แท้จริง
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตร์บัณฑิต
มีการจัดการเรียนการสอน จำนวน 40 รายวิชา โดยมีการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอน จำนวน 39 รายวิชา ซึ่งรวมทุกรายวิชามีคะแนนเฉลี่ย 4.31
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
15. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอน เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนน เต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรสถาปัตยกรรมศาสตร์บัณฑิตจัดทำแบบสอบถามเพื่อประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอน (ควรครอบคลุมนักศึกษาทุกชั้นปีการศึกษา) โดยมีคะแนนเฉลี่ย 3.85
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ผลประเมินจะพบว่าชนิดของเครื่องคอมพิวเตอร์มีผลกระทบต่อการใช้งานของนักศึกษา อนาคตอาจจะต้องวางแผนให้เหมาะสม
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 5.4
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] รวมจำนวนตัวบ่งชี้ในแต่ละปี 14 5.00
[2] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านเฉพาะตัวบ่งชี้ที่ 1-5 1-5
[3] ร้อยละของตัวบ่งชี้ที่ 1-5 100
[4] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านรวม 14
[5] ร้อยละของตัวบ่งชี้ทั้งหมดที่ผ่าน 100.00
*หมายเหตุการกำหนดเงื่อนไขเกณฑ์การประเมิน
ถ้า [3] น้อยกว่าร้อยละ 100 ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 0.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานน้อยกว่า ร้อยละ 80 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 0.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ80 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 3.50
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 80.01 - 89.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ90.00 -94.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.50
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ95.00 -99.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.75
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ100 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 5.00
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 5 (4 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.75 คะแนน

องค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้

[ตัวบ่งชี้ 6.1] สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้

คะแนนที่ได้ 3
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ระบบการดำเนินงานของภาควิชา/คณะ/สถาบัน โดยมีส่วนร่วมของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เพื่อให้มีสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีระบบและกลไกในการจัดสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ผ่านคณะกรรมการอาคารและสิ่งแวดล้อม รับแจ้งปัญหาและดำเนินการแก้ไข
- หลักสูตรฯ มีโครงสร้างการบริหารงานโดยมี อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ร่วมเป็นที่ปรึกษาทำให้มีส่วนร่วมในการพิจารณา เพื่อให้มีสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้พอเพียงต่อจำนวนนักศึกษา มีกลไกคณะกรรมการ  2 ชุด คือ
1. คณะกรรมการคณะฯ ช่วยส่งเสริมการดำเนินงานของหลักสูตรฯ ทั้งในด้านบริหาร ด้านวิชาการ ด้านกิจการนักศึกษา และด้านการบริหารความเสี่ยง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนการสอน เพื่อการผลิตบัณฑิตให้เป็นไปตามคุณลักษณะที่พึงประสงค์
2. คณะกรรมการอาคารสิ่งแวดล้อม และสิ่งสนับสนุนการเรียนการสอน มีอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ผู้สอนประจำหลักสูตร ร่วมเป็นที่ปรึกษาในคณะกรรมการ มีการประชุมภาคเรียนละ 1 ครั้งเพื่อทบทวน และแก้ปัญหา โดยใช้ช่องทางการสื่อสาร ผ่านแชทกลุ่มคณะกรรมการ ทำงานร่วมกับ one stop service ของคณะฯ ในการประสานงานกับสำนักงานอาคารและสิ่งแวดล้อม สำนักบริการสารสนเทศ

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
จำนวนสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- หลักสูตรมีห้องปฏิบัติการโดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 230 เครื่อง มีจุดเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึง แต่มีความเพียงพอหรือไม่อย่างไร ควรต้องวิเคราะห์ในเชิงความเพียงพอด้วย 
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตรฯ มีจำนวนสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอนให้กับอาจารย์และนักศึกษา มีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการเรียนการสอนที่มีประจำอยู่ในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ของหลักสูตรฯ จำนวน 230 ชุด ในห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ทั้ง 2 ห้อง อีกทั้งยังมีการให้บริการด้านกายภาพที่เหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอน ได้แก่ ห้องบรรยาย ห้องตรวจงาน และห้องปฏิบัติงาน workshop ขนาดใหญ่ รวม 35 ห้อง และจุดเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตระบบไร้สายของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีการให้บริการอย่างทั่วถึง

