รายงานผลการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน ปีการศึกษา 2567

หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์

วันที่ประเมิน: 14 กรกฏาคม 2568, 09:30น.

องค์ประกอบที่ 1 การกำกับมาตรฐาน

[ตัวบ่งชี้ 1.1] การบริหารการจัดการหลักสูตรตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร

เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
1. จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น
อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร 5 ท่าน ประกอบด้วย
  • รพีพิมล ไชยเสนะ คุณวุฒิ ปริญญาโท ผลงาน 3
  • ผศ.ดร.ณชรต อิ่มณะรัญ คุณวุฒิ ปริญญาเอก ผลงาน 8 
  • ณัฐศรชัย พรเอี่ยม คุณวุฒิ ปริญญาโท ผลงาน 4
  • พัทธ์ สุวรรณกุล คุณวุฒิ ปริญญาโท ผลงาน 2
  • ชานนท์ ประดิษฐ์ คุณวุฒิ ปริญญาโท ผลงาน 7
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
2. คุณสมบัติอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม

ระบุชื่ออาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่ผลงานวิชาการในรอบ 5 ปี หมดอายุในปีการศึกษาที่ตรวจ (ต้องเพิ่มผลงานชิ้นใหม่ในปีการศึกษาหน้า)

- ไม่มี
ข้อคิดเห็น
  • คุณสมบัติอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรครบถ้วน
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)


 

เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
[สำหรับประเภทวิชาชีพ/ปฏิบัติการ]
อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร จำนวน 2 ใน 5 คน ต้องมีประสบการณ์ในด้านการปฏิบัติการ
ระบุข้อคิดเห็น
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
3. คุณสมบัติอาจารย์ประจำหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม

ระบุชื่ออาจารย์ประจำหลักสูตรที่ผลงานวิชาการในรอบ 5 ปี หมดอายุในปีการศึกษาที่ตรวจ (ต้องเพิ่มผลงานชิ้นใหม่ในปีการศึกษาหน้า)

- ไม่มี
ข้อคิดเห็น
อาจารย์ประจำหลักสูตรเป็นลุดเดียวกับอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ประกอบด้วย
  • รพีพิมล ไชยเสนะ คุณวุฒิ ปริญญาโท ผลงาน 3
  • ผศ.ดร.ณชรต อิ่มณะรัญ คุณวุฒิ ปริญญาเอก ผลงาน 8 
  • ณัฐศรชัย พรเอี่ยม คุณวุฒิ ปริญญาโท ผลงาน 4
  • พัทธ์ สุวรรณกุล คุณวุฒิ ปริญญาโท ผลงาน 2
  • ชานนท์ ประดิษฐ์ คุณวุฒิ ปริญญาโท ผลงาน 7
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
4. คุณสมบัติอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์ประจำ
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
คุณสมบัติของอาจารย์ผู้สอน ที่เป็นอาจารย์พิเศษ
ข้อคิดเห็น
มีอาจารย์พิเศษร่วมสอน 2 ท่าน คือ
          ณัฐพล ไกลพาล (2547)
          พิชย จรัสบุญประชา (2546)

          ทั้งสองท่านมีคุณวุฒิระดับปริญญาตรี และมีประสบการณ์การทำงาน 10 ปี
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
เกณฑ์การประเมิน ผลการประเมิน
10. การปรับปรุงหลักสูตรตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ข้อคิดเห็น
- ปรับปรุง 2563 ใช้ 2564 
          ควรระบุการครบกำหนดครั้งต่อไปที่จะปรับปรุงหลักสูตร 

 
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 1.1

องค์ประกอบที่ 2 การผลิตบัณฑิต

[ตัวบ่งชี้ 2.1] คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และ ด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ.2561

หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด หมายถึง ผู้รับปริญญา ในปีการศึกษา 2566 ประกอบด้วย บัณฑิตที่จบภาคการศึกษา 1/2566 , 2/2566 และ S/2567 [ปีต้องอัพเดตตามปีการศึกษาที่ประเมินย้อนหลัง 1 ปี]
(2) จำนวนบัณฑิตที่รับการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของจำนวนบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาตาม (ข้อ1)

ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
จำนวนบัณฑิตทั้งหมด 18 4.64
จำนวนบัณฑิตที่ได้รับการประเมินทั้งหมด 17
คะแนนเฉลี่ยรวมคุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ. 2561 4.64
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จาก 17 ราย ทำงานใน
          องค์กรอิสระ/มูลนิธิ/สมาคม 10 
          รัฐวิสาหกิจ 2
          เอกชน 5

Moral = 4.82
Knowledge = 4.74
Cognitive = 4.58
Relationship = 4.64
Analytical = 4.51

Learner = 4.68
Innovative = 4.62
Citizen = 4.57 

 

  • ผลการประเมินคุณภาพบัณฑิตในปีการศึกษา 2567 แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจสูงจากผู้ใช้บัณฑิต โดยคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.64 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีค่าเฉลี่ย 4.54 นอกจากนี้ คะแนนเฉลี่ยในด้านต่าง ๆ เช่น คุณธรรมจริยธรรม (4.82) และการเรียนรู้ของบุคคล (4.68) ยังอยู่ในระดับสูงที่สุด แสดงถึงการพัฒนาคุณภาพบัณฑิตที่มีการเตรียมพร้อมทั้งด้านทักษะและคุณธรรม
     
  • แม้ว่าคะแนนด้านคุณภาพบัณฑิตจะอยู่ในระดับสูง แต่ยังสามารถพัฒนาในบางด้าน เช่น การคิดวิเคราะห์เชิงตัวเลขที่มีคะแนนเฉลี่ย 4.51 ซึ่งอาจยังต่ำกว่าด้านอื่น ควรเสริมสร้างกิจกรรมหรือโปรแกรมการเรียนรู้ที่มุ่งพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณและการใช้เทคโนโลยีให้มากขึ้น เพื่อให้บัณฑิตมีความสามารถรอบด้านและพร้อมต่อการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนาในคุณภาพบัณฑิตและผลลัพธ์ผู้เรียน
          แม้ว่าคะแนนความพึงพอใจจากผู้ใช้บัณฑิตและคะแนนการประเมินในด้านต่าง ๆ จะอยู่ในระดับสูง แต่การคิดวิเคราะห์เชิงตัวเลขและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศยังมีคะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุดในกลุ่ม โดยมีค่าเฉลี่ยเพียง 4.51 ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจมีช่องว่างในการพัฒนาทักษะด้านการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีสำหรับนักศึกษาบางกลุ่ม ที่อาจไม่ได้รับการฝึกฝนให้พร้อมสำหรับการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ต้องใช้เทคโนโลยีสูง

แนวทางปรับปรุงในการพัฒนาคุณภาพบัณฑิตและผลลัพธ์ผู้เรียน
          ควรเพิ่มการฝึกทักษะการคิดเชิงคำนวณและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างเป็นระบบในหลักสูตร เพื่อให้บัณฑิตสามารถใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การจัดเวิร์กช็อปหรือกิจกรรมที่เน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในงานจริงจะช่วยเพิ่มความเชี่ยวชาญด้านนี้และเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นในตลาดแรงงาน

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 2.2] ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี

หมายเหตุ : *
(1) จำนวนบัณฑิตทั้งหมด จะต้องตรงกับตาราง ตัวบ่งชี้ 2.1
(2) จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจจะต้องไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา

ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
จำนวนบัณฑิตทั้งหมด 18 4.41
จำนวนบัณฑิตที่ตอบแบบสำรวจ 17
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [มีงานทำในองค์กร] 3
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบอาชีพอิสระ] 7
จำนวนบัณฑิตที่ได้งานทำหลังสำเร็จการศึกษา [ประกอบกิจการส่วนตัว/ธุรกิจครอบครัว] 5
จำนวนบัณฑิตที่ไม่ได้งานทำ 2
จำนวนบัณฑิตที่ศึกษาต่อ 0
จำนวนบัณฑิตที่อุปสมบท 0
จำนวนบัณฑิตที่เกณฑ์ทหาร 0
จำนวนผู้สำเร็จการศึกษาที่มีงานทำก่อนเข้าศึกษา 0
ร้อยละที่ได้ 88.24
ผลลัพธ์ที่ได้ 4.41
เงินเดือนหรือรายได้ต่อเดือนเฉลี่ยของผู้สำเร็จการศึกษาที่ได้งานทำ หรือประกอบอาชีพอิสระ (บาท) 18000.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่นในการได้งานทำของบัณฑิต
           ผลการสำรวจภาวะการมีงานทำของบัณฑิตปีการศึกษา 2566 แสดงให้เห็นว่า 88.24% ของบัณฑิตได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปีหลังจากสำเร็จการศึกษา ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถของหลักสูตรในการเตรียมบัณฑิตให้พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน บัณฑิตส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระในสายงานที่เกี่ยวข้องกับสื่อ เช่น ผู้ช่วยผู้กำกับ ผู้เขียนบท ตัดต่อ และถ่ายภาพเคลื่อนไหว โดยมีรายได้เฉลี่ยระหว่าง 15,000–18,000 บาทต่อเดือน ซึ่งแสดงถึงการสร้างอาชีพที่สอดคล้องกับทักษะที่ได้รับจากการศึกษา

แนวทางเสริมในการได้งานทำของบัณฑิต
           แม้ว่าผลลัพธ์ด้านการได้งานทำจะดี แต่ยังคงมีบัณฑิตบางส่วนที่ไม่ได้ทำงาน ซึ่งอาจเป็นผลจากความไม่พร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน ควรเสริมสร้างการฝึกอบรมหรือกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะในด้านการทำงานในองค์กรสื่อสารมวลชนหรือหน่วยงานเอกชน เพื่อให้บัณฑิตมีความสามารถที่หลากหลายในการเลือกเส้นทางอาชีพ ทั้งในด้านอาชีพอิสระและงานในองค์กร อีกทั้งควรพัฒนาความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมในการฝึกงานหรือการเป็นพาร์ทเนอร์ในการจ้างงานเพื่อลดอัตราการว่างงานของบัณฑิต

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนาในภาวะการได้งานทำของบัณฑิต
           
ถึงแม้ว่าร้อยละของบัณฑิตที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระจะสูงถึง 88.24% และมีการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสายงานสื่อ แต่ยังมีบัณฑิตบางส่วนที่ไม่ได้ทำงาน (2 คน) ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของช่องว่างในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าสู่ตลาดแรงงานจริง การขาดความพร้อมในบางด้าน เช่น ทักษะการทำงานในองค์กรหรือการฝึกทักษะเฉพาะทางที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน อาจเป็นสาเหตุของการว่างงาน

แนวทางปรับปรุง
           
ควรเพิ่มโอกาสให้กับบัณฑิตในการฝึกงานกับองค์กรภายนอกหรือภาคเอกชน เพื่อเพิ่มประสบการณ์และทักษะที่ตรงกับตลาดแรงงาน นอกจากนี้ ควรมีการเสริมสร้างโปรแกรมพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์การทำงานในองค์กร ไม่เพียงแต่ในอาชีพอิสระ เพื่อเตรียมบัณฑิตให้พร้อมในทั้งสองเส้นทาง ทั้งในด้านการทำงานในองค์กรและการประกอบอาชีพอิสระ

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 2 (2 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 4.53 คะแนน

องค์ประกอบที่ 3 นักศึกษา

[ตัวบ่งชี้ 3.1] การรับนักศึกษา

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
-
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การรับนักศึกษา:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • นักศึกษาตามแผน คือ 30 คน แต่ตั้งปีกการศึกษา 2564 มีนักศึกษาเกินกว่าค่าเป้าหมาย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จนปี 2566 => 105 (ประมาณ 300%) และลดลงในปี 2567 = 45 คน
  • หลักสูตรอาจจำเป็นต้องวิเคราะห์สภาพตลาดแรงงานในอุตสาหกรรมจากการวิเคราะห์ผุ้มีส่วนได้ส่วนเสีย หลักสูตร/สถาบันที่เป็น direct competitor และ indirect competitor ของหลักสูตร รวมทั้ง Threats ของหลักสูตร ที่เป็น environmental factors เพื่อเป็นแนวทางในการวิเคราะห์สถานการณ์ ใน pg 22 และขอให้พิจารณาให้แนวทางการการดำเนินการสอดคล้องกับปัจจัยสมุหฐาน ที่หลักสูตรวิเคราะห์ไว้
  • มีโครงการเพื่อประชาสัมพันธ์หลักสูตร ได้แก่ นิเทศศาสตร์สัญจร นิเทศศาสตร์รุ่นเยาว์ สอนเกรียน รวมทั้งการนำเสนอข้อมูลผ่านระบบออนไลน์
  • หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการเขียนบทและกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ มีระบบการรับนักศึกษาที่ชัดเจนและโปร่งใส โดยการกำหนดคุณสมบัติผู้สมัครอย่างเป็นระบบ ซึ่งสอดคล้องกับมาตรฐานของมหาวิทยาลัยและสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา เช่น การกำหนดคุณสมบัติที่ผู้สมัครต้องมีการศึกษาระดับมัธยมปลายหรือเทียบเท่า และการใช้เกรดเฉลี่ยสะสมในการพิจารณา นอกจากนี้ การดำเนินกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เช่น โครงการนิเทศศาสตร์สัญจรและการใช้สื่อออนไลน์ ยังช่วยเสริมสร้างการรับรู้และกระตุ้นความสนใจให้กับนักเรียนและผู้ปกครองในการสมัครเรียน ทำให้หลักสูตรสามารถดึงดูดนักศึกษาที่มีคุณภาพเข้ามาศึกษาได้อย่างต่อเนื่อง
  • เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรับนักศึกษา ควรขยายช่องทางการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การใช้สื่อโซเชียลมีเดียและการจัดกิจกรรมพบปะในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงดูดผู้สมัคร นอกจากนี้ การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของนักศึกษารุ่นพี่ในการให้คำปรึกษาและแนะนำแก่นักศึกษาที่เพิ่งเข้ามาเรียนจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจสมัครเรียน นอกจากนี้ การพัฒนาระบบการติดตามผลการเรียนของนักศึกษาอย่างต่อเนื่องและการจัดกิจกรรมให้ความเข้าใจในหลักสูตรและความคาดหวังตั้งแต่ก่อนการสมัครเรียนจะช่วยให้นักศึกษามีความพร้อมและสามารถปรับตัวได้ดีในระหว่างการศึกษา
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • หลักสูตรระบุ ระบบ (เกณฑ์การรับเข้า) และแนวทางการดำเนินการ สิง่ที่ยังไม่ชัดเจนในการรายงานคือ กลไกการนำเกรฑ์ไปช้ เช่น การคัดเลือกนักศึกษาโดยการพิจารณาจากผลการเรียนในชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย มีคณะกรรมการของหลักสุตรหรือไม่? 
    • ในปีการศึกษา 2567 มีการรับสมัครนักศึกษากี่ราย กี่รอบ ได้นักศึกษาที่มีคุณสมบัติตรง พร้อมเรียนในหลักสูตรกี่ราย
    • วิธีการดังกล่าว มีประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผล (สามารถคัดเลือกนักศึกษาที่มีความพร้อมเรียน) หรือไม่ ประเมินจากอะไร ว่าระบบและกลไกการรับนักศึกษานั้นมีประสิทธิภาพ
    • เกณฑฺในประเด็นนี้พิจารณาจาก 2 ประเด็นคือ
      • สามารถประชาสัมพันธ์ และคัดเลือกนักศึกษาที่มีความพร้อมเข้าเรียนตามเป้าหมาย (เชิงปริมาณ)
      • สามารถคัดเลือก นักศึกษาที่มีความสามารถเรียนในหลักสูตรได้ (เชิงคุณภาพ ซึ่งจะประเมินจาก 3.3) 
  • หลักสูตรประเมินความพ้ร้อมจากอะไร ในประเด็นใด มีนักศึกษาที่ไม่พร้อมกี่ราย ต้องเตรียมความพร้อมหรือไม่ อย่างไร อาทิ หากหลักสุตรเป็นหลักสูตรนานาชาติ หลักสูตรอาจพิจารณาจากผลการสอบวัดประดับภาษาอังกฤษ แล้วหลักสุตรพบว่า มี นักศึกษาที่มีทักษะทางภาษาไม่เพียงพอ จำนวน 10 ราย จาก 100 ราย => นำไปตอบในข้อถัดไป
  • ย่อหน้าที่ 3 pg 24 หลักสูตรระบุ ว่า มีนักศึกษา 62 ราย ต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย => เป้าหมาย คือ 30 คน?
  • pg25 ประเด็นการปรับปรุงและพัฒนา น่าจะเป็นเรื่องระบบอาจารย์ที่ปรึกษามากกว่า
    • การปรับปรุงระบบการรับนักศึกษา คือ ทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ทำอย่างไรให้สามารถรับนักศึกษาที่มีคุณลักษณะตรงตามความต้องการของหลักสูตร และ/หรือ ทำอย่างไรที่จะสามารถ ปชส หลักสุตรไปยังกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมได้
    • อย่างไรก็ตามการปรับปรุง (A) ต้องมาจากผลการประเมิน (C) ว่า ปัญหา หรืออุปสรรค ในการดำเนินการด้านการรับนักศึกษาคืออะไร วัดหรือประเมินจากอะไร
  • การเปลี่ยนแปลงนักศึกษาจาก 2567 = 105 เป็นสมัครเข้าเรียนในปี 2567 = ุ62 และลดลงในภาค 2 = 47 ตามที่หลักสูตรเสนอแนะไว้ ใน pg 26 เกิดจากอะไร เกิดจากการประชาสัมพันธ์? = หลักสูตรอาจใช้ข้อมูลจากการทำ exit interview หรืออื่น ๆ เพื่อประเมินสภาพปัญหานี้ (C) แล้วจึงวางแผนดำเนินการ (A)
    • ทั้งนี้อาจจะเกิดจากระบบและกลไกการดูแลนักศึกษา 3.2 ก็ได้ = จะได้แก้ปัญหาตาม ปัจจัยสาเหตุ
  • แม้หลักสูตรจะมีระบบการรับนักศึกษาที่ชัดเจนและเป็นระเบียบ แต่ยังขาดการติดตามผลการคงอยู่ของนักศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่สามารถระบุปัญหาหรืออุปสรรคที่นักศึกษากำลังเผชิญได้ทันท่วงที เช่น การลาออกหรือการขาดความตั้งใจในการเรียน อีกทั้งยังขาดการประเมินผลการสมัครอย่างละเอียด ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงหรือแก้ไขกระบวนการรับนักศึกษาให้เหมาะสมกับบริบทของกลุ่มนักศึกษาในแต่ละปีได้เต็มที่
  • ควรพัฒนาระบบการติดตามผลการเรียนและสถานภาพของนักศึกษาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง โดยสามารถใช้เทคโนโลยีในการติดตามสถานการณ์การเรียนของนักศึกษา เพื่อให้สามารถพบปัญหาได้ตั้งแต่เริ่มต้น และจัดการแก้ไขได้ทันที นอกจากนี้ ควรมีการประเมินผลการรับสมัครในแต่ละปี โดยการรวบรวมข้อมูลจากผู้สมัครและนักศึกษาที่เข้าศึกษา เพื่อทำการปรับปรุงกระบวนการคัดเลือกให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความต้องการของตลาดแรงงาน รวมถึงการเสริมสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับหลักสูตรและข้อกำหนดการศึกษาให้กับผู้สมัครและผู้ปกครองตั้งแต่ต้น
การเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีการทบทวนกระบวนการ พบว่า นักศึกษาบางส่วนมาจากต่างจังหวัดและมาจากสถาบันอื่น pg26 =>หลักสูตรปรับอะไรในระบบและกลไกการเตรียมความพร้อม ถ้านำเสนอตรงนี้จะทำให้เห็นการปรับปรุงระบบและกลไก การดำเนินการ จา่กข้อมูลในปีที่ผ่านมาได้อย่างดีมาก
  • มีการประเมินความพร้อมในการเรียนของ นศ แรกเข้าพบว่ามีความพร้อมทางด้านวิชาการและวิชาชีพในระดับที่น่าพึงพอใจ [หากมีการระบุวิธีการประเมิน อาจจะนำไปสู่การพัฒนาเป็น good practice ได้]
  • มีกิจกรรมการเตรียมความพร้อม ประกอบด้วย
    • การปฐมนิเทศ
    • สานสัมพันธ์น้องพี่ฯ
    • Open house