 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- เนื่องจากหลักสูตรรายงานจำนวนสิ่งแวดล้อมในเชิงภาพรวม อาจทำให้การพิจารณาปรับปรุงกระบวนการจัดหาสิ่งสนับสนุนฯ ไม่ครอบคลุมการเรียนรู้ระดับรายวิชา หลักสูตรอาจพิจารณาการรายงานจำนวนสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอนที่ mapping กับรายวิชา เพื่อสอดคล้องกับแนวทาง obe เพิ่มมากขึ้น
กระบวนการปรับปรุงตามผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
- ความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ มีแนวโน้มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ควรต้องวิเคราะห์อย่างจริงจังและรีบดำเนินการแก้ไข
- ปีการศึกษา 2567 หลักสูตร ได้ใช้คอมพิวเตอร์ชุดใหม่ที่ห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ 19-319 จำนวน 170 เครื่อง ที่จัดซื้อมาในปีการศึกษา 2565 ทำให้ยังไม่มีปัญหาด้านอุปกรณ์ของห้องนี้ ประกอบกับการบริหารจัดการใช้ห้องเรียนให้เต็มที่ในเวลาตามตารางเรียนทั้งสองห้องจึงหลีกเลี่ยงการใช้ห้องปฏิบัติการ 19-317 ไม่ได้
               


 
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
- ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ อาคารสถานที่ สภาพแวดล้อม ครุภัณฑ์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอิ้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล เปรียบเทียบ 3 ปีการศึกษา มีแนวโน้มลดลง
1. ความพึงพอใจของอาจารย์ ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ด้านสภาพแวดล้อมและห้องเรียน 4.36, 4.25, 4.10
2. ความพึงพอใจของนักศึกษา ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ด้านสภาพแวดล้อมและห้องเรียน 4.56, 4.52, 3.76
     หลักสูตรอาจพิจารณาการปรับปรุงจากผลการประเมินในด้านที่มีผลคะแนนประเมินต่ำลงและต่ำกว่าด้านอื่น ๆ เช่น ด้านซอฟท์แวร์ และ ด้านอินเตอร์เนทเป็นต้น
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
-
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 6 (1 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.00 คะแนน

รายงานผลการวิเคราะห์จุดเด่น/จุดแข็ง แนวทางเสริม จุดที่ควรพัฒนา และแนวทางปรับปรุง

จุดเด่นและแนวทางเสริม

  1. หลักสูตรได้เน้นความเชื่อมโยงของระบบผลลัพธ์การเรียนรู้กับยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย อาทิ การผลักดันให้เกิดการจัดการเรียนรู้แบบ “Transformative Learning” ที่เน้นการเปลี่ยนผ่านเชิงวิธีคิด (mindset shift) และการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างนักศึกษา อาจารย์ และผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอก ผ่านกลไก Sandbox Model
  2. หลักสูตรได้ปรับปรุงหลักสูตร โดยยึดตาม กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ที่เน้น 4 สมรรถนะหลัก ได้แก่ ความรู้ (Knowledge), ทักษะ (Skill), คุณธรรมจริยธรรม (Ethics) และลักษณะบุคคลตามสมรรถนะสากล (Global Competence) แทนกรอบเดิมที่มี 5 ด้าน ส่งผลให้หลักสูตรต้องมีการทบทวนโครงสร้างการเรียนรู้ กิจกรรมเสริม และแบบประเมินผลทุกระดับ
  3. ภาวะการลดลงของประชากรเด็กวัยเรียนในระดับประเทศ ทำให้จำนวนนักเรียนมัธยมปลายที่เข้าสู่มหาวิทยาลัยลดลง ขณะเดียวกันการแข่งขันในตลาดอุดมศึกษาก็สูงขึ้น หลักสูตรจึงปรับกลยุทธ์โดยใช้ “ผลลัพธ์การเรียนรู้” เป็นเครื่องมือสร้างจุดขายเชิงคุณภาพ (academic brand) เช่น การออกแบบ ALO ที่เชื่อมโยงกับ Soft Skill, Mindset และทักษะอาชีพ แล้วถอดออกมาเป็นกิจกรรมที่แสดง external impact ให้โรงเรียนมัธยมปลายและผู้ปกครองเข้าใจจุดแข็งของหลักสูตรอย่างเป็นระบบ
  4. เป็นหลักสูตรที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะการสร้างสรรค์ผลงานทางการสร้างสรรค์ นวัตกรรม จากการส่งประกวดและได้รับรางวัลจากการส่งเข้าประกวด
  5. เป็นหลักสูตรที่มีอาจารย์ผู้สอนที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะด้าน การดำรงตำแหน่งทางวิชาการ วุฒิการศึกษา และจำนวนอาจารย์ที่เพียงพอต่อการเรียนการสอน
  6. เป็นหลักสูตรที่มีระบบการดูแลนักศึกษาที่ค่อนข้างดีและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างอาจารย์และนักศึกษา
  7. เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นปรับตัวให้ทันยุคสมัย และมีการปรับหลักสูตรให้เกิดการประยุกต์องค์ความรู้ ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เป็นการบูรณาการที่ดี
  8. หลักสูตรมีการกำหนด YLO ที่ขัดเจน และมีแผนการดำเนินงานที่ไปสู่ YLO ในแต่ละชั้นปี และมีผลงานที่สะท้อนในแตละ YLO นั้นๆ
  9. มีการจัดการเรียนการสอนที่บูรณาการของแต่ละชั้นปี ทำให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ทำให้เห็นแนวทางการพัฒนาตนเองได้ชัดเจนมากขึ้น

จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

  1. ในการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่ทุกด้านทุกกิจกรรมย่อย หลักสูตรควรกำหนดเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้การเตรียมความพร้อม เครื่องมือวัดและประเมินผล ทำการรายงานค่าร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ ALO เพื่อนำผลประเมินมาปรับปรุงกระบวนการ/กิจกรรมเพื่อเพิ่มสัมฤทธิผล และนำไปสู่ค่าแนวโน้มอัตราการคงอยู่ที่ดีต่อไป
  2. ในการจัดกิจกรรมพัฒนานักศึกษาทุกด้านทุกกิจกรรมย่อย หลักสูตรควรกำหนดเป้าหมายผลลัพธ์การเรียนรู้การพัฒนา เครื่องมือวัดและประเมินผล ทำการรายงานค่าร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ ALO เพื่อนำผลประเมินมาปรับปรุงกระบวนการ/กิจกรรมเพื่อเพิ่มสัมฤทธิผล และนำไปสู่ค่าแนวโน้มอัตราการสำเร็จการศึกษา และแนวโน้มความพึงพอใจของนักศึกษา
  3. หลักสูตรควรเปลี่ยนมาใช้ template RQF.3 และ RQF.5 ที่เป็น OBE version เพื่อรายงานค่าร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้ CLO เพื่อนำผลประเมินมาปรับปรุงกระบวนการ/กิจกรรมการเรียนการสอน และการวัดผลในรายวิชาต่าง ๆ ตลอดจนนำไปรายงานค่าแนวโน้ม CLO YLO และ PLO ต่อไป
  4. การทำเอกสาร RQF7 ถือเป็นเอกสารสำคัญสำหรับคณะที่สะท้อนถึงคุณภาพการบริหารจัดการของคณะ อยากจะเสนอแนะให้ปรับปรุงเรื่องของ 1. การเรียบเรียงเนื้อหา ให้เป็นลำดับและมีความต่อเนื่อง 2. การตรวจสอบเรื่องแบบประเมินที่สะท้อนถึงความถูกต้องของคะแนนที่ได้รับ เช่น การประเมินได้ความพึงพอใจ 100% 3. การตรวจสอบความครบถ้วนของเอกสาร
  5. จากผลประเมินในเรื่องของเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีแนวโน้มลดลง ควรต้องรีบหาแนวทางในการแก้ไขก่อนที่ผลกระทบจะมากกว่านี้

การตรวจสอบในการดำเนินการจัดการศึกษา เพื่อการรับรองมาตรฐานการอุดมศึกษาในหลักสูตรการศึกษา (Post - Audit)