จุดเด่นในการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่
          หลักสูตรมีการจัดกิจกรรมเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาใหม่อย่างเป็นระบบ โดยการจัดกิจกรรมปฐมนิเทศที่ช่วยให้นักศึกษาใหม่ได้รู้จักกับหลักสูตร อาจารย์ที่ปรึกษา ระบบการเรียนการสอน และการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย รวมถึงกิจกรรมการสร้างสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องที่ช่วยให้นักศึกษาใหม่สามารถปรับตัวได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การใช้ระบบพี่เลี้ยงและการให้คำปรึกษาจากอาจารย์ที่ปรึกษาก็เป็นการเสริมสร้างความมั่นใจและให้การสนับสนุนในระยะเริ่มต้น

แนวทางเสริมในการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่
          ควรเพิ่มกิจกรรมที่เน้นการพัฒนาทักษะการเรียนรู้และการปรับตัวในด้านวิชาชีพมากขึ้น เช่น การจัดเวิร์กช็อปเกี่ยวกับทักษะการทำงานในอุตสาหกรรม หรือการให้โอกาสนักศึกษาใหม่ได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานในสายอาชีพที่เรียน เพื่อเพิ่มความเข้าใจในบทบาทของตนเองในอนาคต นอกจากนี้ การปรับปรุงการติดตามผลการปรับตัวของนักศึกษาใหม่หลังจากกิจกรรมเตรียมความพร้อมจะช่วยให้สามารถให้การสนับสนุนได้ตรงจุดและทันเวลามากขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • หากระบุ ALO ของกิจกรรมต่าง ๆ ในการเตรียมความพร้อมนักศึกษา และประเมินความสำเร็จของโครงการ/กิจกรรมตาม ALO น่าจะทำให้สามารถ CA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ/ประสิทธิผล
    • กิจกรรมปฐมนิเทศ มี ALO เพื่อ ให้นักศึกษารู้เป้าหมาย และ PLO ของหลักสูตร รู้แนวทางการประพฤติตน หรือแนวทางการใช้ชีวิต ในมหาวิทยาลัย => หลักสุตรประเมินว่า เมื่อสิ้นสุดกิจกรรมแล้ว นักศึกษาแรกเข้า รู้เป้าหมายของหลักสุตรหรือไม่ กี่ % ที่รู้ ถ้าไม่รู้ หรือรู้ไม่ครบถ้วน เพราะอะไร และหลักสุตรจะปรับตรงไหน

จุดที่ควรพัฒนาในการเตรียมความพร้อมนักศึกษาใหม่
         
แม้ว่ามีกิจกรรมเตรียมความพร้อมที่ดี เช่น การปฐมนิเทศและกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้อง แต่การมีส่วนร่วมจากนักศึกษาทุกชั้นปีในกิจกรรมเหล่านี้ยังค่อนข้างจำกัด นักศึกษาบางกลุ่มอาจไม่ได้รับการสนับสนุนหรือคำแนะนำจากรุ่นพี่ที่เพียงพอ ส่งผลให้บางคนอาจรู้สึกสับสนหรือปรับตัวได้ยากในช่วงเริ่มต้นการศึกษา นอกจากนี้ กิจกรรมบางรายการอาจขาดการประเมินผลอย่างละเอียด ทำให้ไม่สามารถปรับปรุงกิจกรรมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้

แนวทางปรับปรุง
         
ควรเพิ่มการมีส่วนร่วมของนักศึกษาทุกชั้นปีในกิจกรรมเตรียมความพร้อม โดยการส่งเสริมให้นักศึกษารุ่นพี่มีบทบาทมากขึ้นในการเป็นพี่เลี้ยงและให้คำปรึกษากับนักศึกษาใหม่ เพื่อให้ทุกคนได้รับการสนับสนุนที่เพียงพอและสามารถปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ควรมีการประเมินผลจากกิจกรรมเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบถึงความพึงพอใจและการปรับตัวของนักศึกษาใหม่ ซึ่งจะช่วยให้สามารถปรับปรุงและพัฒนากิจกรรมให้ตรงกับความต้องการของนักศึกษาในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 3.2] การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
-
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่นในการควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี
           หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิตมีการจัดระบบการให้คำปรึกษาทางวิชาการที่ชัดเจนและมีความครอบคลุม โดยการแต่งตั้งอาจารย์ที่ปรึกษาสำหรับแต่ละชั้นปี และมีการจัดตารางการให้คำปรึกษาที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งในรูปแบบการพบปะตัวต่อตัวและช่องทางออนไลน์ เช่น Facebook และ Line ซึ่งช่วยให้การให้คำปรึกษามีความยืดหยุ่นและสะดวกสบายสำหรับนักศึกษา นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม Homeroom เพื่อการติดตามพฤติกรรมการเรียนและการวางแผนการเรียนอย่างมีประสิทธิภาพ นักศึกษาสามารถได้รับคำแนะนำทั้งในด้านวิชาการและทักษะชีวิตจากอาจารย์ที่ปรึกษาอย่างต่อเนื่อง

แนวทางเสริมในการควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี
           เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการให้คำปรึกษา ควรเพิ่มการประเมินผลการให้คำปรึกษาแบบเป็นทางการ เช่น การจัดทำแบบประเมินความพึงพอใจจากนักศึกษา เพื่อให้สามารถปรับปรุงกระบวนการให้คำปรึกษาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ควรมีการฝึกอบรมเพิ่มเติมให้กับอาจารย์ที่ปรึกษาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารและการให้คำปรึกษา เพื่อให้การติดตามผลและการให้คำแนะนำในแต่ละด้านมีความต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการจัดทำคู่มือหรือแนวทางในการให้คำปรึกษาที่ชัดเจน เพื่อให้อาจารย์ที่ปรึกษาสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการให้คำแนะนำแก่นักศึกษาได้ดียิ่งขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนาในการควบคุมการดูแลการให้คำปรึกษาวิชาการและแนะแนวแก่นักศึกษาปริญญาตรี
           กระบวนการให้คำปรึกษายังขาดความสม่ำเสมอในการติดตามผลการให้คำปรึกษา นักศึกษาบางคนอาจไม่ได้รับการช่วยเหลือที่เพียงพอในกรณีที่มีปัญหาหรือความกังวลในการเรียน การใช้ช่องทางออนไลน์เช่น Facebook และ Line อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการตอบกลับจากอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจหรือการดำเนินการในเรื่องสำคัญ เช่น การยื่นเอกสารหรือการขอคำแนะนำในเวลาที่สำคัญ

แนวทางปรับปรุง
           ควรมีการจัดตารางนัดหมายการให้คำปรึกษาที่ยืดหยุ่นมากขึ้น โดยอาจารย์ที่ปรึกษาสามารถตกลงกับนักศึกษาในการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการพบปะและให้คำปรึกษาได้ นอกจากนี้ ควรมีการปรับปรุงช่องทางการสื่อสารให้หลากหลายและมีความพร้อมในการตอบกลับอย่างรวดเร็ว เช่น การใช้แอพพลิเคชั่นที่เหมาะสม หรือการเพิ่มการพบปะตัวต่อตัว เพื่อให้การให้คำปรึกษามีประสิทธิภาพและทันเวลามากขึ้น

 

การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • ดำเนินการโดยการบูรณาการเข้ากับรายวิชาต่าง ๆ ในรูปแบบ Project-based & Problem-based learning
  • เสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 โดยความร่วมมือกับองค์กรภายนอก สหกิจศึกษา
  • มีวัฒนธรรมการให้คำปรึกษาแบบเปิดกว้าง (Open Communication Culture) ซึ่งเปิดโอกาสให้กับผู้เรียนสามารถเข้าถึงคณาจารย์ของหลักสูตรได้อย่างกว้างขวาง

จุดเด่นในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
           หลักสูตรมีการออกแบบกิจกรรมและโครงการที่เสริมสร้างทักษะสำคัญในศตวรรษที่ 21 เช่น การคิดเชิงวิพากษ์ การทำงานเป็นทีม และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โครงการเสวนาและฝึกอบรม การฝึกปฏิบัติจริง และการร่วมโครงการระดับนานาชาติ ซึ่งช่วยให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะทั้งด้านวิชาการและทักษะชีวิตอย่างครบวงจร นอกจากนี้ยังมีการบูรณาการทักษะเหล่านี้กับการเรียนการสอนในรายวิชาและกิจกรรมวิชาชีพ

แนวทางเสริมในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
           ควรเพิ่มกิจกรรมที่เน้นการฝึกทักษะการแก้ปัญหาจริงในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น การจัดการเรียนรู้แบบ Problem-based Learning หรือ Project-based Learning ในทุกชั้นปี เพื่อให้นักศึกษาได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์และการทำงานร่วมกับผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้ง ควรสร้างโอกาสให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อเพิ่มการประยุกต์ใช้ทักษะการเรียนรู้ในบริบทจริง

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • หน้า 35 ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ที่หลักสูตรมุ่งพัฒนาคืออะไร 
    • ทักษะการเรียนรู้และนวัตกรรม
    • ทักษะด้านสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
    • ทักษะชีวิตและอาชีพ
  • หลักสูตรระบุว่า ดำเนินการผ่านการสร้างเครือข่ายโดยสหกิจ และการฝึกงาน => พัฒนาทักษะใด และประเมินผลความสำเร็จของการพัฒนาทักษะนั้นอย่างไร
  • การประเมินผล
    • มีการประเมินระบบและกลไก การดำเนินการ และ/หรือผลลัพธ์ เกี่ยวกับ ศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 หรือไม่ อย่างไร ด้วยเครื่องมือใด 
    • เครื่องมือ/ผลการประเมินดังกล่าว พบว่า นักศึกษาในหลักสุตรมีทักษะด้านใดที่โดดเด่น หรือบรรลุผลตามที่หลักสุตรตั้งเป้าหมายไว้
    • ในประเด็นใดที่ยังทำได้ไม่ดี / ต้องปรับปรุง หลักสุตรมีแนวทางการปรับปรุงในประเด็นนั้นอย่างไร
  • เป้าหมาย = นักศึกษามีศักยภาพและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ตามบริบทของวิชาชีพ/วิสัยทัศน์/จุดเน้นของหลักสูตร
  • หน้า 35 ระบุเพียงผลการประเมิน 4.65 ไม่แน่ใจว่าหลักสุตรปรับปรุงระบบและกลไก/การดำเนินการในประเด็นนี้อย่างไร? 
  • หน้า 77-79 หลักสูตรระบุผลการเรียนรู้ที่ควรพัฒนาไว้ ได้แก่ จริยธรรม ความรับผิดชอบ การทำงานเป็นทึม การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ฯลฯ หลักสูตรสามารถนำประเด็นดังกล่าวมาเป็นแนวทางการกำหนด KPI หรือคุณลักษณะที่หลักสูตรมุ่งพัฒนา => แผนการพัฒนา => กระบวนการ => คุณลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไป 

จุดที่ควรพัฒนาในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาและการเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21
           การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ยังขาดการเชื่อมโยงอย่างเต็มที่กับกิจกรรมภายนอกหลักสูตร เช่น การฝึกงานหรือการทำงานในโครงการจริง ซึ่งสามารถเพิ่มประสบการณ์และการประยุกต์ใช้ทักษะในบริบทที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังควรมีการพัฒนาโปรแกรมที่เน้นทักษะเฉพาะทาง เช่น การใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้นักศึกษาเตรียมตัวสำหรับการทำงานในยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางปรับปรุง
           ควรเพิ่มกิจกรรมการฝึกปฏิบัติจริงที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมและสาขาวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและสามารถนำทักษะที่เรียนรู้ไปใช้ได้จริงในสถานการณ์ทำงาน เช่น การจัดการเรียนการสอนแบบ Project-based Learning ที่สามารถพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น และการคิดเชิงวิพากษ์ ควรเสริมสร้างความร่วมมือกับองค์กรภายนอกเพื่อให้โอกาสนักศึกษาได้เข้าร่วมโครงการฝึกงานหรือโครงการวิจัยร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ

 

การพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการส่งเสริมให้เกิดการสร้างผลงานวิจัย งานสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีความร่วมมือกับองค์กรระดับนานาชาติ Jinlin Animation University=> นักศึกษาได้รับคัดเลือกเพื่อผลิตเป็นผลงานจริง
  • มีกิจกรรมกระจายทั้ง 4 ชั้นปี ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนได้

จุดเด่นในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม
           หลักสูตรมีการบูรณาการการสร้างผลงานวิจัยและงานสร้างสรรค์ที่ตอบสนองต่อยุทธศาสตร์ชาติ โดยการจัดกิจกรรมเสวนา การฝึกอบรม และการสร้างความร่วมมือกับองค์กรภายนอก รวมถึงการสนับสนุนให้นักศึกษาได้เข้าร่วมโครงการสหกิจศึกษาและการฝึกงานกับบริษัทต่าง ๆ ซึ่งช่วยเสริมสร้างทักษะและเตรียมความพร้อมในการทำงานจริง

แนวทางเสริมในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม
           ควรเพิ่มการส่งเสริมนักศึกษาในการเข้าร่วมโครงการวิจัยและนวัตกรรมที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมมากขึ้น เพื่อให้ผลงานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในระดับชุมชนและประเทศ ควรส่งเสริมการทำงานร่วมกับนักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอก เพื่อเพิ่มมุมมองและสร้างผลงานที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในระดับชาติ

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • หลักสูตรตั้งเป้าหมายการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาเพื่อให้เกิดงานสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่สามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ มีอะไรบ้าง ประเด็นยุทธศาสตร์ชาติใด (soft power?) => KPI
  • จากเป้าหมายดังกล่าว หลักสูตรมีระบบและกลไกใด มีโครงการ/กิจกรรม นอกหนักสูตรที่กำหนด ALO ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ หรือมีรายวิชาที่มี CLO หรือ การเรียนที่มี YLO ตามประเด็นนั้นหรือไม่ อย่างไร วางแผนจะดำเนินการผ่านกิจกรรม/โครงการ หรือรายวิชาใด 
  • ในปีการศึกษา 2567 มีการดำเนินการอย่างไร มีนักศึกษาเข้าร่วมโครงการ/กิจกรรมใดบ้าง กี่ราย มีผลงานที่เป็นงานสร้างสรรค์เกิดขึ้นกี่ชิ้น ตอบสนองประเด็นเป้าหมาย หรือไม่
  • จากผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นหลักสูตรประเมินความสำเร็จของเป้าหมายนั้น (ศัพยภาพในการสร้างสรรค์) ด้วยเครื่องมือใด ได้ผลเป็นอย่างไร มีประเด็นใดที่ต้องปรับปรุงหรือไม่ และวางแผนจะปรับปรุงอย่างไร
  • การปรับปรุงหลาย ๆ วงรอบของการดำเนินการตาม Deming cycle นั้น ทำให้เกิดผลลัพธ์ (outcome) ใด [ศักยภาพด้านการวิจัย/การสร้างสรรค์] รู้ได้อย่างไรว่าเกิดศักยภาพนั้น [ชิ้นงานที่มีคุณภาพสูง] ตามที่กำหนดไว้ในเป้าหมาย => by plan not by chance

จุดที่ควรพัฒนาในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม
           การเชื่อมโยงผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่นักศึกษาสร้างขึ้นยังขาดการบูรณาการกับความต้องการของตลาดและอุตสาหกรรม ทำให้ผลงานบางส่วนอาจไม่ได้รับการนำไปใช้ประโยชน์จริงในสังคมหรือเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังขาดการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาและเผยแพร่ผลงานเหล่านั้นให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง

แนวทางปรับปรุงในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาในการสร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรม
           ควรเพิ่มการเชื่อมโยงกับภาคอุตสาหกรรมและองค์กรวิจัย เพื่อให้นักศึกษาได้มีโอกาสนำผลงานไปทดสอบในโลกจริงและสร้างนวัตกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้ นอกจากนี้ ควรมีการสนับสนุนด้านทุนและการฝึกอบรมเพื่อให้สามารถพัฒนาผลงานวิจัยให้พร้อมสำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์และการแก้ปัญหาสังคม

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
  • ผลการประเมินอาจารย์ที่ปรึกษารายบุคคล/ภาพรวม
  • CLO/YLO/ALO ของโครงการ/กิจกรรม/รายวิชาที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา
  • การประชุมเพื่อทบทวนกระบวนการ
  • แบบประเมินความสำเร็จ
  • PDCA โครงการร่วมมือกับ Jinlin Animation University

[ตัวบ่งชี้ 3.3] ผลที่เกิดกับนักศึกษา

ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การคงอยู่
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 91.07
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

การคงอยู่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับการที่ หลักสูตรมีนักศึกษาเกินกว่าค่าเป้าหมายหรือไม่
          ปี 2564 = 91.07
          ปี 2565 = 75.81
          84.76 และ 72.58


จุดเด่นในการอัตราการคงอยู่
           หลักสูตรมีการดูแลนักศึกษาที่ดีจนสามารถรักษาอัตราการคงอยู่ในบางปีการศึกษาได้สูงถึง 100% เช่น ในปีการศึกษา 2562 และ 2563 ซึ่งแสดงถึงความสำเร็จในการดูแลนักศึกษาให้มีความมั่นคงในการเรียนและสำเร็จการศึกษา นอกจากนี้ การให้คำปรึกษาและการติดตามผลการเรียนของนักศึกษาในแต่ละชั้นปีช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้กับนักศึกษา ทำให้มีแนวโน้มที่จะคงอยู่ในหลักสูตรได้

แนวทางเสริมในการอัตราการคงอยู่
           แม้ว่าจะมีอัตราการคงอยู่ที่สูงในบางปี แต่ยังคงมีการลดลงในปีการศึกษา 2567 ที่อัตราการคงอยู่ลดลงเหลือ 72.58% จึงควรมีการประเมินและปรับปรุงกระบวนการดูแลนักศึกษา เช่น การเพิ่มช่องทางการสนับสนุนเพิ่มเติมให้กับนักศึกษาที่มีปัญหาในการปรับตัว หรือการจัดกิจกรรมที่ช่วยเพิ่มความผูกพันระหว่างนักศึกษาและคณาจารย์ รวมถึงการเสริมสร้างโอกาสในการฝึกงานและการพัฒนาทักษะในภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้การเรียนมีความเกี่ยวข้องกับการทำงานจริงมากขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนาในการอัตราการคงอยู่
           อัตราการคงอยู่ในบางปี เช่น ปีการศึกษา 2567 ลดลงอย่างชัดเจน (จาก 84.76% ในปี 2566 เป็น 72.58%) ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัญหาหรืออุปสรรคที่นักศึกษาประสบในการปรับตัวเข้ากับหลักสูตรหรือวิธีการเรียนการสอนที่อาจไม่ตอบโจทย์ความต้องการของนักศึกษาในบางช่วงเวลา นอกจากนี้ยังมีการลดลงของนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาก่อนเกณฑ์ในบางปี ซึ่งอาจบ่งชี้ถึงปัญหาที่เกิดจากการขาดการสนับสนุนหรือคำแนะนำที่เพียงพอจากอาจารย์ที่ปรึกษา

แนวทางปรับปรุงในการอัตราการคงอยู่
           ควรเสริมสร้างการสนับสนุนและการติดตามผลของนักศึกษาที่มีแนวโน้มที่จะลาออกหรือล้มเหลวในช่วงกลางหลักสูตร เช่น การจัดโปรแกรมที่เน้นการให้คำปรึกษาแบบรายบุคคลและการช่วยเหลือนักศึกษาที่มีปัญหาทางวิชาการหรือส่วนตัว การปรับปรุงช่องทางการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของนักศึกษาในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้จะช่วยเสริมสร้างความผูกพันระหว่างนักศึกษาและหลักสูตร เพิ่มความพึงพอใจและลดอัตราการลาออกในอนาคต

 

การสำเร็จการศึกษา
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 57.89
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 53.13
ร้อยละอัตราสำเร็จการศึกษา ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 67.86
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

          อัตราการสำเร็จการศึกษาตามระยะเวลา = 50-60% เกิดจากอะไร ระบบการดูแล หรือระบบการรับและการเตรียมความพร้อม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
          ขอให้หลักสูตรวิเคราะห์สมุหฐานของการที่นักศึกษาสำเร็จการศึกษาตามระยะเวลาในหลักสูตร ประมาณ 50-60% ว่าเกิดจากอะไร และใช้เป็นแนวทางในการปรับระบบและกลไกการรับและการเตรียมความพร้อม หรือระบบและกลไกการดูแลนักศึกษา


จุดเด่นในการสำเร็จการศึกษา
           หลักสูตรมีการดูแลนักศึกษาผ่านการให้คำปรึกษาที่ใกล้ชิดจากอาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนให้นักศึกษาสำเร็จการศึกษาตามระยะเวลาที่หลักสูตรกำหนด โดยอัตราการสำเร็จการศึกษาในปีการศึกษา 2567 อยู่ที่ 67.86% ซึ่งแสดงถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีการศึกษา 2565 และ 2566 ที่มีอัตราการสำเร็จการศึกษาต่ำกว่า

แนวทางเสริมในการสำเร็จการศึกษา
           ควรมีการปรับปรุงกระบวนการสนับสนุนในบางด้าน เช่น การเสริมสร้างทักษะการเรียนรู้และการปรับตัวของนักศึกษาในช่วงต้นของหลักสูตร เพื่อให้สามารถสำเร็จการศึกษาได้ในระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ ควรมีการเสริมสร้างความเข้าใจในเกณฑ์การประเมินและการให้คะแนนที่ชัดเจน เพื่อให้การเรียนรู้และการประเมินผลเป็นไปอย่างโปร่งใสและเหมาะสม

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • ควรหากระบวนการเพื่อทำให้ผู้เรียนที่ตกค้างสำเร็จการศึกษาเพิ่มมากขึ้น

จุดที่ควรพัฒนาในการสำเร็จการศึกษา
           อัตราการสำเร็จการศึกษายังไม่สูงในบางปี เช่น ปีการศึกษา 2565 และ 2566 ซึ่งอาจสะท้อนถึงปัญหาในการปรับตัวของนักศึกษาหรือความท้าทายที่พบในกระบวนการเรียนรู้ การให้คำปรึกษาและการดูแลอาจยังไม่เพียงพอในการสนับสนุนให้นักศึกษาผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ในการศึกษา ส่งผลให้บางส่วนไม่สามารถสำเร็จการศึกษาในระยะเวลาที่กำหนด

แนวทางปรับปรุงในการสำเร็จการศึกษา
           ควรเสริมสร้างระบบการให้คำปรึกษาและการติดตามผลที่เข้มข้นขึ้น โดยการเพิ่มกิจกรรมหรือโปรแกรมที่ช่วยให้นักศึกษาสามารถรับมือกับอุปสรรคในระหว่างการเรียนได้ เช่น การจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองความต้องการของนักศึกษาได้ดีขึ้น และการพัฒนาทักษะการปรับตัวให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การจัดเตรียมการเสริมสร้างความเข้าใจในเกณฑ์การประเมินและมาตรฐานการเรียนจะช่วยให้นักศึกษามีความมั่นใจและสามารถสำเร็จการศึกษาได้ตามเป้าหมาย

ความพึงพอใจและผลการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 4.55
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 4.57
ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาเฉลี่ย ปีการศึกษา 2567 ร้อยละ 4.62
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่นในความพึงพอใจและการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา
           ผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาในปีการศึกษา 2567 แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจในระดับสูง โดยมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ 4.62 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา 2566 และ 2565 สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ตอบสนองความต้องการของนักศึกษาได้ดี นอกจากนี้ ระบบการจัดการข้อร้องเรียนมีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพ โดยมีการประสานงานอย่างรวดเร็วและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เช่น การปรับตารางเรียนและชี้แจงเกณฑ์การให้คะแนน

แนวทางเสริมในการพัฒนา
           ควรพัฒนาช่องทางการร้องเรียนและการสื่อสารให้มีความสะดวกและเข้าถึงง่ายขึ้น เช่น การใช้แอปพลิเคชันที่นักศึกษาคุ้นเคยมากขึ้น หรือการจัดให้มีระบบติดตามผลข้อร้องเรียนอย่างโปร่งใสและเป็นระบบมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเสริมสร้างการรับฟังความคิดเห็นจากนักศึกษาทุกกลุ่มและการปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้รวดเร็วและตอบสนองได้ทันที จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและประสิทธิภาพในการจัดการข้อร้องเรียนให้ดียิ่งขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนาในความพึงพอใจและการจัดการข้อร้องเรียนของนักศึกษา
           แม้จะมีการเพิ่มขึ้นในระดับความพึงพอใจของนักศึกษาในปีการศึกษา 2567 แต่ระบบการจัดการข้อร้องเรียนยังมีบางจุดที่สามารถพัฒนาได้ เช่น การตอบสนองต่อข้อร้องเรียนบางกรณียังไม่รวดเร็วเพียงพอ และบางครั้งการจัดการข้อร้องเรียนยังคงต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อน ทำให้กระบวนการไม่สะดวกนักศึกษาในบางกรณี

แนวทางปรับปรุง
           ควรพัฒนาระบบการจัดการข้อร้องเรียนให้มีความรวดเร็วและมีช่องทางที่สะดวกสำหรับนักศึกษาในการเข้าถึง เช่น การใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ทันสมัยและมีการติดตามผลที่ชัดเจน นอกจากนี้ ควรเพิ่มการฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่หรืออาจารย์ที่รับผิดชอบในการจัดการข้อร้องเรียนเพื่อให้การตอบสนองมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 3 (3 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.00 คะแนน

องค์ประกอบที่ 4 อาจารย์

[ตัวบ่งชี้ 4.1] การบริหารและพัฒนาอาจารย์

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ระบบการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีการดำเนินการตามวงจร PDCA
  • ไม่มีการรับอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรใหม่

จุดเด่น
           ระบบการรับและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีการดำเนินงานที่เป็นระบบและมีความโปร่งใส ผ่านขั้นตอนที่ชัดเจนตั้งแต่การเสนอความต้องการอัตรากำลังอาจารย์จนถึงการคัดเลือกและแต่งตั้ง ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าอาจารย์ที่ได้รับการแต่งตั้งมีความเหมาะสมและมีคุณสมบัติตามที่หลักสูตรต้องการ นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าในกรณีที่อาจารย์เกษียณหรือออกจากตำแหน่ง ทำให้หลักสูตรสามารถดำเนินการได้ทันทีเมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลง

แนวทางเสริม
           การคัดเลือกอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรสามารถเพิ่มกระบวนการประเมินคุณสมบัติอย่างเป็นระบบเพื่อให้สามารถพัฒนาอาจารย์ให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงในวงการศึกษาและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยการทบทวนคุณสมบัติและแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่องอาจช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษาและตลาดแรงงานได้ดียิ่งขึ้น

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนา
           ระบบการคัดเลือกและแต่งตั้งอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอาจจะมีความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หากมีการเปิดเผยเกณฑ์การคัดเลือกและผลการพิจารณาให้ชัดเจนต่อสาธารณะ เช่น การทำแบบประเมินความคิดเห็นจากอาจารย์ในหลักสูตรหรือนักศึกษา เพื่อให้สามารถรับฟังความคิดเห็นและมุมมองที่หลากหลายจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

แนวทางปรับปรุง
           ควรพิจารณาการเสริมสร้างกลไกการประเมินผลการดำเนินงานของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในระยะยาว และการทบทวนระบบการคัดเลือกและแต่งตั้งอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจเปิดโอกาสให้มีการประเมินจากนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยเพื่อให้สามารถปรับปรุงระบบให้ทันสมัยและตอบสนองความต้องการของทุกฝ่ายได้ดียิ่งขึ้น

ระบบการบริหารอาจารย์:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น
           ระบบการบริหารอาจารย์ของหลักสูตรมีการจัดการที่ครอบคลุมและมีการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง โดยการมอบหมายภาระงานให้สอดคล้องกับคุณวุฒิและประสบการณ์ของอาจารย์ รวมถึงการมีการทบทวนและประเมินผลการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสอนและความพึงพอใจของนักศึกษา นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนให้คณาจารย์เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการและงานสร้างสรรค์ทั้งในและนอกสถาบัน ซึ่งช่วยให้อาจารย์สามารถพัฒนาความสามารถตามทันความเปลี่ยนแปลงในวิชาชีพได้อย่างต่อเนื่อง

แนวทางเสริม
           ควรพิจารณาพัฒนากระบวนการประเมินผลการบริหารอาจารย์ให้มีความชัดเจนและมีการติดตามผลในแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การบริหารภาระงานและการพัฒนาบุคลากรสามารถปรับปรุงได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งควรเสริมการสื่อสารภายในให้มีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น เช่น การรายงานผลการประเมินจากการอบรมหรือสัมมนา เพื่อให้สามารถปรับกลยุทธ์การพัฒนาทรัพยากรบุคคลได้ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนา
           ระบบการบริหารอาจารย์ในด้านการประเมินผลยังขาดการประเมินในเชิงลึกต่อประสิทธิภาพของการบริหารภาระงานและการสอนของอาจารย์ในแต่ละปีการศึกษา โดยเฉพาะการประเมินการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ในการสอนและการปรับตัวของอาจารย์ให้ทันกับแนวโน้มในวงการศึกษา ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาการเรียนการสอนได้ดียิ่งขึ้น

แนวทางปรับปรุง
           ควรเพิ่มการประเมินผลเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน รวมถึงการติดตามผลกระทบจากการอบรมและกิจกรรมต่าง ๆ ที่อาจารย์เข้าร่วมในปีการศึกษาแต่ละปี นอกจากนี้ควรสร้างระบบการฟีดแบ็กจากนักศึกษาเกี่ยวกับการบริหารการเรียนการสอนของอาจารย์ เพื่อให้ข้อมูลเชิงประจักษ์มาปรับปรุงการทำงานและการพัฒนาภาระงานของอาจารย์ในอนาคต

ระบบการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ให้มีคุณภาพทั้งด้านความรู้ ความสามารถในเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ สามารถก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่ มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาศาสตร์ในสาขาวิชาที่รับผิดชอบ:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีการส่งเสริมให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบพัฒนาตนเอง

จุดเด่น
           ระบบการส่งเสริมและพัฒนาอาจารย์ของหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ มีการสนับสนุนให้อาจารย์พัฒนาความรู้และทักษะในเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ รวมถึงการติดตามการพัฒนาตนเองผ่านแผนการพัฒนาระยะยาว โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการต่าง ๆ เช่น การอบรมและการสัมมนา ซึ่งช่วยให้อาจารย์สามารถก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่และพัฒนาทักษะในการจัดการเรียนการสอนและการวิจัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางเสริม
           เพื่อเสริมประสิทธิภาพของระบบการพัฒนาอาจารย์ ควรมีการติดตามและประเมินผลการพัฒนาทักษะด้านต่าง ๆ อย่างชัดเจนและเป็นระบบมากขึ้น เช่น การประเมินผลการอบรมหรือสัมมนาที่อาจารย์เข้าร่วมในทุกปีการศึกษา นอกจากนี้ ควรมีการจัดทำแผนพัฒนาอาจารย์ในรูปแบบที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้การติดตามความก้าวหน้าของอาจารย์ในแต่ละด้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของสาขาวิชาและการเปลี่ยนแปลงในวงการศึกษา

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • อาจจะต้องขยายความ/เพื่มเติมการตั้งเป้าหมายเกี่ยวกับการพัฒนาตนเองโดยการกำหนดประเด็นการพัฒนาที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน อาทิ องค์ความรู้ใหม่ หรือการเปลี่ยนแปลงของศาสตร์ใหม่ ๆ ที่หลักสูตรพบจากการประเมินผลการดำเนินงานของหลักสูตร (ส่วนต้นขององค์ประกอบที่ 5) และความคาดหวังของผู้เรียน/ผู้ประกอบการ (จากการทำ stakeholder analysis และ/หรือ market analysis) หลักสูตรจึงได้วางแผนให้อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อย 2-3 คนไปพัฒนาตนเองโดยการอบรม 
    • มีระบบการสนับสนุนหรือไม่ กรณีมีค่าใช้จ่าย ดำเนินการอย่างไร 
  • มีการส่งเสริมเรื่องศักยภาพการจัดการเรียนการสอนหรือไม่ สนับสนุนเรื่อง Professional Standards Framework-PSF หรือไม่ หรือส่งเสริมให้มีการทำงานวิจัยด้านการพัฒนาการเรียนการสอน การจัดอบรมเรื่องการออกแบบหลักสุตร / ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ด้วยวิธีการใหม่ ๆ / การออกแบบหลักสูตรแบบ OBE เป็นต้น
  • จากการดำเนินการดังกล่าว อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีความรู้ ความสามารถในเนื้อหาวิชาที่รับผิดชอบ สามารถก้าวทันวิทยาการสมัยใหม่ มีความสามารถในการจัดการเรียนรู้ การวิจัย และการพัฒนาศาสตร์ เพิ่มขึ้นหรือไม่ อย่างไร ทราบได้อย่างไร
    • จะไปเห็นเชื่อมโยงใน 5.1 5.2 5.4(การพัฒนาอาจารย์) และ 6.1 (สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ใหม่ๆ)
  • เนื่องจากหลักสูตรมีอาจารย์ที่มีคุณวุฒิระดับปริญญาเอกเพียง 1 คน (4.2-1) หลักสูตรมีระบบและกลไกการดำเนินการเพื่อการพัฒนาคุณวุฒิของอาจารย์ รวมทั้งตำแหน่งทางวิชาการ (4.2-2)

จุดที่ควรพัฒนา
           ระบบการติดตามและประเมินผลการพัฒนาอาจารย์ยังขาดความละเอียดในด้านการวัดผลกระทบจากการอบรมหรือกิจกรรมทางวิชาการที่อาจารย์เข้าร่วม การประเมินผลการพัฒนาความรู้และทักษะของอาจารย์ควรมีการวัดผลที่ชัดเจนมากขึ้น ทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณ เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงกระบวนการพัฒนาต่อไป

แนวทางปรับปรุง
           ควรสร้างระบบการประเมินผลหลังการเข้าร่วมอบรมหรือสัมมนาโดยอาจารย์ทุกคน เพื่อวัดผลการเรียนรู้ที่ได้รับและสามารถนำไปปรับใช้ในการสอนจริง นอกจากนี้ควรเสริมการใช้เทคโนโลยีในการติดตามความคืบหน้าของอาจารย์ เช่น การใช้ระบบออนไลน์สำหรับการจัดการข้อมูลการอบรมและประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ข้อมูลการพัฒนาของอาจารย์เป็นระบบและสามารถใช้ในการปรับปรุงแผนพัฒนาของหลักสูตรได้ดียิ่งขึ้น

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 4.2] คุณภาพอาจารย์

4.2.1 ร้อยละของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5 5.00
[2] จำนวนอาจารย์ที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก 1
[3] ร้อยละที่ได้ [2] X 100 / [1] 20.00
[4] ผลลัพธ์ที่ได้ [3] X 5 / 20 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • อาจารย์ที่มีคุณวุฒิระดับปริญญาเอก 1 ท่าน

จุดเด่น
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิตมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีคุณวุฒิปริญญาเอก 1 คน คิดเป็น 20% ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำ และได้รับคะแนนเต็มในประเด็นนี้ นอกจากนี้ยังมีผลงานสร้างสรรค์ที่เผยแพร่ในระดับนานาชาติจำนวน 3 ชิ้น ซึ่งแสดงถึงความสามารถในการผลิตผลงานที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาวิชาชีพและการขอตำแหน่งทางวิชาการในอนาคต

แนวทางเสริม
ควรเพิ่มการส่งเสริมอาจารย์ให้มีผลงานทางวิชาการในรูปแบบของบทความวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคะแนนในด้านผลงานทางวิชาการและยกระดับคุณภาพของหลักสูตรให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การพัฒนาอาจารย์ในด้านตำแหน่งทางวิชาการควรได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มสัดส่วนของอาจารย์ที่มีตำแหน่งทางวิชาการสูงขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • ส่งเสริมการพัฒนาคุณวุฒิของอาจารย์

จุดที่ควรพัฒนา
จำนวนอาจารย์ที่มีตำแหน่งทางวิชา ยังไม่มีการแต่งตั้งเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลให้หลักสูตรมีสัดส่วนน้อยของอาจารย์ที่มีตำแหน่งทางวิชาการสูง การพัฒนาอาจารย์ในด้านนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพทางวิชาการและการพัฒนาศักยภาพของหลักสูตร

แนวทางปรับปรุง
ควรมีการสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาอาจารย์ในด้านการวิจัยและการตีพิมพ์บทความวิชาการในวารสารระดับนานาชาติ รวมถึงจัดโปรแกรมฝึกอบรมเพื่อเพิ่มโอกาสในการขอรับตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การสร้างโอกาสให้อาจารย์เข้าร่วมในงานวิจัยร่วมกับหน่วยงานภายนอกอาจช่วยพัฒนาและสร้างผลงานที่สามารถยกระดับตำแหน่งทางวิชาการได้