1. ผลลัพธ์การเรียนรู้

ผู้เรียนมีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาการของผลลัพธ์การเรียนรู้แต่ละด้านระหว่างเรียน และมีการสะสม จนมีแนวโน้มที่มั่นใจได้ว่า จะบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ โดยรวมที่กำหนดในหลักสูตรการศึกษา

รายการเอกสารหลักฐาน
ผลการประเมิน
ระบุข้อคิดเห็น

- ควรมีผลประเมินทวนสอบผลสัมฤทธิ์การเรียนรู้ทีไปสอดคล้องกับ YLO ด้วย
- รอการรายงานผลแนวโน้ม ALO CLO YLO และ PLO

2. โครงสร้างหลักสูตร และรายวิชา

รายการเอกสารหลักฐาน
ผลการประเมิน
ระบุข้อคิดเห็น
- Curriculum Mapping (PLO → YLO → CLO) ควรเพิ่มลงในเอกสาร  RQF 7 เท่าที่ดูข้อมูลพบแต่ไฟล์ ppt
- หลักสูตรได้นำข้อมูลจากผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อกำหนด PLO YLO และ CLO
- ควรรักษาความสม่ำเสมอในการรายงาน stakeholder feedback โดยสม่ำเสมอทุกปีที่นำมาสู่การปรับปรุงสาระรายวิชา

3. การจัดกระบวนการเรียนรู้

รายการเอกสารหลักฐาน
ผลการประเมิน
ระบุข้อคิดเห็น
- การรายงาน ALO ต้องชัดเจนอาจ mapping กับ PLO และรายงานเป็นค่าร้อยละสัมฤทธิผลการเรียนรู้รายทักษะ

4. วิธีวัดและประเมินผู้เรียน

รายการเอกสารหลักฐาน
ผลการประเมิน
ระบุข้อคิดเห็น
- ต้องปรับปรุงมาใช้ template RQF.3 และ RQF.5 ใหม่ที่เป็น OBE Version

5. ระบบและกลไกการพัฒนาหลักสูตรและการบริหารคุณภาพ

รายการเอกสารหลักฐาน
ผลการประเมิน
ระบุข้อคิดเห็น
- รอสะสมผลการดำเนินงานเป็นค่าแนวโน้มที่มีความชัดเจน
ประเด็นพิจารณา ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน (ประเด็น) กรรมการ
[1] ผ่าน 1 1
[2] ต้องปรับปรุง 4
[3] ไม่ผ่าน 0
[4] NA 0
[5] ผลรวมประเด็นพิจารณาผ่าน 1

สรุปผลการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้

ตัวบ่งชี้คุณภาพ ผลดำเนินการ
กรรมการ
1.1 ผลการบริหารจัดการหลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร ผ่าน
2.1 คุณภาพบัณฑิตตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 4.24
2.2 ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี 4.40
3.1 การรับนักศึกษา 3.00
3.2 การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา 3.00
3.3 ผลที่เกิดกับนักศึกษา 2.00
4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์ 4.00
4.2 คุณภาพอาจารย์ 5.00
4.3 ผลที่เกิดกับอาจารย์ 3.00
5.1 สาระของรายวิชาในหลักสูตร 4.00
5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน 3.00
5.3 การประเมินผู้เรียน 3.00
5.4 ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2565 5.00
6.1 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ 3.00
ผลการประเมินเฉลี่ยรวม [13 ตัวบ่งชี้] 3.59

การวิเคราะห์คุณภาพการศึกษาภายใน ของคณะกรรมการประเมิน ฯ

องค์ประกอบ ตัวบ่งชี้ I P O คะแนนเฉลี่ย ผลการประเมิน
1 ผ่านการประเมิน หลักสูตรได้มาตรฐาน
2 2 - - 4.32 4.32 ระดับคุณภาพดีมาก
3 3 2.67 - - 2.67 ระดับคุณภาพปานกลาง
4 3 4.00 - - 4.00 ระดับคุณภาพดี
5 4 4.00 3.67 - 3.75 ระดับคุณภาพดี
6 1 - 3.00 - 3.00 ระดับคุณภาพปานกลาง
ผลการประเมิน 3.43 3.50 4.32 3.59 ระดับคุณภาพดี
ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพดี ระดับคุณภาพดี ระดับคุณภาพดีมาก