 

4.2.2 ร้อยละของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5 1.67
[2] ไม่มีตำแหน่งทางวิชาการ [อาจารย์] 4
[3] ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ 1
[4] ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์ 0
[5] ดำรงตำแหน่งศาสตราจารย์ 0
[6] ดำรงตำแหน่งทางวิชาการทั้งหมด [3] + [4] + [5] 1
[7] ร้อยละที่ได้ [6] X 100 / [1] 20.00
[8] ผลลัพธ์ที่ได้ [7] x 5 / 60 1.67
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีอาจารย์ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการ 1 ท่าน

จุดเด่น
หลักสูตรมีอาจารย์ที่ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ 1 คน ซึ่งเป็นการแสดงถึงการพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ในด้านวิชาการ แม้จะมีจำนวนตำแหน่งทางวิชาการที่ยังไม่สูงมาก แต่หลักสูตรก็ยังคงมีการสนับสนุนให้มีความก้าวหน้าในสายอาชีพ และมีผลงานสร้างสรรค์ที่เผยแพร่ในระดับนานาชาติ

แนวทางเสริม
ควรเพิ่มการพัฒนาและสนับสนุนให้มีอาจารย์ที่ดำรงตำแหน่งรองศาสตราจารย์หรือศาสตราจารย์ในอนาคต โดยการส่งเสริมการวิจัยและการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ รวมถึงการจัดโปรแกรมพัฒนาวิชาการเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มโอกาสในการขอตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • ส่งเสริมสนับสนุนให้พัฒนางานวิจัย/วิชาการ เพื่อการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ

จุดที่ควรพัฒนา
หลักสูตรมีอาจารย์ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการสูง (รองศาสตราจารย์และศาสตราจารย์) น้อยมาก ซึ่งยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่คาดหวัง การพัฒนาอาจารย์ในด้านตำแหน่งทางวิชาการควรได้รับการสนับสนุนมากขึ้นเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งทางวิชาการของหลักสูตร

แนวทางปรับปรุง
ควรเพิ่มการสนับสนุนในการพัฒนาอาจารย์ให้มีผลงานวิจัยที่สามารถนำไปสู่การขอตำแหน่งทางวิชาการที่สูงขึ้น รวมถึงการเสริมโอกาสในการเข้าร่วมการอบรมหรือโปรแกรมพัฒนาอาชีพที่มุ่งเน้นการสร้างตำแหน่งทางวิชาการ เพื่อเพิ่มสัดส่วนของอาจารย์ที่มีตำแหน่งวิชาการสูงขึ้นในอนาคต

 

4.2.3 ผลงานทางวิชาการของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
จำนวนผลงานทางวิชาการตามค่าถ่วงน้ำหนัก
ค่าถ่วงน้ำหนัก 0.20 0.40 0.60 0.80 1.00
จำนวนผลงาน (ชิ้น) 0 0 0 0 0
จำนวนผลงานสร้างสรรค์ตามค่าถ่วงน้ำหนัก
ค่าถ่วงน้ำหนัก 0.20 0.40 0.60 0.80 1.00
จำนวนผลงาน (ชิ้น) 0 0 0 0 3
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] ผลรวมถ่วงน้ำหนักที่ได้ 3.00 5.00
[2] จำนวนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทั้งหมด 5
[3] ร้อยละที่ได้ [1] X 100 / [2] 60.00
[4] ผลลัพธ์ที่ได้ [3] X 5 / 20 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีผลงานสร้างสรรค์ที่เผยแพร่ในระดับนานาชาติ

จุดเด่น
อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีผลงานสร้างสรรค์ที่ได้รับการเผยแพร่ในระดับนานาชาติจำนวน 3 ชิ้น ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการสร้างผลงานที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับในระดับสากล การเผยแพร่ผลงานในระดับนี้ช่วยเสริมความน่าเชื่อถือและพัฒนาอาชีพของอาจารย์ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง

แนวทางเสริม
ควรเพิ่มการสนับสนุนให้มีผลงานทางวิชาการในรูปแบบของบทความวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือระดับนานาชาติ โดยเฉพาะการมุ่งเน้นการพัฒนาผลงานที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้วิจัยและนักวิชาการในวงกว้าง การส่งเสริมให้มีการตีพิมพ์ในวารสารที่มีการประเมินคุณภาพจากผู้ทรงคุณวุฒิจะช่วยยกระดับคุณภาพทางวิชาการของหลักสูตรต่อไป

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • สงเสริมให้มีการพัฒนางานวิจัย หรือการนำผลงานสร้างสรรค์มาใช้ในการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ

จุดที่ควรพัฒนา
ปัจจุบันหลักสูตรยังไม่มีผลงานทางวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับชาติหรือระดับนานาชาติ ซึ่งส่งผลให้คะแนนในด้านผลงานวิชาการต่ำ การขาดผลงานวิจัยในระดับที่มีการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิส่งผลกระทบต่อการพัฒนาคุณภาพทางวิชาการของหลักสูตร

แนวทางปรับปรุง
ควรเพิ่มการสนับสนุนและส่งเสริมให้คณาจารย์มีผลงานวิจัยที่สามารถตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือระดับนานาชาติ โดยอาจจัดการอบรมหรือเวิร์กช็อปเพื่อพัฒนาเทคนิคการเขียนงานวิจัยและการนำเสนองานในที่ประชุมวิชาการที่มีการประเมินคุณภาพ เพื่อยกระดับผลงานทางวิชาการให้ตรงตามมาตรฐานระดับสากล

 

รายการหลักฐาน ตัวบ่งชี้ 4.2 คุณภาพอาจารย์
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ตัวบ่งชี้ 4.2 คุณภาพอาจารย์ คะแนนที่ได้ 3.89 คะแนน

[ตัวบ่งชี้ 4.3] ผลที่เกิดกับอาจารย์

หมายเหตุ :
(1) ยกเว้นกรณี การเกษียณอายุงาน และการเสียชีวิต
(2) หากรายชื่อมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากปรับเข้าเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร พ.ศ. 2558 ให้ถือว่าอัตราการคงอยู่ครบในปีการศึกษาแรกที่ปรับเข้าเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตร 2558
(3) หากรายชื่อที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบท่านใหม่ต้องมีประสบการณ์ร่วมบริหารหลักสูตรมาไม่น้อยกว่า 9 เดือน (มีหลักฐานรายงานการประชุมภาควิชาหรือการประชุมหลักสูตร)
(4) รายงานถึงสิ้นสุดปีการศึกษา 2567 และจะได้รับการประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต้องประเมิน จาก ≥ 3 ชุดข้อมูล
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2565
ร้อยละ 80.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2566
ร้อยละ 100.00
ร้อยละอัตราคงอยู่ ในปีการศึกษา 2567
ร้อยละ 100.00
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • ปี 2564 เป็นการเปลี่ยนอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเพื่อการปรับปรุงหลักสูตรหรือไม่?

จุดเด่น
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิตมีอัตราการคงอยู่ของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในปีการศึกษา 2567 สูงถึง 100% ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นคงของทีมผู้สอนและความพึงพอใจที่อาจารย์มีต่อการบริหารหลักสูตร การได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงในทุกด้านเช่น การบริหารอาจารย์ (5.52) และการส่งเสริมพัฒนาอาจารย์ (5.14) แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการที่มีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของอาจารย์

แนวทางเสริม
ควรพัฒนาและเสริมสร้างการสื่อสารภายในระหว่างอาจารย์และฝ่ายบริหารให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้ข้อมูลและความคาดหวังในการพัฒนาอาจารย์เป็นไปอย่างโปร่งใสและมีประสิทธิภาพสูงสุด อีกทั้ง การประเมินความพึงพอใจของอาจารย์สามารถขยายขอบเขตในการประเมินเพื่อรวมถึงการติดตามผลการพัฒนาและผลการดำเนินงานที่ได้จากการพัฒนาทุนมนุษย์ในระยะยาวเพื่อเพิ่มประสิทธิผลของหลักสูตร

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนา
แม้หลักสูตรจะมีอัตราการคงอยู่ของอาจารย์ 100% แต่ยังไม่มีการเน้นให้ความสำคัญกับการปรับปรุงและพัฒนาในด้านการจัดการสอนอย่างต่อเนื่อง การติดตามความพึงพอใจของอาจารย์ควรครอบคลุมการรับฟังข้อเสนอแนะในการพัฒนาระบบการสอน เพื่อให้การปรับปรุงกลยุทธ์การบริหารงานและการจัดการเรียนการสอนเป็นไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น

แนวทางปรับปรุง
ควรเสริมสร้างระบบการประเมินที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการรวบรวมข้อเสนอแนะจากอาจารย์ในทุกด้าน เช่น ความสะดวกในการดำเนินการสอน ความพร้อมของวัสดุการเรียนการสอน รวมถึงการพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมเพิ่มเติมที่สามารถตอบสนองความต้องการและศักยภาพของอาจารย์ได้อย่างตรงจุด

 

ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่มีต่อการบริหารหลักสูตร
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2565 ร้อยละ 4.95
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2566 ร้อยละ 4.97
ความพึงพอใจ ในปีการศึกษา 2567 ร้อยละ 4.49
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น
ความพึงพอใจของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในด้านการบริหารหลักสูตรมีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีการศึกษา 2565 ถึง 2567 โดยเฉพาะในด้านการบริหารอาจารย์ที่ได้รับคะแนนสูงสุดซึ่งสะท้อนถึงการวางแผนอัตรากำลังที่มีประสิทธิภาพและการมีส่วนร่วมของอาจารย์ในการวางแผนและติดตามผลการดำเนินงานที่ชัดเจนและโปร่งใส

แนวทางเสริม
แม้คะแนนความพึงพอใจในด้านการบริหารอาจารย์จะสูง แต่การพัฒนาระบบการสื่อสารภายในระหว่างอาจารย์และฝ่ายบริหารยังสามารถพัฒนาได้เพิ่มเติม เช่น การเสริมการรับฟังความคิดเห็นจากอาจารย์เกี่ยวกับการปรับปรุงกระบวนการสอนและการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของอาจารย์และยกระดับการบริหารหลักสูตรให้ดียิ่งขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนา
แม้ว่าคะแนนความพึงพอใจจะสูงในหลายด้าน แต่ยังมีพื้นที่ที่สามารถปรับปรุงได้ในด้านการจัดการและการสื่อสารเกี่ยวกับการบริหารงาน โดยเฉพาะการพัฒนาระบบการติดตามผลการดำเนินงานและการประเมินความคืบหน้าของการดำเนินงานหลักสูตรที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การบริหารงานมีความโปร่งใสและตรงกับความคาดหวังของอาจารย์

แนวทางปรับปรุง
ควรเสริมการประเมินผลการดำเนินงานของหลักสูตรให้มีการติดตามผลและประเมินผลอย่างเป็นระบบทุกปี โดยการนำข้อมูลจากการประเมินความพึงพอใจของอาจารย์มาปรับใช้ในการพัฒนากระบวนการบริหารงาน การเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้สะดวกและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นจะช่วยให้การบริหารหลักสูตรสามารถตอบสนองต่อข้อเสนอแนะของอาจารย์ได้อย่างทันท่วงที

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
-

องค์ประกอบที่ 5 หลักสูตร การเรียนการสอน การประเมินผู้เรียน

[ตัวบ่งชี้ 5.1] สาระของรายวิชาในหลักสูตร

23
20
86.96
คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
-
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การออกแบบหลักสูตร และสาระรายวิชาในหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน มีหลักสูตรหรือรายวิชาที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • หน้า 73 - 75 เป็นการแผนการปรับปรุงจากการประเมินคุณภาพการสอน ซึ่มาจาก RQF5/6 ซึ่งหลักสูตรสามารถใช้เป็นแนวทางการปรับปรุงสาระสำคญของรายวิชา และกระบวนการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนได้ (5.1-1) ได้

จุดเด่น
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ มีการออกแบบหลักสูตรและสาระรายวิชาที่ทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียนและอุตสาหกรรมสื่อ โดยมีการปรับเนื้อหาวิชาให้ทันกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การใช้ AI GPT ในการเขียนบทภาพยนตร์ รวมถึงการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงผ่านการฝึกงานและการเชื่อมโยงกับผู้เชี่ยวชาญจากภาคอุตสาหกรรม สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของหลักสูตรในการพัฒนาทักษะและความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในงานจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางเสริม
ควรเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างหลักสูตรกับสถานประกอบการอย่างยั่งยืน เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาทักษะเฉพาะทางและการเรียนรู้จากการทำงานจริงในภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้ การปรับปรุงหลักสูตรให้มีการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีและการใช้สื่อดิจิทัลยังสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับบัณฑิตในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • พบว่ามี 5 รายวิชาที่ไม่มีการประเมินคุณภาพการสอน
  • จากเกณฑ์ "การออกแบบหลักสูตร และสาระรายวิชาในหลักสูตรที่ปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้เรียน มีหลักสูตรหรือรายวิชาที่เป็นความร่วมมือกับสถานประกอบการ" หลักสูตรกระบวนการ/ระบบและกลไกการรับฟังเสียงของผู้เรียน และผู้ประกอบการ เพื่อเป็นแนวทางการปรับปรุงหลักสูตร การเรียนการสอน และสาระของรายวิชาอย่างไร เกิดรายวิชา / เนื้อหา ที่มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน/ผู้ประกอบการหรือไม่ => อาจจะใช้ข้อมูลจาก การประเมินคุณภาพบัณฑิต การสนทนากลุ่มย่อยกับผู้ใช้บัณฑิต หรือ ผู้ที่อยู่ในอุตสาหกรรม การทำวิจัยเกี่ยวกับคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักศึกษาจากผู้ใช้บัณฑิต ข้อมูลจากเวทีวิชาการ/การสัมมนาภายนอกต่าง ๆ ที่อาจารย์ผุ้รับผิดชอบหลักสูตรเข้าร่วม (4.1-3)   
  • จึงขอให้รายงานว่า 
  • ขอให้รายงานว่า
    • หลักสูตรมีกระบวนการรับฟังเสียงของผู้เรียน/สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ประกอบการอย่างไร
    • จากข้อมูลนั้นนำมาสู่การออกแบบหลักสูตร/สาระของรายวิชาอย่างไร
    • เกิดรายวิชา หรือการจัดการเรียนการสอน การมีส่วนร่วมของผู้ประกอบการหรือไม่
    • วิธีการดังกล่าวประสบความสำเร็จหรือไม่ มีสิ่งใดที่ควรพัฒนา ทราบได้อย่างไร
    • มีแนวทางการปรับระบบและกลไกนี้ได้อย่างไร

จุดที่ควรพัฒนา
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ แม้จะมีการปรับปรุงเนื้อหาวิชาให้ทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรมสื่อ แต่ยังมีจุดที่สามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ เช่น การเพิ่มการฝึกปฏิบัติกับสถานประกอบการมากขึ้น โดยเฉพาะในด้านการสร้างสรรค์งานที่สามารถใช้ในเชิงพาณิชย์จริง ซึ่งจะช่วยให้นักศึกษาเข้าใจกระบวนการทำงานในอุตสาหกรรมได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มบทเรียนเกี่ยวกับการสร้างกลยุทธ์การตลาดสื่อหรือวิธีการวิเคราะห์แนวโน้มอุตสาหกรรมสื่อในเชิงลึก จะทำให้นักศึกษาได้รับทักษะที่สำคัญในการก้าวสู่ตลาดงานได้ง่ายขึ้น

แนวทางปรับปรุง
เพื่อพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่อ ควรเพิ่มการเชื่อมโยงกับสถานประกอบการมากขึ้น เช่น การจัดทำโปรแกรมสหกิจศึกษาที่มีโอกาสให้ฝึกงานกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม หรือการเชิญวิทยากรจากสถานประกอบการมาให้ความรู้และแนะนำแนวทางการทำงานจริง อีกทั้งควรพิจารณาการปรับปรุงรายวิชาเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และเครื่องมือที่ใช้ในอุตสาหกรรมสื่อ เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้และใช้เครื่องมือเหล่านั้นในกระบวนการสร้างสรรค์งานมากยิ่งขึ้น

มีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ผ่านที่ประชุมอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร และมอบหมายให้เชื่อมโยงผลลัพธ์การเรียนรู้ทั้ง 3 ด้านกับรายวิชาที่สอนในแต่ละชั้นปี กำหนดให้แต่ละปีการศึกษามีรายวิชาที่สะท้อนผลลัพธ์การเรียนรู้แต่ละด้านอย่างชัดเจนอย่างน้อย 1 รายวิชา
  • ผลการประเมิน 4.62 = ระดับดีมาก

จุดเด่น
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ ได้มีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนานักศึกษาในทุกมิติ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และทักษะเชิงวิชาชีพที่สามารถประยุกต์ใช้ได้จริง การกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ชัดเจนในแต่ละปีการศึกษาช่วยให้นักศึกษามีทักษะที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในโลกการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน

แนวทางเสริม
แม้หลักสูตรจะมีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ครบถ้วนในทุกด้านแล้ว แต่ควรมีการเพิ่มประสบการณ์การเรียนรู้ที่เชื่อมโยงกับการทำงานในอุตสาหกรรมมากขึ้น เช่น การเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาได้ทำงานจริงกับบริษัทหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาของตนในระหว่างการศึกษา การฝึกงานหรือการร่วมงานกับมืออาชีพในวงการสื่อจะช่วยเสริมทักษะในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพิ่มประสบการณ์ในการเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • อาจมีการทำ LO mapping เชื่อมโยงในทุก ๆ รายวิชา จาก PLO -> YLO และ CLO
  • การประเมินผลการเรียนรู้สามารถดำเนินการในระหว่างการเรียน เพื่อประเมินว่า CLO และ YLO ที่หลักสูตรกำหนดนั้น มีประเด็นใดที่ยังไม่บรรลุบ้าง และสามารถปรับกระบวนการจัดการเรียนการสอน และการพัฒนานักศึกษาในระหว่างการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตร เพื่อให้สามารถบรรลุตาม LO ที่หลักสูตรกำหนดไว้ได้
  • อาจจะตอบเกณฑ์ว่า การกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ดังกล่าว ตอบโจทย์ของตลาดแรงงานมากน้อยเพียงใด และทราบได้อย่างไร 
  • เป้าหมาย = กำหนดให้แต่ละปีการศึกษามีรายวิชาที่สะท้อนผลลัพธ์การเรียนรู้แต่ละด้านอย่างชัดเจนอย่างน้อย 1 รายวิชา อาจจะไม่เพียงพอ เนื่องจากหลักคิดพื้นฐานของ OBE การจัดการเรียนการสอนแต่ละรายวิชาต้อง มี CLO ที่สอดคล้อง/ส่งเสริมการพัฒนา PLO 

จุดที่ควรพัฒนา
แม้หลักสูตรมีการกำหนดผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ชัดเจนทั้งสามด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) แต่การเชื่อมโยงผลลัพธ์เหล่านี้กับกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นภาคปฏิบัติยังสามารถพัฒนาเพิ่มเติมได้ เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายและจริงจังในทุกด้าน โดยเฉพาะการพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกับทีมในระดับอาชีพมากขึ้น การมีส่วนร่วมในโครงการภาคสนามหรือการทำงานร่วมกับสถานประกอบการจะช่วยเสริมทักษะในการประยุกต์ใช้ความรู้จริงในสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรม

แนวทางปรับปรุง
ควรพิจารณาการเสริมโอกาสในการฝึกปฏิบัติจริง โดยการร่วมมือกับสถานประกอบการหรือองค์กรภายนอก เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงและเตรียมพร้อมในการเข้าสู่ตลาดงาน การจัดทำโครงการความร่วมมือหรือการฝึกงานในภาคเรียนที่เข้มข้นยิ่งขึ้นจะช่วยให้นักศึกษามีความพร้อมในการประยุกต์ใช้ความรู้ทางวิชาการและทักษะที่เรียนมาในบริบทการทำงานจริง เพิ่มโอกาสในการเรียนรู้จากมืออาชีพและการรับฟังคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรม

 

การปรับปรุงหลักสูตรให้ทันสมัยตามความก้าวหน้าในศาสตร์สาขานั้นๆ และเชื่อมโยงกับการนำไปใช้ได้จริง
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีการกำหนดกณฑ์การประเมินความสำเร็จตามประเด็นนี้

จุดเด่น
หลักสูตรมีการปรับปรุงเนื้อหาและวิธีการเรียนการสอนอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ทันสมัยและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสื่อและความต้องการของอุตสาหกรรม การผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น AI และการผลิตสื่อดิจิทัลร่วมสมัยในวิชาหลัก เช่น การกำกับภาพยนตร์และการเขียนบทโทรทัศน์ เป็นการปรับตัวที่ดีในการเตรียมนักศึกษาให้มีทักษะที่ใช้ได้จริงในสภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็ว

แนวทางเสริม
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปรับปรุงหลักสูตร ควรมีการจัดกิจกรรมหรือเวิร์กช็อปร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ทำงานจริงกับโครงการจากสถานประกอบการ โดยเฉพาะในวิชาที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสื่อในรูปแบบใหม่ๆ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมจะช่วยให้หลักสูตรสามารถปรับตัวได้เร็วขึ้นและนักศึกษามีโอกาสเรียนรู้จากประสบการณ์จริงในวงการ

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • การประเมินความสำเร็จตามประเด็นนี้หลักสูตรใช้เครื่องมือวัดคืออะไร ในการตรวจสอบ KPI - ความทันสมัยของหลักสูตร และสามารถนำไปใช้ได้จริง
  • แหล่งข้อมูลเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงหลักลักสูตรให้มีความทันสมัย และสามารถนำไปใช้ได้จริงนั้นมาจากกิจกรรมใด 
    • เมื่อหลักสูตรทราบข้อมูลแล้ว หลักสูตรดำเนินการอย่างไร เพื่อ execute ไปยังอาจารย์ที่รับผิดชอบรายวิชา
    • หลักสูตร มีระบบ/กลไกการตรวจสอบว่า อาจารย์ที่รับผิดชอบรายวิชานั้น มีการปรับเปลี่ยนเนื่อหาสาระตามที่หลักสูตรเสนอ หรือกำหนดไว้หรือไม่
    • ตรวจสอบอย่างไรว่า หลักสูตรให้ทันสมัยตามความก้าวหน้าในศาสตร์สาขานั้นๆ และเชื่อมโยงกับการนำไปใช้ได้จริง
    • ผลของการตรวจสอบนำไปสู่การปรับปรุงสิ่งใด
    • ผลที่เกิดขึ้นคืออะไร
      • หลักสูตร / คุณภาพบัณฑิต / PLO => actual + trend 

จุดที่ควรพัฒนา
ถึงแม้ว่าหลักสูตรจะมีการปรับปรุงให้ทันสมัยและตอบสนองต่อความต้องการของอุตสาหกรรม แต่ยังคงมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะในด้านการใช้งานเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้น เช่น การใช้เครื่องมือสมัยใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลในเชิงลึก นอกจากนี้ยังควรให้ความสนใจกับการพัฒนาทักษะการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารระหว่างนักศึกษาและภาคอุตสาหกรรมเพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงสุด

แนวทางปรับปรุง
ควรพิจารณาการเพิ่มวิชาหรือกิจกรรมที่มุ่งเน้นการเรียนรู้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น การใช้ VR/AR ในการผลิตภาพยนตร์ หรือการฝึกอบรมเกี่ยวกับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับสื่อสมัยใหม่ รวมทั้งการเปิดโอกาสให้นักศึกษามีประสบการณ์จริงในการทำงานร่วมกับสถานประกอบการในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น การทำโปรเจกต์ร่วมกับบริษัทสื่อ เพื่อเพิ่มพูนทักษะที่จำเป็นในการทำงานในอุตสาหกรรมสื่อในอนาคต

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
  • หากมีอาจจะต้องเพิ่ม
    • LO mapping
    • Stakeholder analysis
    • การวิพากษ์หลักสูตรโดยผู้ทรงคุณวุฒิ

[ตัวบ่งชี้ 5.2] การวางระบบผู้สอน และกระบวนการจัดการเรียนการสอน

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
-
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดผู้สอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีการประชุมอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรที่กำหนดผู้สอนตามความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ที่สอดคล้องกับเนื้อหารายวิชา ล่วงหน้า 1 ปี
  • ใช้ผลประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอนร่วมในการกำหนดผู้สอนด้วย
  • กำหนดภาระงานของผู้สอนเพื่อให้มีความสามารถในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หน้า 93 ระบุว่า ผลการประเมินคุณภาพการสอน อยู่ที่ 3.40 ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่หน้า 75 ระบุว่ามีคะแนนประเมินลดลงเมื่อเทียบกับปี 2566 (4.30) => 2567 (3.40) ==> เหมือนการรายงานขัดแย้งกัน

จุดเด่น
หลักสูตมีการวางระบบการกำหนดผู้สอนที่ชัดเจน โดยคำนึงถึงคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของผู้สอนในแต่ละรายวิชา ซึ่งช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แก่นักศึกษา นอกจากนี้ยังมีการใช้ผลประเมินการสอนเพื่อปรับปรุงและพัฒนาอาจารย์ที่มีผลการสอนต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการสอนอย่างต่อเนื่อง

แนวทางเสริม
แม้ว่าการกำหนดผู้สอนจะมีความเหมาะสมในแง่ของคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญ แต่ควรพิจารณาการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการพัฒนาทักษะการสอน เช่น การใช้สื่อการเรียนการสอนออนไลน์หรือแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยให้อาจารย์สามารถเข้าถึงนักศึกษาได้มากขึ้น และเพิ่มการเรียนรู้ผ่านช่องทางที่สะดวกสบาย นอกจากนี้ ควรส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีในการสอนอย่างต่อเนื่องสำหรับอาจารย์ทุกท่าน เพื่อให้สามารถตอบสนองกับการเรียนรู้ที่ทันสมัยและสอดคล้องกับความต้องการของนักศึกษาในยุคดิจิทัลได้ดียิ่งขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนา
ถึงแม้ว่าการกำหนดผู้สอนจะคำนึงถึงคุณสมบัติและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในแต่ละรายวิชา แต่บางครั้งการใช้วิธีการสอนที่เหมาะสมกับการเรียนการสอนในภาคปฏิบัติยังอาจไม่ครอบคลุมทุกรายวิชาอย่างครบถ้วน ซึ่งอาจส่งผลให้การเรียนการสอนไม่สามารถตอบสนองต่อทักษะที่จำเป็นในตลาดแรงงานได้เต็มที่ นอกจากนี้ การพึ่งพาผู้สอนจากภายนอก (อาจารย์พิเศษ) อาจทำให้เกิดปัญหาความต่อเนื่องในการเรียนการสอนหรือการพัฒนาทักษะนักศึกษาอย่างยั่งยืน

แนวทางปรับปรุง
ควรเพิ่มความเข้มข้นในการฝึกอบรมอาจารย์ให้สามารถพัฒนาทักษะการสอนทั้งในเชิงทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หรือสื่อการสอนออนไลน์ เพื่อให้การเรียนการสอนมีความยืดหยุ่นและครอบคลุมทุกรูปแบบการเรียนรู้ อีกทั้งควรสร้างระบบสนับสนุนที่ช่วยเสริมความต่อเนื่องในการเรียนการสอนระหว่างผู้สอนประจำและอาจารย์พิเศษผ่านการประชุมหรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อให้การสอนมีคุณภาพและความต่อเนื่องในการพัฒนาทักษะของนักศึกษา

 

การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และการจัดการเรียนการสอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรมีระบบและกลไก การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และการจัดการเรียนการสอน

จุดเด่น
การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) รวมถึงการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตร มีการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ โดยมีการตรวจสอบและประเมินผลการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่องผ่านการทบทวนแผนการเรียนการสอน และการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษา ซึ่งช่วยให้การเรียนการสอนสอดคล้องกับเกณฑ์คุณภาพของมหาวิทยาลัยและผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ต้องการ การติดตามและการตรวจสอบยังช่วยให้สามารถปรับปรุงเนื้อหาวิชาและวิธีการสอนได้อย่างทันเวลา

แนวทางเสริม
การพัฒนาในด้านการกำกับติดตามสามารถเสริมสร้างความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนการเรียนการสอนตามผลการประเมินได้ดีขึ้น ควรเสริมสร้างระบบการประเมินที่เชื่อมโยงกับการวัดผลการเรียนรู้ในภาคปฏิบัติ เพื่อให้นักศึกษาสามารถได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรม นอกจากนี้ควรพิจารณาการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนการสอนและการติดตามผลการเรียนรู้ เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผลได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • ประเด็นที่ไม่ชัดเจนอาจจะเป็นเรื่อง การตรวจสอบ ว่า RQF3/4 มีการวางแผนกำหนด LO (จุดดำ/ขาว) และการประเมินผลของ LO นั้นตามที่กำหนดหรือไม่
    • PLO => YLO => [CLO => LLO] -> RQF3/4 
    • ตรวจสอบว่า LO ที่กำหนดไว้ได้มีแผนในการประเมินหรือไม่ แผนในการประเมินนั้นสามารถประเมิน LO ได้จริงหรือไม่ สะท้อน Competency ของ นศ ตามที่หลักสูตรคาดหวังหรือไม่ 
  • การรายงานประเด็นการทวนสอบอาจจะไม่เกี่ยวกับประเด็นการประเมินนี้ (pg.94-95)
  • การประเมินคุณภาพหลักสูตรโดยนักศึกษาอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับ ประเด็นนี้ (pg.95)

จุดที่ควรพัฒนา
การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (มคอ.3 และ มคอ.4) และการจัดการเรียนการสอน แม้จะมีการดำเนินงานตามระบบที่ดีแล้ว แต่ยังสามารถพัฒนาในเรื่องของความยืดหยุ่นในการปรับปรุงแผนการเรียนการสอนตามผลการประเมินจากนักศึกษาและการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีหรือวิชาชีพ เพื่อให้ทันต่อความต้องการและทิศทางใหม่ๆ ของอุตสาหกรรม การประเมินผลที่อาจไม่ครบถ้วนทุกวิชาในบางกรณีก็เป็นจุดที่ควรได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม

แนวทางปรับปรุง
เพื่อปรับปรุงการกำกับและติดตามการจัดการเรียนการสอน ควรพัฒนาระบบการประเมินผลการเรียนรู้ที่มีความครอบคลุมและแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในภาคปฏิบัติที่มีการใช้เทคโนโลยีร่วมในการเรียนรู้ ควรเสริมการใช้เครื่องมือดิจิทัลและการประเมินเชิงพาณิชย์ (commercial) เพื่อให้นักศึกษาสามารถรับประสบการณ์ที่เหมาะสมกับการทำงานจริง และควรมีการฝึกอบรมการพัฒนาหลักสูตรให้ครอบคลุมทั้งทฤษฎีและปฏิบัติเพื่อเพิ่มทักษะที่สามารถนำไปใช้ในวิชาชีพได้จริง

 

การจัดการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรีที่มีการบูรณาการกับการวิจัย การบริการวิชาการทางสังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีการบูรณาการการเรียนการสอนกับการวิจัย การบริการวิชาการทางสังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทย ในรายวิชาต่าง ๆ และเช่ือมโยงสู่ผลที่เกิดกับนักศึกษาคือความรู้ ความสามารถ ทักษะทางวิชาชีพ แล้วนำผลงานของนักศึกษาส่งประกวด

จุดเด่น
การจัดการเรียนการสอนที่มีการบูรณาการกับการวิจัย การบริการวิชาการทางสังคม และการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมและความเป็นไทยเป็นแนวทางที่ดีที่สามารถช่วยเชื่อมโยงนักศึกษากับโลกภายนอก โดยการจัดกิจกรรมร่วมกับสถานศึกษาและองค์กรต่างๆ สะท้อนถึงการส่งเสริมทักษะวิชาชีพพร้อมกับการพัฒนาจิตสำนึกทางสังคมและวัฒนธรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ การบูรณาการนี้ยังช่วยให้หลักสูตรมีความหลากหลายและทันสมัยในเชิงประยุกต์

แนวทางเสริม
เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งในการบูรณาการ ควรเน้นการขยายกิจกรรมเหล่านี้ให้ครอบคลุมหลากหลายมิติ เช่น การจัดโปรเจคท์ร่วมกับชุมชนเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น การใช้ผลงานของนักศึกษาในการเผยแพร่ผ่านช่องทางสื่อสาธารณะ หรือการจัดทำกิจกรรมที่สามารถนำไปสู่การสร้างอัตลักษณ์ในระดับชาติหรือสากลได้เพิ่มเติม นอกจากนี้ ควรมีการประเมินผลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น นักศึกษา สถานประกอบการ หรือชุมชน เพื่อสะท้อนการพัฒนาในด้านต่างๆ อย่างเป็นระบบ

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • การเข้าร่วมพิธีไหว้ครูของ นศ ชั้นปีที่ 1 อยู่ในรายวิชาใด => เป็นกิจกรรม (ALO) หรือรายวิชา (CLO)
  • อาจจะมีการนำเสนอที่กระจายให้เห็นชัดเจน ทั้ง CLO และ YLO ของรายวิชาต่าง ๆ นำเสนอในรูปแบบ Mapping และระบุผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการบูรณาการนั้น 

จุดที่ควรพัฒนา
แม้ว่าการบูรณาการกับการวิจัยและการบริการวิชาการจะเป็นแนวทางที่ดีในการส่งเสริมทักษะและความรู้ของนักศึกษา แต่ควรมีการเพิ่มการประเมินผลจากกิจกรรมเหล่านี้อย่างเป็นระบบและสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละกิจกรรมที่มีการบูรณาการไปนั้นสามารถวัดผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน เช่น การใช้ดัชนีชี้วัดที่เหมาะสมในการประเมินผลกระทบจากกิจกรรมทั้งในเชิงวิชาการและสังคม

แนวทางปรับปรุง
การบูรณาการกิจกรรมด้านการวิจัยและบริการวิชาการกับการเรียนการสอนควรมีการวางแผนที่ชัดเจนและมีการประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ เช่น การจัดทำแผนการประเมินผลลัพธ์จากการบูรณาการกิจกรรมกับหลักสูตร รวมถึงการให้ฟีดแบ็คที่สร้างสรรค์แก่นักศึกษาเกี่ยวกับผลงานที่เกิดขึ้นจริง นอกจากนี้ควรพัฒนาโปรแกรมการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกับองค์กรภายนอกมากขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสให้นักศึกษาได้สัมผัสกับงานจริงจากสถานประกอบการหรือชุมชนในทุกด้าน

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 5.3] การประเมินผู้เรียน

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
การประเมินผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ที่ครอบคลุมผลลัพธ์ผู้เรียนทั้ง 3 ด้าน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามวิสัยทัศน์และจุดเน้นของหลักสูตร ตลอดจนมาตรฐานวิชาชีพ (ถ้ามี)
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • หลักสูตรมีการออกแบบระบบการให้ feedback แก่ผู้เรียนด้วยรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาตนเองไดเ้ตามเป้าหมายของหลักสูตร
  • หลักสูตรได้นำเสนอระบบและกลไกการประเมินผลการเรียนรู้ที่หลากหลาย และมีการตรวจสอบประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษาที่เป็นไปตามข้อกำหนดทั้ง 5 ด้าน

จุดเด่น
หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ มีการประเมินผลการเรียนรู้ที่ครอบคลุมทั้ง 3 ด้านของผลลัพธ์การเรียนรู้ (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF) อย่างมีระบบ โดยใช้เครื่องมือประเมินที่หลากหลาย เช่น การสอบปลายภาค งานที่มอบหมาย การประเมินผลงาน และการให้ผลสะท้อนกลับจากอาจารย์ ช่วยให้นักศึกษาได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาตนเอง นอกจากนี้ยังมีการติดตามและประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและบัณฑิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนผลลัพธ์ที่ดีจากการดำเนินงานของหลักสูตร.

แนวทางเสริม
แม้การประเมินผลการเรียนรู้จะมีความครอบคลุมและหลากหลาย แต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในอนาคต ควรมีการปรับปรุงการใช้วิธีการประเมินในด้านทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์มากขึ้น โดยเน้นการใช้การประเมินแบบโครงงาน (Project-Based Assessment) หรือการทำงานจริงที่สามารถสะท้อนผลการเรียนรู้และทักษะวิชาชีพได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ ควรเพิ่มความโปร่งใสในการตรวจสอบผลการเรียนรู้และให้โอกาสนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการประเมินผล เพื่อให้สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • การรายงานด้วย LO mapping น่าจะช่วยให้หลักสูตรสามารถวางแผนการประเมินผล และดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การประเมินความพึงพอใจของนักศึกษา (pg101) อาจจะไม่สอดคล้องกับประเด็นนี้
จุดที่ควรพัฒนา
จุดเด่นของการประเมินผู้เรียนในหลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการเขียนบทและการกำกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ คือ การนำระบบและกลไกการประเมินที่ครอบคลุมทั้ง 3 ด้านของผลลัพธ์ผู้เรียน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) มาใช้ในการประเมินผลอย่างชัดเจน โดยมีกระบวนการที่หลากหลาย เช่น การเก็บคะแนนระหว่างภาค การทดสอบย่อย และการประเมินผลงานต่าง ๆ ทำให้สามารถวัดความสำเร็จของผู้เรียนในด้านต่าง ๆ ได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ยังมีการให้ผลสะท้อนกลับอย่างหลากหลาย ซึ่งช่วยให้นักศึกษาสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องและมีความโปร่งใสในการประเมิน

แนวทางปรับปรุง
ควรพัฒนาในการออกแบบเครื่องมือการประเมินให้มีความหลากหลายและครอบคลุมมากขึ้น เช่น การใช้การประเมินที่เน้นการคิดวิเคราะห์ในระดับลึกและการประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริงมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การประเมินมีความแม่นยำและสะท้อนความสามารถของนักศึกษาในเชิงลึกและเชิงปฏิบัติ อีกทั้งควรมีการเก็บข้อมูลจากผู้ใช้บัณฑิตเพื่อประเมินความพร้อมของบัณฑิตในโลกการทำงานจริง เพื่อให้สามารถปรับปรุงการเรียนการสอนและกระบวนการประเมินผลได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงตามความต้องการของตลาด

 
การตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดที่ควรพัฒนาในกระบวนการตรวจสอบการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษาคือ การเพิ่มความหลากหลายของเครื่องมือในการประเมินผลที่สามารถวัดทักษะต่าง ๆ ของนักศึกษาได้ครบถ้วนมากขึ้น เช่น การประเมินผ่านโครงงานที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติหรือการใช้เครื่องมือการประเมินที่คำนึงถึงการคิดวิเคราะห์เชิงลึก นอกจากนี้ ควรมีการเสริมสร้างมาตรฐานการประเมินให้สอดคล้องกับมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้การประเมินผลมีความโปร่งใสและมีความถูกต้องยิ่งขึ้น โดยการใช้มาตรฐานและเครื่องมือที่มีความเป็นกลางและเที่ยงตรงมากขึ้น.

แนวทางในการปรับปรุง คือ การพัฒนาเครื่องมือการประเมินให้หลากหลายและเหมาะสมกับแต่ละลักษณะของรายวิชา โดยสามารถใช้การประเมินในรูปแบบต่าง ๆ ที่สะท้อนผลลัพธ์จริงของการเรียนรู้ เช่น การใช้การประเมินแบบ project-based ที่นักศึกษาจะต้องนำผลงานจริงมานำเสนอ หรือการประเมินที่เน้นการใช้งานจริง เพื่อให้สามารถวัดทักษะและความสามารถของนักศึกษาในสถานการณ์จริงได้มากขึ้น และควรมีการประเมินผลจากผู้ใช้บัณฑิตเพื่อประเมินคุณภาพของบัณฑิตในการทำงานจริง ซึ่งจะช่วยให้การประเมินมีความสมบูรณ์และสามารถปรับปรุงกระบวนการการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่อง
 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • ควรนำเสนอประเด็นการทวนสอบ 
    • ระบุจำนวนรายวิชาที่มีการทวนสอบ และขอให้ mapping เพื่อแสดงว่ารายวิชาต่าง ๆ ในหลักสุตรมีแผนการทวนสอบอย่างไร ครบทุกรายวิชาตามรอบหลักสูตรหรือไม่ หรือมีเป้าหมายการทวนสอบกี่รายวิชา/กี่ % ในแต่ละปีการศึกษา (ตอบ 5.4)
    • ประเด็นการทวนสอบหลักสุตรระบุไว้ในหน้า 94-95 ขอให้รายงานในประเด็นการประเมินผลผู้เรียน
  • ในกระบวนการประเมินผล ควรให้ความสำคัญกับ "การเรียนรู้ร่วมกัน" (Term learning) รวมกับการทำงานเป็นทีมเพื่อเพิ่มทักษะในการทำงานวิชาชีพในอนาคตให้กับนักศึกษามากขึ้น            

         จุดที่ควรพัฒนาในการประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษาคือการขยายขอบเขตและความหลากหลายของเครื่องมือในการประเมินผลให้ครอบคลุมทักษะในเชิงลึกมากขึ้น เช่น การใช้การประเมินที่พิจารณาทักษะการคิดวิเคราะห์ การทำงานร่วมกับทีม และการประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริง นอกจากนี้ยังควรมีการปรับปรุงรูปแบบการประเมินให้สามารถสะท้อนผลลัพธ์ที่ครบถ้วนในทั้งสามด้านของผู้เรียน (Learner Person, Innovative Co-Creator, Active Citizen) โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาความรับผิดชอบทางสังคมและการมีส่วนร่วมในชุมชนที่อาจยังไม่เห็นผลการประเมินชัดเจนพอ.

         แนวทางการปรับปรุงสามารถเริ่มจากการเพิ่มเครื่องมือการประเมินที่หลากหลายและเหมาะสมกับลักษณะของรายวิชา เช่น การใช้การประเมินที่เน้นโครงงาน (project-based assessment) ซึ่งช่วยให้นักศึกษาได้ฝึกการคิดเชิงวิจารณ์และการแก้ปัญหาจากสถานการณ์จริง การเปิดโอกาสให้มีการประเมินจากผู้ใช้บัณฑิตหรือภาคอุตสาหกรรมจะช่วยเสริมความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีและการปฏิบัติได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเสริมการให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์และสามารถนำไปพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่องจากอาจารย์และผู้เกี่ยวข้อง
 

การกำกับการประเมินการจัดการเรียนการสอน และประเมินหลักสูตร (มคอ.5 มคอ.6 และ มคอ.7)
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
  • มีคณะกรรมการกำกับมาตรฐานหลักสูตร ที่ได้รับมอบหมายให้ให้ข้อเสนอแนะต่อผลการประเมินใน RQF5/6

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น

หลักสูตรมีระบบการประเมินผลที่ครอบคลุมตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ (TQF) และการเรียนรู้ตามมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2561 โดยครอบคลุมผลลัพธ์ทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ การพัฒนาตนเอง (Learner Person), การคิดสร้างสรรค์และร่วมมือผลิตผลงาน (Innovative Co-Creator), และการตระหนักรู้และมีส่วนร่วมต่อสังคม (Active Citizen). นอกจากนี้ ยังมีการใช้เครื่องมือการประเมินหลากหลาย เช่น การสอบ การประเมินผลงาน และการทดสอบย่อย ที่ช่วยให้การประเมินผลมีความครอบคลุมและเป็นธรรม นักศึกษาจึงได้รับการประเมินในหลายมิติ และสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างต่อเนื่อง.

แนวทางเสริม

แม้ระบบการประเมินที่มีอยู่จะมีความครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ แต่ควรพิจารณาเพิ่มเติมการประเมินแบบโครงงาน (project-based assessment) ที่เน้นการฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริงมากขึ้น. นอกจากนี้ ควรมีการปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบและประเมินผลให้รวดเร็วและมีความโปร่งใสมากขึ้น โดยเฉพาะในการติดตามผลการเรียนของนักศึกษาหลังจากการประเมิน เพื่อให้สามารถทำการปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนได้อย่างทันเวลาและมีประสิทธิภาพ
 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่ควรพัฒนา

แม้หลักสูตรจะมีระบบการประเมินที่ครอบคลุมและมีความหลากหลาย แต่การประเมินผลบางประการอาจยังไม่สามารถสะท้อนความสามารถของนักศึกษาได้เต็มที่ โดยเฉพาะการประเมินในเชิงลึกที่ทดสอบทักษะการคิดวิเคราะห์และการประยุกต์ใช้ความรู้ในสถานการณ์จริงในทุกๆ รายวิชา นอกจากนี้ การใช้การประเมินแบบโครงงาน (project-based assessment) ยังอาจจะมีไม่ครบถ้วนในทุกภาควิชา ทำให้นักศึกษาบางคนอาจไม่ได้รับโอกาสในการแสดงความสามารถในการปฏิบัติจริงอย่างเต็มที่

แนวทางปรับปรุง

ควรขยายการใช้การประเมินแบบโครงงานและการนำเสนอผลงานจริงของนักศึกษาให้ครอบคลุมทุกรายวิชา โดยการเน้นให้มีการประเมินที่ไม่เพียงแค่ในเชิงทฤษฎี แต่ยังต้องสอดคล้องกับการปฏิบัติจริง และการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ การประเมินผลควรมีการติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อสะท้อนความก้าวหน้าของนักศึกษาในแต่ละด้าน อีกทั้งการปรับกระบวนการให้รวดเร็วและมีความโปร่งใสมากขึ้น ทั้งในการประเมินผลการเรียนและการแจ้งผลให้กับนักศึกษาอย่างชัดเจนเพื่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)

[ตัวบ่งชี้ 5.4] ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ

หมายเหตุ: KPI ให้สอดคล้องและเป็นไปตามที่ระบุใน มคอ.2
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
1. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อยร้อยละ 80 มีส่วนร่วมในการประชุมเพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนินงานหลักสูตร
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

มีการประชุม 4 ครั้งประกอบด้วย
          ครั้งที่ 1 เดือนมีนาคม 2567
          ครั้งที่ 2 เดือนพฤษภาคม 2567
          ครั้งที่ 3 เดือนสิงหาคม 2567
          ครั้งที่ 4 เดือนพฤษภาคม 2568
          มีอาจารยผู้รับผิดชอบหลักสูตรเข้าร่วมครบทั้ง 5 ท่าน ทั้ง 4 ครั้ง

จุดเด่น

หลักสูตรมีการประเมินผลการดำเนินงานที่มีระบบอย่างชัดเจน โดยมีอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรอย่างน้อยร้อยละ 80 เข้าร่วมในการประชุมเพื่อวางแผน ติดตาม และทบทวนการดำเนินงานหลักสูตรเป็นประจำ ทำให้การดำเนินงานของหลักสูตรเป็นไปตามมาตรฐานกรอบคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ยังมีการจัดการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับแผนการดำเนินการ โดยสามารถดำเนินการตามแผนได้ถึงร้อยละ 86.95 ซึ่งแสดงถึงการจัดการที่มีประสิทธิภาพและสามารถทำตามแผนได้ดี

แนวทางเสริม

เพื่อพัฒนากระบวนการดังกล่าวให้ดียิ่งขึ้น ควรเพิ่มการมีส่วนร่วมจากอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในกิจกรรมต่าง ๆ ที่หลากหลาย เช่น การประชุมเชิงปฏิบัติการหรือการอภิปรายเพื่อพัฒนาหลักสูตรในด้านต่าง ๆ รวมถึงการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาจากมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การพัฒนาระบบการประเมินการเรียนการสอนที่มีความเป็นกลางและครอบคลุมการประเมินหลายมิติ เช่น การประเมินจากผู้เรียนและผู้ใช้บัณฑิต สามารถช่วยเสริมสร้างข้อมูลที่ชัดเจนในการปรับปรุงหลักสูตรต่อไป
 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนา

ในกระบวนการจัดการเรียนการสอนและการประเมินผลการเรียนรู้ มีการพัฒนาและปรับปรุงตามมาตรฐานที่กำหนดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ควรมีการเพิ่มการมีส่วนร่วมจากอาจารย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องในการประชุมและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดช่องว่างระหว่างทฤษฎีและปฏิบัติ และให้มีการปรับปรุงตามข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การมีการประชุมร่วมกันระหว่างอาจารย์จากหลากหลายรายวิชา เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นในกระบวนการสอนและการประเมินผล รวมถึงการส่งเสริมการใช้ข้อมูลจากผลการประเมินเพื่อพัฒนาระบบการเรียนการสอนอย่างยั่งยืน

แนวทางปรับปรุง

ควรปรับปรุงระบบการประเมินผลให้มีความหลากหลายและเป็นกลางมากขึ้น โดยการพัฒนาเครื่องมือประเมินที่สามารถจับต้องและสะท้อนผลการเรียนรู้ของนักศึกษาได้อย่างครบถ้วน เช่น การใช้การประเมินผ่านโครงงานหรือการทำงานกลุ่มที่สามารถทดสอบความสามารถและทักษะที่นักศึกษาได้รับจากหลักสูตร นอกจากนี้ ควรเน้นการใช้ผลการประเมินที่ได้จากการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน และผู้ใช้บัณฑิตในภาคสนามเพื่อให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการจัดการเรียนการสอนอย่างแท้จริงและสามารถนำไปสู่การพัฒนาหลักสูตรได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น
 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
2. มีรายละเอียดของหลักสูตรตามแบบ มคอ.2 ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ หรือมาตรฐานคุณวุฒิสาขา/สาขาวิชา [ถ้ามี]
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น
หลักสูตรมีการจัดทำรายละเอียดตามแบบ มคอ.2 ซึ่งสอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติอย่างชัดเจน โดยมีการกำหนดรายละเอียดของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามอย่างครบถ้วน ทำให้หลักสูตรมีความชัดเจนในด้านการจัดการเรียนการสอนและการประเมินผลที่สามารถตรวจสอบและพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพการศึกษาและความสามารถของผู้เรียน

แนวทางเสริม
เพื่อให้หลักสูตรมีความทันสมัยและสอดคล้องกับการพัฒนาทางวิชาการที่เปลี่ยนแปลงไป ควรมีการพิจารณาปรับปรุงรายละเอียดใน มคอ.2 อย่างสม่ำเสมอ โดยการอัปเดตเนื้อหาวิชาหรือประสบการณ์ภาคสนามที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เช่น เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือแนวทางการสร้างสรรค์ที่ทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้เรียนสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ควรเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้มีประสบการณ์ภายนอกในกระบวนการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรเพื่อยกระดับคุณภาพของหลักสูตรให้ดียิ่งขึ้น

 

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนา
แม้ว่าหลักสูตรจะมีการจัดทำรายละเอียดตามแบบ มคอ.2 และสอดคล้องกับกรอบมาตรฐานคุณวุฒิแห่งชาติ แต่การอัปเดตเนื้อหาและการพัฒนาในบางรายวิชายังอาจไม่ทันสมัยเท่าที่ควร โดยเฉพาะในด้านการใช้เทคโนโลยีหรือแนวโน้มใหม่ ๆ ในวงการภาพยนตร์และการผลิตสื่อที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ความเชื่อมโยงระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติในบางรายวิชาอาจต้องพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความเข้าใจและการใช้ทักษะในทางปฏิบัติมากขึ้น

แนวทางปรับปรุง
หลักสูตรควรมีการทบทวนและปรับปรุงเนื้อหาวิชาอย่างต่อเนื่องให้ทันสมัยและสอดคล้องกับแนวโน้มล่าสุดในอุตสาหกรรมสื่อและภาพยนตร์ เช่น การเพิ่มการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น AI หรือการสร้างสรรค์เนื้อหาผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ ควรส่งเสริมการบูรณาการระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติโดยให้มีการฝึกปฏิบัติในสถานการณ์จริงมากขึ้น เช่น การร่วมมือกับสตูดิโอหรือบริษัทผลิตภาพยนตร์ในการให้โอกาสนักศึกษาในการเรียนรู้ภาคปฏิบัติ

 

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
3. มีรายละเอียดของรายวิชา และรายละเอียดของประสบการณ์ภาคสนาม [ถ้ามี] ตามแบบ มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างน้อยก่อนการเปิดสอนในแต่ละภาคการศึกษาให้ครบทุกรายวิชา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น
การจัดทำรายละเอียดของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามตามแบบ มคอ.3 และ มคอ.4 เป็นระบบและมีความครบถ้วน ซึ่งช่วยให้หลักสูตรมีความชัดเจนในการวางแผนการเรียนการสอน ทั้งยังสามารถทำให้การดำเนินการในแต่ละภาคการศึกษามีความเรียบร้อยและตรงเวลา นักศึกษาจึงสามารถเข้าถึงข้อมูลการเรียนรู้และประสบการณ์ภาคสนามได้อย่างเหมาะสมก่อนเริ่มภาคการศึกษา อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ผู้สอนเตรียมความพร้อมได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในรายวิชาที่ต้องใช้ประสบการณ์จากภาคสนาม

แนวทางเสริม
เพื่อให้การดำเนินการมีความสมบูรณ์และทันสมัยยิ่งขึ้น ควรมีการปรับปรุงและทบทวนรายละเอียดของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและแนวโน้มใหม่ ๆ ในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง การสร้างความร่วมมือกับอุตสาหกรรมและสถานประกอบการจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ภาคสนามที่ตอบโจทย์ความต้องการจริงในตลาดและช่วยให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์ตรงที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริง

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนา
การจัดเตรียมรายละเอียดของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามตามแบบ มคอ.3 และ มคอ.4 มีการดำเนินการอย่างครบถ้วนและมีการรายงานข้อมูลภายในกรอบเวลาที่กำหนด แต่บางครั้งอาจพบความล่าช้าในการอัปเดตเนื้อหาวิชาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีหรือความต้องการในอุตสาหกรรมสื่อและภาพยนตร์ที่เปลี่ยนแปลงเร็ว ดังนั้นการปรับปรุงข้อมูลเหล่านี้ให้ทันสมัยและตรงตามความต้องการในภาคปฏิบัติจะมีผลดีต่อประสิทธิภาพในการเรียนการสอน

แนวทางปรับปรุง
หลักสูตรควรมีการทบทวนและปรับปรุงรายละเอียดของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามในแต่ละภาคการศึกษาให้ทันสมัยและสอดคล้องกับแนวโน้มในวงการภาพยนตร์และสื่อดิจิทัลโดยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และแนวโน้มการผลิตที่กำลังเกิดขึ้น นอกจากนี้ การสร้างประสบการณ์ภาคสนามควรเชื่อมโยงกับโอกาสในการปฏิบัติจริงในอุตสาหกรรม เพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะที่จำเป็นและตอบสนองต่อความต้องการในตลาดแรงงานได้ดียิ่งขึ้น

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
4. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของรายวิชา และรายงานผลการดำเนินการของประสบการณ์ภาคสนาม [ถ้ามี] ตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ภายใน 30 วัน หลังสิ้นสุดภาคการศึกษาที่เปิดสอนให้ครบทุกรายวิชา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น
หลักสูตรมีการจัดทำรายงานผลการดำเนินการของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 อย่างครบถ้วนภายใน 30 วันหลังสิ้นสุดภาคการศึกษา ซึ่งแสดงถึงความมีระเบียบและความรับผิดชอบในการจัดการข้อมูลการเรียนการสอน การจัดทำรายงานตามแบบดังกล่าวช่วยให้สามารถติดตามและประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถปรับปรุงกระบวนการสอนในอนาคตได้ทันที

แนวทางเสริม
เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการจัดทำรายงาน ควรมีการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการรวบรวมและประมวลผลข้อมูลจากการดำเนินการของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามอย่างอัตโนมัติ เช่น การใช้ระบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ (LMS) เพื่อให้สามารถจัดเก็บและจัดทำรายงานได้อย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำ นอกจากนี้ ควรจัดให้มีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากอาจารย์เพื่อหารือถึงแนวทางการปรับปรุงรายวิชาอย่างต่อเนื่องจากผลการประเมินในรายงานเพื่อพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนให้ดีขึ้น

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่ควรพัฒนา
การจัดทำรายงานผลการดำเนินการของรายวิชาและประสบการณ์ภาคสนามตามแบบ มคอ.5 และ มคอ.6 ในระยะเวลาที่กำหนดเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่หากจะให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรมีการประเมินผลอย่างครอบคลุมในทุกมิติ เช่น การประเมินผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาในแต่ละวิชาและประสบการณ์ภาคสนาม รวมถึงการให้คำแนะนำในการพัฒนารายวิชาและการเรียนรู้ในอนาคต โดยอาจมีการเชื่อมโยงการประเมินผลเข้ากับผลลัพธ์การเรียนรู้ที่คาดหวัง

แนวทางปรับปรุง
ควรพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการการจัดทำรายงานให้ครอบคลุมผลการดำเนินการที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และการมีส่วนร่วมของนักศึกษาในรายวิชาต่างๆ มากยิ่งขึ้น การใช้เทคโนโลยีในการจัดเก็บข้อมูลและการติดตามผลการเรียนการสอนเป็นทางเลือกที่สามารถช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการเก็บข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดทำรายงาน นอกจากนี้ ควรเพิ่มระบบการประเมินผลจากทั้งอาจารย์และนักศึกษาเพื่อให้มีข้อมูลที่หลากหลายและครบถ้วนสำหรับการปรับปรุงคุณภาพการเรียนการสอนในระยะยาว

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
5. จัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตรตามแบบ มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลังสิ้นสุดปีการศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น
การจัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตรตามแบบ มคอ.7 ภายใน 60 วัน หลังสิ้นสุดปีการศึกษาถือเป็นการดำเนินงานที่มีความเป็นระบบ และสามารถสะท้อนให้เห็นถึงการประเมินผลการเรียนรู้รวมถึงประสิทธิภาพของหลักสูตรที่ดำเนินการในปีการศึกษานั้นๆ ได้อย่างชัดเจน ซึ่งช่วยให้เห็นผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักศึกษาและพัฒนาการของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวทางเสริม
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดทำรายงาน มคอ.7 ควรมีการบูรณาการข้อมูลจากการประเมินผลการเรียนรู้จากทั้งนักศึกษาและอาจารย์ เพื่อให้ข้อมูลที่ได้มีความหลากหลายและครบถ้วน นอกจากนี้ ควรพิจารณาการใช้เทคโนโลยีหรือแพลตฟอร์มดิจิทัลในการจัดทำและติดตามรายงานผล เพื่อเพิ่มความสะดวกและลดความซับซ้อนในการรวบรวมข้อมูลและการจัดทำรายงานให้เสร็จสิ้นตามกำหนดเวลา

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนา
การจัดทำรายงานผลการดำเนินการของหลักสูตรตามแบบ มคอ.7 ภายใน 60 วันหลังสิ้นสุดปีการศึกษานั้นยังคงมีความท้าทายในการรวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่งที่มา ซึ่งอาจส่งผลให้บางครั้งเกิดความล่าช้าในการจัดทำรายงานที่มีคุณภาพ เนื่องจากกระบวนการประเมินอาจต้องการการตรวจสอบจากหลายฝ่าย จึงอาจจะไม่เสร็จตามกรอบเวลาที่กำหนด

แนวทางปรับปรุง
เพื่อให้การจัดทำรายงาน มคอ.7 มีความแม่นยำและเสร็จตามกำหนดเวลา ควรมีการพัฒนาระบบที่สามารถรวบรวมข้อมูลและประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ซอฟต์แวร์หรือระบบดิจิทัลในการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากอาจารย์และนักศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการจัดทำแผนการตรวจสอบข้อมูลเพื่อให้กระบวนการดำเนินการสอดคล้องกับกรอบเวลาที่กำหนด

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
6. มีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ ที่กำหนดใน มคอ.3 และ มคอ.4 [ถ้ามี] อย่างน้อยร้อยละ 25 ของรายวิชาที่เปิดสอนในแต่ละปีการศึกษา
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

          มีการทวนสอบ 8 รายวิชา คิดเป็น
8/23=34.78 


จุดเด่น
การทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ที่กำหนดใน มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างน้อยร้อยละ 25 ของรายวิชาที่เปิดสอนในแต่ละปีการศึกษานั้น เป็นการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบความสอดคล้องของผลลัพธ์การเรียนรู้กับมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งช่วยเสริมสร้างความมั่นใจในคุณภาพการศึกษา โดยมีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ในวิชาที่สำคัญและวิชาที่เกี่ยวข้องกับทักษะที่ใช้ในอุตสาหกรรม

แนวทางเสริม
เพื่อให้การทวนสอบผลสัมฤทธิ์มีความครอบคลุมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ควรพิจารณาการทบทวนผลสัมฤทธิ์ในทุก ๆ วิชาที่มีการเรียนการสอน รวมถึงการเพิ่มระบบการประเมินที่สามารถสะท้อนถึงการพัฒนาของนักศึกษาในทุกด้านของหลักสูตร ทั้งในด้านทักษะวิชาชีพและการมีส่วนร่วมต่อสังคม โดยใช้การประเมินที่หลากหลายและเชื่อมโยงกับการพัฒนาทักษะที่จำเป็นในโลกการทำงานจริง

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนา
แม้ว่ามีการทวนสอบผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ใน มคอ.3 และ มคอ.4 อย่างน้อยร้อยละ 25 ของรายวิชาในแต่ละปีการศึกษา แต่การทวนสอบอาจยังไม่ครอบคลุมทุกรายวิชาอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในรายวิชาที่มีความเฉพาะทางหรือวิชาภาคปฏิบัติที่อาจมีความหลากหลายในการประเมินผล นอกจากนี้ ควรมีการพิจารณาใช้การทวนสอบในลักษณะการประเมินระยะยาวมากขึ้น เพื่อให้สามารถประเมินความก้าวหน้าในการพัฒนาทักษะของนักศึกษาในหลายๆ ด้าน

แนวทางปรับปรุง
เพื่อให้การทวนสอบผลสัมฤทธิ์มีความครอบคลุมและมีประสิทธิภาพ ควรเพิ่มการทวนสอบในรายวิชาทุกประเภท โดยเฉพาะในรายวิชาที่มีการฝึกปฏิบัติหรือมีการประเมินในรูปแบบโครงการ เพื่อสามารถสะท้อนถึงผลสัมฤทธิ์ที่แท้จริงของนักศึกษา อีกทั้งควรมีการพัฒนาเครื่องมือประเมินที่สามารถวัดผลการเรียนรู้ได้หลากหลายวิธี รวมถึงการใช้เครื่องมือที่เชื่อมโยงกับการพัฒนาทักษะที่นักศึกษาควรได้รับจากหลักสูตร

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
7. มีการพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน หรือการประเมินผลการเรียนรู้จากผลการประเมินการดำเนินงานที่รายงานใน มคอ.7 ปีที่แล้ว
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น
หลักสูตรมีการพัฒนาและปรับปรุงการจัดการเรียนการสอน กลยุทธ์การสอน และการประเมินผลการเรียนรู้จากผลการประเมินใน มคอ.7 ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ข้อมูลที่ได้จากการประเมินของนักศึกษาและอาจารย์มาพิจารณาเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในปีถัดไป การดำเนินการเช่นนี้ช่วยให้หลักสูตรมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้ตามผลลัพธ์ที่ได้จากการประเมิน.

แนวทางเสริม
เพื่อยกระดับการพัฒนาและปรับปรุงการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรมีการจัดระบบการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผลการประเมินจากทุกแหล่ง รวมทั้งจากนักศึกษาและผู้ใช้บัณฑิต เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาทั้งหลักสูตรและวิธีการสอนในลักษณะเป็นระบบระยะยาว อีกทั้งควรให้ความสำคัญในการฝึกอบรมอาจารย์ให้สามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปปรับใช้ในเชิงปฏิบัติและตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษาได้ดีขึ้น

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนา
การพัฒนาปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนและกลยุทธ์การสอนจากผลการประเมินใน มคอ.7 เป็นจุดเด่นที่สำคัญในการยกระดับคุณภาพการเรียนการสอนอย่างต่อเนื่อง แต่การพัฒนาควรเน้นการตอบสนองต่อความต้องการและผลการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจริงจากนักศึกษาอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของการปรับการสอนที่เหมาะสมกับทักษะเฉพาะด้านที่นักศึกษาจำเป็นต้องพัฒนา ควรมีการนำความคิดเห็นจากการประเมินไปปรับกลยุทธ์การสอนอย่างมีระบบเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ความต้องการในแต่ละรายวิชา

แนวทางปรับปรุง
ควรเสริมสร้างกระบวนการที่ให้ผลการประเมินสามารถนำมาใช้เป็นฐานข้อมูลในการพัฒนาและปรับกลยุทธ์การสอนอย่างเป็นระบบ โดยการนำผลการประเมินจาก มคอ.7 มาใช้ในการทบทวนวิธีการสอนและการประเมินผลในทุกๆ ปีการศึกษา พร้อมทั้งใช้ข้อมูลจากนักศึกษาผ่านการสำรวจความพึงพอใจและข้อเสนอแนะ เพื่อนำไปปรับเปลี่ยนและพัฒนาหลักสูตรหรือวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
8. อาจารย์ใหม่ [ถ้ามี] ทุกคน ได้รับการปฐมนิเทศ หรือคำแนะนำด้านการจัดการเรียนการสอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

-

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
9. อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคนได้รับการพัฒนาทางวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ อย่างน้อยปีละหนึ่งครั้ง
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น
การที่อาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรทุกคนได้รับการพัฒนาทางวิชาการและ/หรือวิชาชีพอย่างน้อยปีละหนึ่งครั้งถือเป็นแนวทางที่ดีในการยกระดับคุณภาพการสอนและการพัฒนาความรู้ของอาจารย์ การเข้าร่วมอบรมและกิจกรรมทางวิชาการที่หลากหลายสามารถช่วยเสริมทักษะและความรู้ของอาจารย์ ทำให้สามารถนำมาปรับใช้ในการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการอัพเดตเทคนิคใหม่ ๆ และแนวโน้มของการศึกษา

แนวทางเสริม
ควรมีการติดตามและประเมินผลจากการพัฒนาอาจารย์ในแต่ละปี เช่น การให้ฟีดแบ็กจากอาจารย์ที่เข้าร่วมกิจกรรมการอบรมหรือการมีการทบทวนผลสัมฤทธิ์จากการนำสิ่งที่เรียนรู้มาประยุกต์ใช้ในการสอน นอกจากนี้ ควรส่งเสริมให้อาจารย์มีโอกาสร่วมกิจกรรมที่ไม่เพียงแต่เฉพาะด้านวิชาการ แต่ยังรวมถึงการพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมสร้างความหลากหลายในการเรียนการสอนและการพัฒนาความสามารถในด้านต่าง ๆ อย่างครบวงจร

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่ควรพัฒนา
การพัฒนาอาจารย์ในด้านวิชาการและวิชาชีพยังเป็นสิ่งที่สำคัญและมีผลต่อการพัฒนาคุณภาพการสอน แต่อาจารย์บางท่านอาจยังไม่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องหรืออาจได้รับการพัฒนาในหัวข้อที่ไม่ตรงกับความต้องการเฉพาะของหลักสูตรหรือวิชาที่สอน เช่น การฝึกอบรมที่มุ่งเน้นเฉพาะด้านวิชาการ แต่ขาดการพัฒนาด้านทักษะการสื่อสารหรือการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอน ซึ่งในปัจจุบันเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง

แนวทางปรับปรุง
ควรเพิ่มการพัฒนาหลักสูตรการฝึกอบรมที่ครอบคลุมทั้งด้านวิชาการและทักษะการใช้เทคโนโลยีในการสอน รวมถึงการพัฒนาทักษะการสื่อสารในห้องเรียน การมีเวิร์กช็อปหรือการอบรมที่เน้นให้ผู้สอนสามารถนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาประยุกต์ใช้ในการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การตั้งกลไกการประเมินผลการพัฒนาอาจารย์ในแต่ละปี เช่น การประเมินการนำความรู้จากการอบรมมาใช้จริง จะช่วยให้สามารถปรับปรุงได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนในหลักสูตรอย่างต่อเนื่อง

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
10. จำนวนบุคลากรสนับสนุนการเรียนการสอน [ถ้ามี] ได้รับการพัฒนาวิชาการ และ/หรือวิชาชีพ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ต่อปี
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

-

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
-
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
11. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาปีสุดท้าย/บัณฑิตใหม่ที่มีต่อคุณภาพหลักสูตร เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น
การที่หลักสูตรได้รับคะแนนความพึงพอใจเฉลี่ยจากนักศึกษาปีสุดท้าย/บัณฑิตใหม่ที่ 4.61 ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด (3.50) แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการดำเนินงานหลักสูตรและการตอบสนองต่อความต้องการของนักศึกษาได้ดี โดยเฉพาะในด้านคุณภาพการสอนและการพัฒนาคุณลักษณะของนักศึกษา ซึ่งช่วยสร้างความมั่นใจในความสำเร็จของหลักสูตรในการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษา.

แนวทางเสริม
แม้ว่าความพึงพอใจจะสูง แต่ยังสามารถดำเนินการปรับปรุงในบางด้าน เช่น การพัฒนาทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนที่เหมาะสมและทันสมัย เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการที่หลากหลายของนักศึกษา รวมถึงการเพิ่มโอกาสให้บัณฑิตใหม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเสริมทักษะด้านวิชาชีพและทักษะสังคมมากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมให้กับตลาดแรงงานในยุคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่ควรพัฒนา

แม้ว่าคะแนนความพึงพอใจจะอยู่ในระดับสูง (4.61) ซึ่งบ่งชี้ถึงความสำเร็จของหลักสูตรในด้านการสอนและการพัฒนาคุณลักษณะของนักศึกษา แต่อาจมีบางด้านที่นักศึกษารู้สึกว่าอาจต้องการการปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น ด้านทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนและการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีการศึกษา การเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่อาจจะยังไม่เพียงพอต่อความต้องการที่หลากหลายของนักศึกษาในบางรายวิชา

แนวทางปรับปรุง

ควรพัฒนาและปรับปรุงทรัพยากรการเรียนการสอนให้ทันสมัยและครอบคลุมมากขึ้น โดยการลงทุนในเทคโนโลยีการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับการเรียนรู้ที่หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการสนับสนุนเพิ่มเติมในการเตรียมความพร้อมทางวิชาชีพให้กับนักศึกษาและบัณฑิตใหม่ เช่น การจัดกิจกรรมเสริมทักษะด้านการสื่อสาร การทำงานร่วมกัน และการฝึกฝนการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาเพื่อเสริมสร้างทักษะที่เหมาะสมกับตลาดงาน

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
12. ระดับความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.50 จากคะแนนเต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

จุดเด่น

ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตที่มีต่อบัณฑิตใหม่ในปีการศึกษา 2566 อยู่ที่ 4.41 ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ (3.50) แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจในคุณภาพบัณฑิตที่สำเร็จการศึกษา โดยผู้ใช้บัณฑิตให้คะแนนสูงในด้านต่าง ๆ เช่น ทักษะวิชาชีพ การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยี ซึ่งสะท้อนถึงการเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาได้ตรงกับความต้องการของตลาดงานและอุตสาหกรรม.

แนวทางเสริม

แม้ผลการประเมินจะดีอยู่แล้ว แต่ยังคงสามารถพัฒนาได้ โดยการให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมด้านทักษะอ่อน (Soft Skills) เช่น การทำงานเป็นทีม การคิดวิเคราะห์ การจัดการเวลา และการพัฒนาความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงได้เร็ว การสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมสามารถช่วยพัฒนาทักษะที่สำคัญเหล่านี้ให้กับบัณฑิตใหม่ได้ดียิ่งขึ้น

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่ควรพัฒนา

แม้ว่าผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้บัณฑิตจะสูงกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนด แต่ยังคงมีพื้นที่สำหรับการปรับปรุงเพิ่มเติม เช่น การเสริมสร้างทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น ทักษะการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือการมีทักษะที่สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม การพัฒนาในด้านนี้จะช่วยให้นักศึกษามีคุณภาพที่สามารถแข่งขันในตลาดงานได้มากยิ่งขึ้น

แนวทางปรับปรุง

การเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษาและภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมจะช่วยให้บัณฑิตได้รับการฝึกฝนทักษะที่ตรงกับความต้องการของตลาดงานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับทักษะที่กำลังได้รับความนิยม เช่น การใช้เทคโนโลยีดิจิทัล, AI, หรือการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ จะช่วยให้บัณฑิตมีความสามารถในการตอบโจทย์ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงเร็วได้ดีขึ้น

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
13. ร้อยละ 80 ของรายวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอน สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนด
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

          หลักสูตรระบุ มีรายวิชาที่เปิดสอน 23 รายวิชา และไม่มีรายวิชาที่ไม่สามารถดำเนินการได้ จึงต้องเป็น 100% ของรายวิชาที่มีการจัดการเรียนการสอน สามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนด

จุดเด่น
หลักสูตรมีการดำเนินการตามแผนการเรียนการสอนที่กำหนดไว้ได้ถึง 80% ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพในการจัดการเรียนการสอนและความมุ่งมั่นในการดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ โดยมีการประเมินและติดตามผลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งช่วยให้มั่นใจได้ว่าการเรียนการสอนจะสามารถตอบสนองเป้าหมายการศึกษาและผลลัพธ์ที่คาดหวังจากหลักสูตรได้อย่างมีคุณภาพและตรงตามมาตรฐานที่กำหนด

แนวทางเสริม
ควรเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับแผนการสอนในกรณีที่เกิดสถานการณ์ที่ไม่สามารถดำเนินการได้ตามแผนเดิม เช่น การพัฒนาความสามารถในการปรับแผนการเรียนการสอนให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น โดยการเตรียมการให้พร้อมและการมีแผนสำรองที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้สามารถรักษามาตรฐานการศึกษาและทำให้การเรียนการสอนดำเนินไปได้ตามแผนได้ในทุกสถานการณ์

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

จุดที่ควรพัฒนา

แม้ว่าหลักสูตรสามารถดำเนินการตามแผนการสอนได้มากกว่าร้อยละ 80 แต่การดำเนินการอาจยังไม่สมบูรณ์ในทุกด้าน การประเมินผลการเรียนรู้บางรายวิชายังอาจขาดการทบทวนหรือไม่เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดในแผนการสอน เช่น การประเมินผลการเรียนรู้ของนักศึกษาอาจไม่ได้สะท้อนถึงทุกแง่มุมที่หลักสูตรต้องการพัฒนาอย่างครบถ้วน รวมถึงการปรับปรุงการใช้ทรัพยากรในการเรียนการสอนและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้

แนวทางปรับปรุง

ควรมีการทบทวนแผนการเรียนการสอนและกระบวนการประเมินผลอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มการตรวจสอบความสมบูรณ์ของรายวิชาและการประเมินผลให้อยู่ในระดับสูงทั้งในเชิงคุณภาพและการดำเนินงาน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกแผนที่ดำเนินการได้จริงตามที่กำหนดไว้ รวมถึงควรมีการฝึกอบรมอาจารย์และบุคลากรในการใช้เครื่องมือประเมินผลใหม่ๆ ที่ทันสมัย และปรับใช้เทคโนโลยีในกระบวนการสอนและการเรียนรู้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพมากขึ้น

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
14. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อคุณภาพการสอน รวมทุกรายวิชา เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนนเต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม
-
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • ในปีการศึกษา 2567 จากผลการประเมินความพึงพอใจต่อคุณภาพการสอน จำนวน 23 รายวิชา ซึ่งรวมทุกรายวิชา มีคะแนน เฉลี่ย 3.40 ซึ่งต่ำกว่าตัวบ่งชี้ที่กำหนด (3.51) หลักสูตรควรมีกระบวนการสอบถามเพิ่มเติมเพื่อนำผลของการศึกษามาปรับปรุงคุณภาพการสอนของสาขาฯ ในปีการศึกษา 2568 ต่อไป
ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ดัชนีบ่งชี้ผลการดำเนินงาน
(Key Performance Indicators)
ผลการประเมิน
(ผ่าน / ไม่ผ่าน)
15. ระดับความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอน เฉลี่ยไม่น้อยกว่า 3.51 จากคะแนน เต็ม 5.00
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น/ ขอข้อมูลเพิ่มเติม
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น
คะแนนความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนในระดับที่ดี (เฉลี่ย 4.46) แสดงให้เห็นว่าแหล่งทรัพยากรที่มีอยู่ เช่น ห้องเรียน สื่อการสอน หรือการเข้าถึงข้อมูลสนับสนุนการเรียนรู้ ได้รับการตอบรับในเชิงบวกจากนักศึกษา ซึ่งแสดงถึงความพร้อมของคณะในเรื่องการสนับสนุนการเรียนการสอนผ่านทรัพยากรที่มีคุณภาพและเพียงพอ

แนวทางเสริม
แม้ว่าคะแนนความพึงพอใจจะดี แต่ยังสามารถพัฒนาได้เพิ่มเติมโดยการเพิ่มความหลากหลายของทรัพยากร เช่น การเสริมสร้างการเข้าถึงเครื่องมือการเรียนรู้ดิจิทัลหรือแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่ทันสมัย และการจัดหาทรัพยากรทางการศึกษาอื่นๆ ที่สามารถปรับใช้กับการเรียนการสอนได้ในทุกรูปแบบเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของนักศึกษาในยุคดิจิทัล และอาจมีการสำรวจความพึงพอใจของนักศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรที่ไม่ได้ถูกระบุในแบบประเมินเพื่อตอบสนองให้ดียิ่งขึ้น

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนา
แม้ว่าเกณฑ์ความพึงพอใจของนักศึกษาต่อทรัพยากรสนับสนุนการเรียนการสอนจะอยู่ในระดับที่ดี แต่การได้คะแนนเฉลี่ย 4.46 ยังสามารถปรับปรุงได้หากมีการสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าถึงหรือการใช้งานทรัพยากรที่มีอยู่ ซึ่งอาจจะพบว่าในบางกรณีทรัพยากรบางประเภทยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักศึกษา หรือมีปัญหาการใช้ทรัพยากรที่ไม่สะดวกหรือล้าสมัย

แนวทางปรับปรุง
การปรับปรุงอาจเริ่มต้นด้วยการสำรวจความต้องการของนักศึกษาเกี่ยวกับทรัพยากรสนับสนุนต่างๆ เช่น การเพิ่มเครื่องมือการเรียนรู้ที่ทันสมัย การพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อการเรียนการสอนที่สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา รวมถึงการปรับปรุงและอัปเดตทรัพยากรทางการศึกษาอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเพิ่มเครื่องมือออนไลน์ที่ช่วยให้การเรียนการสอนมีความหลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
ผลการประเมินจากผลการดำเนินงาน ตัวบ่งชี้ 5.4
ข้อมูลพื้นฐาน ผลการประเมิน
จำนวนยืนยัน กรรมการ
[1] รวมจำนวนตัวบ่งชี้ในแต่ละปี 13 4.50
[2] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านเฉพาะตัวบ่งชี้ที่ 1-5 1-5
[3] ร้อยละของตัวบ่งชี้ที่ 1-5 ที่ผ่าน [ถ้าผ่านทั้ง 5 ข้อจะเป็นร้อยละ 100] 100
[4] จำนวนตัวบ่งชี้ที่ดำเนินการผ่านรวม 12
[5] ร้อยละของตัวบ่งชี้ทั้งหมดที่ผ่าน 92.31
*หมายเหตุการกำหนดเงื่อนไขเกณฑ์การประเมิน
ถ้า [3] น้อยกว่าร้อยละ 100 ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 0.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานน้อยกว่า ร้อยละ 80 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 0.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 80 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 3.50
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 80.01 - 89.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.00
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 90.00 -94.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.50
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 95.00 -99.99 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 4.75
ถ้า [5] มีการดำเนินงานร้อยละ 100 ของตัวบ่งชี้ผลการดำเนินงานที่ระบุไว้ในแต่ละปีมีค่าคะแนนเท่ากับ 5.00
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 5 (4 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.38 คะแนน

องค์ประกอบที่ 6 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้

[ตัวบ่งชี้ 6.1] สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้

คะแนนที่ได้ 3
ระบุเหตุผลที่ได้ 4 หรือ 5 คะแนน:
ประเด็นที่เกี่ยวข้อง
ระบบการดำเนินงานของภาควิชา/คณะ/สถาบัน โดยมีส่วนร่วมของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร เพื่อให้มีสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น
หลักสูตรมีระบบการจัดการสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่เข้มแข็งและมีความต่อเนื่อง โดยมีการสำรวจความต้องการของอาจารย์และนักศึกษาในแต่ละภาคการศึกษา เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่จัดหามีความทันสมัยและเหมาะสมกับการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล รวมถึงการมีส่วนร่วมของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรในทุกขั้นตอน ทำให้สามารถจัดหาอุปกรณ์ที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ทรัพยากรเหล่านี้สามารถสนับสนุนการเรียนรู้ในสาขาวิชาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

แนวทางเสริม
การพัฒนาเพิ่มเติมอาจทำได้โดยการเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างอาจารย์และนักศึกษาในการรวบรวมความคิดเห็นเกี่ยวกับสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่ยังขาดหาย หรือไม่ได้ผลตามคาดหวังในบางรายวิชา เพื่อปรับปรุงให้ตรงกับความต้องการจริงๆ อีกทั้ง ควรพิจารณาการเพิ่มสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ในด้านที่ยังขาด เช่น ห้องปฏิบัติการเฉพาะทางที่มีจำนวนจำกัด หรือการลงทุนในเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การใช้เทคโนโลยีออนไลน์เพื่อการเรียนการสอน เช่น การใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้หรือซอฟต์แวร์เฉพาะทางต่างๆ จะช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษาให้ทันสมัยและสอดคล้องกับอุตสาหกรรมมากขึ้น

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

ข้อคิดเห็นที่ควรพัฒนา
แม้ว่าหลักสูตรจะมีการจัดการสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย แต่ควรให้ความสำคัญกับการสำรวจและพัฒนาเทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ที่มีความจำเป็นเพิ่มเติม โดยเฉพาะในช่วงที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เช่น การใช้เครื่องมือในการผลิตผลงานที่ต้องการอุปกรณ์หรือโปรแกรมที่มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการสร้างภาพ 3D หรือการใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะทางที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยการสำรวจและรวบรวมข้อมูลจากอาจารย์และนักศึกษาควรมีการทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถตอบสนองได้ทันทีในกรณีที่มีความต้องการที่เพิ่มขึ้น

แนวทางปรับปรุง
การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือเครื่องมือที่เหมาะสมกับการเรียนการสอนมาใช้เพิ่มเติม เช่น การจัดหาซอฟต์แวร์หรืออุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่รองรับการเรียนการสอนในสาขาวิชาด้านการผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์ ควรทำในรูปแบบที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย โดยการจัดหาชุดเครื่องมือหรือโปรแกรมที่นักศึกษาและอาจารย์สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ควรเสริมสร้างระบบสนับสนุนการเรียนรู้ทางออนไลน์ให้สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะการใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่มีฟังก์ชั่นการร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างอาจารย์และนักศึกษา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและตอบโจทย์การเรียนรู้ในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

จำนวนสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลที่เพียงพอและเหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอน
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่น
หลักสูตรได้จัดหาทรัพยากรที่ทันสมัยและเหมาะสมสำหรับการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะห้องเรียนและห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์เฉพาะทางเช่น Premiere, Final Cut, Photoshop, และ After Effect ที่ตอบโจทย์การเรียนการสอนด้านการผลิตสื่อดิจิทัล การมีห้องปฏิบัติการที่รองรับการเรียนรู้จริงทั้งในด้านภาพยนตร์และการสร้างสรรค์สื่ออื่นๆ ทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม

แนวทางเสริม
ควรขยายการพัฒนาทรัพยากรที่รองรับการเรียนการสอนในยุคดิจิทัลให้มีความครอบคลุมและทันสมัยยิ่งขึ้น เช่น การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการผลิตสื่อดิจิทัล เช่น ซอฟต์แวร์สำหรับการสร้างภาพ 3D หรือการใช้เทคโนโลยี VR/AR ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และกระตุ้นการพัฒนาทักษะที่ตอบโจทย์ตลาดแรงงานในอนาคต นอกจากนี้ยังควรเพิ่มการสนับสนุนเครื่องมือการเรียนการสอนออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงการเรียนรู้ได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้นในกรณีที่ต้องเรียนจากที่บ้านหรือสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถไปเรียนในห้องเรียนได้

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • ปรับการรายงานหน้า 112-113
  • เนื่องจากหลักสูตรมีจำนวนนักศึกษาเกินกว่าเป้าหมายมาก (รวม 4 ชั้นปี = 196 แต่ในแผน = 108 คน) ขอให้การรายงานมุ่งเน้นประเด็นความเพียงพอ และระบุการเพิ่มขึ้นของสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ในประเด็นต่าง ๆ ทั้งสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ทางตรง ได้แก่ อุปกรณ์การเรียน ห้องปฏิบัติการ หนังสือ วารสาร และสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ทางอ้อม เช่น โครงสร้างพื้นฐาน จำนวนห้องเรียน จำนวนห้องปฏิบัติการ
  • รวมทั้งนำเสนอในประเด็นความเหมาะสม เช่น ความทันสมัย และความพร้อมสมบูรณ์ของสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้
  • รายงานว่า มีสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้อะไรบ้าง เพียงพอหรือไม่ เพียงพออย่างไร เหมาะสมหรือไม่ เหมาะสมอย่างไร
    • ก่อน 2567 VS 2567

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนา:
ถึงแม้หลักสูตรจะมีการจัดเตรียมทรัพยากการเรียนรู้ที่ทันสมัยและหลากหลาย แต่ในบางครั้งอาจมีข้อจำกัดในการจัดการทรัพยากรที่เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของนักศึกษาในภาคการศึกษาที่มีจำนวนมาก เช่น การใช้ห้องปฏิบัติการที่อาจไม่เพียงพอในบางช่วงเวลา หรือบางเครื่องมืออาจมีการใช้งานซ้ำซ้อนในหลายๆ รายวิชา สิ่งนี้อาจทำให้เกิดความล่าช้าหรือความไม่สะดวกในการใช้งาน

แนวทางปรับปรุง
ควรมีการปรับปรุงระบบการจัดสรรและการใช้ทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการเพิ่มจำนวนห้องปฏิบัติการหรือเครื่องมือที่ใช้ในการเรียนการสอน และการวางแผนการใช้ทรัพยากรให้เหมาะสมในช่วงเวลาที่ต้องการสูงสุด นอกจากนี้ ควรมีการใช้เทคโนโลยีสนับสนุนการเรียนการสอนออนไลน์เพิ่มขึ้น เช่น การจัดทำเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้แบบออนไลน์ หรือการฝึกอบรมอาจารย์และนักศึกษาให้ใช้ซอฟต์แวร์และเครื่องมือดิจิทัลที่ทันสมัยในลักษณะที่สามารถใช้ได้ทั้งในห้องเรียนและออนไลน์เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการเรียนรู้

กระบวนการปรับปรุงตามผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล
ข้อคิดเห็นเบื้องต้น / ขอข้อมูลเพิ่มเติม:
ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดเด่นและแนวทางเสริม

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนา
หลักสูตรมีการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ในเรื่องสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีในการพัฒนาและปรับปรุง แต่ผลการประเมินความพึงพอใจในบางด้านยังคงต่ำกว่าที่คาดหวัง โดยเฉพาะในด้านของห้องสมุดและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น การขนส่งหรือโรงอาหาร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การเรียนรู้โดยรวมของนักศึกษา

แนวทางเสริม
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาและปรับปรุงสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ควรมีการวิเคราะห์ผลการประเมินความพึงพอใจในเชิงลึก โดยเฉพาะในด้านที่มีคะแนนต่ำ เช่น การจัดการทรัพยากรในห้องสมุดหรือการให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จากนั้นควรมีการวางแผนการพัฒนาหรือปรับปรุงพื้นที่เหล่านั้นให้มีความทันสมัยและเพียงพอสำหรับการใช้งาน นอกจากนี้ ควรเน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการพัฒนาเครื่องมือการเรียนรู้และการบริการเพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ของนักศึกษาในยุคดิจิทัลได้อย่างเต็มที่

ระบุข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง
  • ผลการประเมินของอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรเป็นอย่างไร มีข้อเสนอแนะต่อภาควิชา/วิทยาลัย/สถาบันอย่างไรต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้
    • หลักสูตร และ/หรือ วิทยาลัย และ/หรือ สถาบันมีการปรับปรุงสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เอื้อต่อการเรียนรู้ในยุคดิจิทัลอย่างไร 
    • มีระบบ/กลไกอย่างไร ปี 2567 ดำเนินการอย่างไร เมื่อดำเนินการแล้วเป็นอย่างไร มีความพึงพอใจหรือไม่ ถ้าไม่ เพราะอะไร
  • นำเสนอเฉพาะคะแนนความพึงพอใจ (rating scale) หลักสูตรนำข้อมูลใดมาเป็นแนวทางปรับ 
    • ข้อมูลคะแนนรายข้อหรือไม่ ถ้าปรับดำเนินการตาม PDCA อย่างไร

ข้อคิดเห็นที่เป็นจุดที่ควรพัฒนา
การดำเนินงานในการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาและอาจารย์ต่อสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกในยุคดิจิทัลนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่ยังมีบางสิ่งที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองตามความต้องการของผู้ใช้บริการ ตัวอย่างเช่น ความพึงพอใจในด้านห้องสมุดและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ที่ยังคงมีค่าคะแนนเฉลี่ยต่ำ หรือไม่ตรงตามที่คาดหวัง ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของนักศึกษา และอาจทำให้เกิดความไม่พึงพอใจจากนักศึกษาและอาจารย์ที่เกี่ยวข้อง

แนวทางปรับปรุง
ควรให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพของสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ เช่น ห้องสมุด อุปกรณ์ และเทคโนโลยี โดยเน้นการปรับปรุงห้องสมุดให้มีหนังสือและวัสดุที่ทันสมัย สอดคล้องกับการเรียนการสอนในยุคดิจิทัล รวมถึงการปรับปรุงระบบการบริการที่สามารถตอบสนองความต้องการได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเน้นการฝึกอบรมอาจารย์และบุคลากรเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเต็มที่

ให้เพิ่มเติมรายการหลักฐานดังนี้ (ถ้ามี)
  • ผลการประเมินความพึงพอใจของอาจารย์
  • รายการของสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่เพิ่มขึ้น/แก้ไข ในปี 2567
  • ฯลฯ
ผลการประเมิน เฉลี่ยองค์ประกอบที่ 6 (1 ตัวบ่งชี้) คะแนนที่ได้ 3.00 คะแนน

รายงานผลการวิเคราะห์จุดเด่น/จุดแข็ง แนวทางเสริม จุดที่ควรพัฒนา และแนวทางปรับปรุง

จุดเด่นและแนวทางเสริม

  1. หลักสูตรได้รับการยอมรับจากผู้เรียน ซึ่งสะท้อนจากการที่มีผู้เข้าเรียนเกินกว่าแผนการรับนักศึกษา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  2. มีกิจกรรมการพัฒนานักศึกษา และ/หรือรายวิชาที่ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนได้เกิดการพัฒนา LO ด้านต่าง ๆ สะท้อนจากผลการประเมินความพึงพอใจต่อคุณภาพบัณฑิต อัตราการมีงานทำและประกอบอาชีพอิสระ รวมทั้งผลงานของนักศึกษาที่หลักสูตรส่งประกวด
  3. มีระบบและกลไกการดูแลนักศึกษา รวมทั้งการให้คำปรึกษาแก่นักศึกษา จนทำให้อัตราการคงอยู่มีระดับสูง

จุดที่ควรพัฒนาและแนวทางปรับปรุง

  1. เนื่องจากนักศึกษามีจำนวนเพิ่มขึ้น ดังนั้นหลักสูตรควรดำเนินการวางแผนการจัดการเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ ทั้งในด้านจำนวนอาจารย์ผู้สอน การจัดเตรียมสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ที่มีความเพียงพอ เหมาะสม รวมทั้งการวิเคราะห์และหาแนวทางป้องกันการลาออกกลางคันของนักศึกษาซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
  2. อัตราการสำเร็จการศึกษาตามเกณฑ์ (50-60%) เป็นประเด็นที่หลักสูตรต้องดำเนินการวิเคราะห์ปัจจัยสาเหตุ และจัดการเพื่อให้นักศึกษาสามารถสำเร็จการศึกษาได้ตามเป้าหมายของหลักสูตร
  3. ควรดำเนินการส่งเสริมสนับสนุนให้อาจารย์มีการพัฒนาด้านคุณวุฒิ และ/หรือ ตำแหน่งทางวิชาการ
  4. ควรมีการวิเคราะห์ประเด็นตามยุทธศาสตร์ชาติเพื่อนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาให้สามารถผลิตผลงานสร้างสรรค์ตามจุดเน้น และอัตลักษณ์ของหลักสูตร

สรุปผลการดำเนินงานตามตัวบ่งชี้

ตัวบ่งชี้คุณภาพ ผลดำเนินการ
กรรมการ
1.1 การบริหารจัดการหลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรที่กำหนดโดยสกอ. ผ่าน
2.1 คุณภาพบัณฑิตตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ และด้านผลลัพธ์ผู้เรียนตามมาตรฐานการอุดมศึกษา พ.ศ.2561 4.64
2.2 ร้อยละของบัณฑิตปริญญาตรีที่ได้งานทำหรือประกอบอาชีพอิสระภายใน 1 ปี 4.41
3.1 การรับนักศึกษา 3.00
3.2 การส่งเสริมและพัฒนานักศึกษา 3.00
3.3 ผลที่เกิดกับนักศึกษา 3.00
4.1 การบริหารและพัฒนาอาจารย์ 3.00
4.2 คุณภาพอาจารย์ 3.89
4.3 ผลที่เกิดกับอาจารย์ 3.00
5.1 สาระของรายวิชาในหลักสูตร 3.00
5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน 3.00
5.3 การประเมินผู้เรียน 3.00
5.4 ผลการดำเนินงานหลักสูตรตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ 4.50
6.1 สิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ 3.00
ผลการประเมินเฉลี่ยรวม [13 ตัวบ่งชี้] 3.42

การวิเคราะห์คุณภาพการศึกษาภายใน ของคณะกรรมการประเมิน ฯ

องค์ประกอบ ตัวบ่งชี้ I P O คะแนนเฉลี่ย ผลการประเมิน
1 ผ่านการประเมิน หลักสูตรได้มาตรฐาน
2 2 - - 4.53 4.53 ระดับคุณภาพดีมาก
3 3 3.00 - - 3.00 ระดับคุณภาพปานกลาง
4 3 3.30 - - 3.30 ระดับคุณภาพดี
5 4 3.00 3.50 - 3.38 ระดับคุณภาพดี
6 1 - 3.00 - 3.00 ระดับคุณภาพปานกลาง
ผลการประเมิน 3.13 3.38 4.53 3.42 ระดับคุณภาพดี
ระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพดี ระดับคุณภาพดี ระดับคุณภาพดีมาก